พระเครื่อง อมูเลทตั้มศรีวิชัย ตลาดพระเครื่องรางของขลัง สวนไผ่สกลนคร หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล วันตรุษจีน2566

![]() |
>...ตั้มศรีวิชัย TumAmulet ...< Thailand Amulet Charms |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สารบัญพระเครื่องเมืองนคร |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
บูชาพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง Amulets Charms Talismans |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
จตุคาม-รามเทพ หลักเมืองนคร Jatukamramtep (Jatukarm) |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ลิงค์น่าสนใจ |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
พระเครื่อง นานาสาระ |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สวนไผ่ พันธุ์หญ้า ธนภัทรสกลนคร สินค้าเกษตรออนไลน์ ไผ่สายพันธุ์ต่างๆ ไผ่ข้าวหลามกาบแดง ไผ่ซางหม่น หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้านรกจักรพรรดิ์ หญ้าเนเปียร์ปากช่อง1 หญ้าเนเปียร์แคระ หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ สะสมพระเครื่อง แต่ใจรักเกษตรผสมผสาน
|
พระกริ่งใหญ่ หรือ พระกริ่งจีน นับว่าเป็นต้นแบบพระกริ่งในประเทศ ![]()
คมเลนส์ส่องพ่อวันอาทิตย์ที่23พ.ย.2551 *** วันอาทิตย์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ นี้มี งานประกวดพระ ที่สนามกีฬา จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดโดย สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ และ ชมรมพระเครื่องเมืองอุตรดิตถ์ โดย ชวลิตร พุ่มอรัญ (น้อย อุตรดิตถ์) สมศักดิ์ ศรีสุข (จุก อุตรดิตถ์) ฯลฯ ดำเนินงาน และมีผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ธวัชชัย ฟักอังกูร เป็นประธานจัดงาน รายการพระที่จัดประกวดมีครบทุกประเภท ๑,๒๐๐ ราย รวมทั้งพระท้องถิ่นหลายร้อยรายการ เพื่อเป็นการจุดประกายให้ พี่น้องชาวอุตรดิตถ์ และจังหวัดใกล้เคียง รู้จักวิธีการอนุรักษ์พระเครื่องว่าจะต้องทำกันอย่างไร ที่จะทำให้พระเครื่องมีสภาพเดิมๆ รวมทั้งจะได้รักและหวงแหนพระเครื่องในท้องถิ่นของตน ที่ถือว่าเป็นสมบัติอันล้ำค่าของแผ่นดินเกิด โดยทั่วหน้ากัน...สำหรับ รางวัลพระชนะการประกวด ในงานนี้ เจ้าภาพใจป้ำมาก คือ รางวัลที่ ๑ หนังสือ พระเครื่องเมืองอุตรดิตถ์ รางวัลที่ ๒ หนังสือ พระยอดนิยม (ปกติงานทั่วไป รางวัลที่ ๒ ไม่มีหนังสือแจกให้ แต่งานนี้เขาให้...สุดยอดจริงๆ) ** เพื่อเป็นการต้อนรับงานประกวดพระที่ จ.อุตรดิตถ์ วันนี้จึงขอแนะนำ หลวงพ่อเพชร วัดท่าถนน จ.อุตรดิตถ์ อันเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์ ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร ศิลปะเชียงแสนสิงห์หนึ่ง หน้าตักกว้าง ๓๒ นิ้ว เนื้อสัมฤทธิ์ พุทธลักษณะงดงามมาก...ตามประวัติ เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๖ หลวงพ่อด้วง เจ้าอาวาสวัดหมอนไม้ ขุดพบพระพุทธรูปองค์นี้ ที่จอมปลวกขนาดใหญ่ในวัดร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นวัดโบราณ จึงอัญเชิญไปไว้ที่วัดหมอนไม้ ต่อมาเห็นว่า ที่วัดนี้ไม่มีอุโบสถที่จะประดิษฐานพระพุทธรูปได้อย่างเหมาะสม ประกอบกับมีชาวบ้านที่ทราบข่าวมากราบไหว้บูชาสักการะเป็นจำนวนมาก ทั้งยังเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องโจรผู้ร้าย จะมาลักขโมย จึงอัญเชิญพระพุทธรูปไปประดิษฐานที่ วัดวังเตาหม้อ หรือ วัดท่าถนน ในทุกวันนี้ ซึ่งมี หลวงพ่อเพชร เป็นเจ้าอาวาสอยู่ วัดและชาวบ้านจึงถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า หลวงพ่อเพชร ต่อมาปี ๒๔๔๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างวัดเบญจมบพิตร ที่กรุงเทพฯ จึงอัญเชิญ พระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร จาก วัดวังเตาหม้อ มาประดิษฐานที่วัดเบญจมบพิตร พร้อมกับพระพุทธรูปองค์อื่นๆ จากทั่วราชอาณาจักร อีกหลายองค์ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร กลับไปประดิษฐานไว้ที่ วัดวังเตาหม้อ ตามคำขอของชาวเมืองอุตรดิตถ์ และได้ประดิษฐานเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อยู่ในวิหารทางด้านทิศเหนือของ อุโบสถ วัดท่าถนน (วัดวังเตาหม้อ) จนทุกวันนี้ ** ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทางวัดได้จัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อเพชรออกมาหลายรุ่น และที่นิยมกันมากรุ่นหนึ่งก็คือ เหรียญกลัดหลวงพ่อเพชร พิมพ์กนกนอก เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง พ.ศ.๒๔๘๓ ซึ่งออกแบบได้อย่างงดงามประณีตมาก เช่าหากันในทุกวันนี้ที่หลักหมื่นขึ้นไป ที่เห็นในภาพนี้เป็นเหรียญของ สมนึก ศรีวันทนียกุล นักธุรกิจชาวเมืองพิษณุโลก ผู้มีความศรัทธาเลื่อมใสในองค์ หลวงพ่อเพชร นี้มากเป็นพิเศษ ** พระกริ่งใหญ่ หรือ พระกริ่งจีน เป็นพระกริ่งนอก ที่สร้างขึ้นในประเทศจีน เป็นพระบูชาขนาดเล็ก ที่จำลองมาจากองค์ สมเด็จพระสัมมาไภสัชยคุรุพุทธเจ้า หรือ "พระหมอ" ต้นกำเนิดการสร้างพระกริ่งของจีนได้รับอิทธิพลมาจากประเทศทิเบต ดังนั้นพิมพ์ทรงองค์พระและศิลปะ ตลอดจนกระแสของเนื้อพระกริ่งในยุคต้นๆ จะเป็นเนื้อสัมฤทธิ์แก่เงิน แบบพระบูชา และมีพุทธลักษณะที่ใกล้เคียงกับ พระกริ่งทิเบต มาก แต่พระกริ่งจีนมีความอวบอิ่มบนพระพักตร์ แสดงความเป็น "จีน" เอาไว้อย่างเต็มรูปแบบ และส่วนใหญ่เป็นการสร้างเพื่อไว้เป็นพระบูชาประจำราชวงศ์ ในแต่ละยุคสมัย ซึ่งมีอายุการสร้างมากว่าพันปี ** ในสมัยต่อมา เมื่ออิทธิพลการสร้าง พระกริ่ง ได้แผ่ขยายมาถึงเมืองไทย ก็ได้มีการสร้าง พระกริ่งไทย ขึ้น โดยถอดรูปแบบพิมพ์ทรงองค์พระ และเค้าพระพักตร์ มาจาก พระกริ่งจีน อย่างเต็มตัว แล้วค่อยๆ ประยุกต์เปลี่ยนแปลงไปในภายหลัง ** พระกริ่งจีน (พระกริ่งใหญ่) องค์นี้เป็นของ เช็ง สุพรรณ คนหนุ่มสายเลือดใหม่ผู้ก้าวไกลอย่างไวมากๆ ในวงการพระทุกวันนี้ เพราะอายุยังน้อยนิด แต่สามารถเช่าพระแพงๆ ระดับหลักแสนหลักล้านอยู่เป็นประจำ ** พระอีกองค์ของ เช็ง สุพรรณ ที่นำมาให้ชมพร้อมกันในวันนี้ คือ พระสมเด็จ กรุบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ ไม่มีหู เป็นพระสวยดูง่าย ชนิดที่หาดูได้ยากยิ่ง สำหรับวงการพระในทุกวันนี้ เพราะพระสวยๆ ถูกเศรษฐี คนรวยๆ และนักธุรกิจใหญ่ เก็บเข้าตู้เซฟหมด สังเกตได้จากงานประกวดพระใหญ่ๆ ในทุกวันนี้ ไม่ค่อยมีผู้ส่ง พระสมเด็จ ชนิดสวยคมชัดจริงๆ เข้าประกวดกันเลย บางงานพระชุดเบญจภาคี รวมกันแล้วประมาณ ๓๐ รายการ มีผู้ส่งพระเข้าประกวดไม่กี่สิบองค์เท่านั้นเอง ส่วนใหญ่ที่ถูกคัดออกล้วนเป็น พระปลอม มากกว่า ๙๐% อีกหน่อยอย่าว่าแต่ พระแท้ที่เป็นองค์จริง ให้ได้เห็นเลย แม้แต่ ภาพถ่ายพระแท้ ก็อาจจะหาดูได้ยากยิ่ง ภาพพระแท้ ที่เห็นอยู่ในทุกวันนี้ ล้วนเป็นภาพพระเก่าๆ ที่เคยลงพิมพ์เผยแพร่มาแล้วแทบทั้งนั้น พระสมเด็จแท้ ที่ปรากฏโฉมเป็นครั้งแรก หายากมาก และที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้ คือมี หนังสือพระปลอม ที่อ้างเป็น พระแท้ ในสายตาของเขา ออกมาจำหน่ายมากมายหลายเล่มด้วยกัน รวมทั้งมี ตำรา (พระปลอม) เล่มหนาๆ โตๆ วางขายกันเกลื่อน ที่น่าประหลาดใจมาก คือ หนังสือ/ตำรา พระปลอม เหล่านี้ขายดีเสียด้วย เพราะว่า คนมีพระปลอม นั้นมีจำนวนมากกว่า คนมีพระแท้ นั่นเอง ** ก้าวหน้าไปยิ่งกว่านั้น ก็คือ เวลานี้มีการเปิดอบรม สอนให้ดูพระสมเด็จ ในอีกแนวหนึ่ง ซึ่งต่างไปจากแนวทางของ สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ที่มี พยัพ คำพันธุ์ เป็นนายกสมาคม ซึ่งมีมาตรฐานการสะสมพระแบบสากลที่คนทั่วไปยอมรับกันมาช้านาน ฉะนั้น การหาซื้อ หนังสือพระ นิตยสารพระ หรือ ตำราพระ ในทุกวันนี้ก็ต้องระมัดระวังเอาไว้ด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเงินเปล่าๆ เพราะไปได้หนังสือ พระปลอม มาศึกษา จะยิ่งเข้าป่าดงพงไพรไปอีก !!!
วันนี้...โชคดีได้รับภาพ พระกริ่งเชียงตุง ๒๔๘๖ วัดสุทัศนฯ จาก อ.เกี๊ยก ทวีทรัพย์ ผู้ชำนาญพระกริ่ง/พระรูปหล่อเกจิอาจารย์ยุคเก่า โดยเฉพาะ พระกริ่งสายวัดสุทัศนฯ ทุกรุ่น เรียกได้ว่า แกมองอย่างผิวเผินก็รู้ได้ทันทีว่า เป็นพระกริ่งรุ่นไหน? แท้ หรือ ปลอม ??? ฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ในแต่ละเดือนจะมีพระกริ่งสายนี้ผ่านเข้ามือ อ.เกี๊ยก อยู่เป็นประจำ บางครั้งอาจจะมีคนนำพระกริ่งเข้าไปขายคนอื่น แต่คนซื้อดูไม่ขาด ไม่แน่ใจ ก็ต้องมาตามตัว อ.เกี๊ยก ไปช่วยดูให้ ก็มีอยู่เสมอๆ ทุกวันนี้หากจะบอกว่า อ.เกี๊ยก เป็นมือวางอันดับหนึ่งสายพระกริ่ง/รูปหล่อ บนห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ก็ไม่น่าจะเป็นการ "เว่อร์" จนเกินไป ใครมีพระกริ่งอยู่ในมือ ไม่รู้ว่าเป็นของที่ไหน เอาไปเสนอขาย อ.เกี๊ยก ได้เลย หากเป็นพระแท้ รับเงินสดๆ กลับบ้านทันที ** พระกริ่งเชียงตุง สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนฯ หล่อสร้างในวันคล้ายวันประสูติของพระองค์ท่าน คือ วันเพ็ญเดือน ๑๒ ของปี ๒๔๘๖ โดยมอบให้ พระศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์) เป็นแม่งานจัดพิธีกรรม และมี พระครูวินัยโสภณ (พระอาจารย์หนู) เป็นผู้ร่วมจัดพิธี จำนวนพระกริ่งที่สร้างทั้งหมด ๑๐๘ องค์ จุดประสงค์เพื่อประทานให้แก่ พระสงฆ์และเจ้าหน้าที่กรมการศาสนาทุกคน ที่ได้รับมอบหมายภาระหน้าที่จากรัฐบาลไทย ให้ไปเผยแผ่ดูแลพระพุทธศาสนาใน สาธารณรัฐเชียงตุง ที่กองทัพญี่ปุ่นยึดได้ในคราวสงครามโลกครั้งที่ ๒ เมื่อปี ๒๔๘๔ โดยมีประเทศไทยเข้าร่วมรบด้วย (ความจำเป็น) การต้องไปทำหน้าที่ในถิ่นต่างแดน ที่เราไม่รู้ว่ามีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร เจ้าประคุณสมเด็จฯ ทรงห่วงใยมาก จึงทรงสร้างพระกริ่งรุ่นนี้ขึ้น ให้อาราธนาติดตัวไปคุ้มครองป้องกันภัย รวมทั้งเอาไว้ทำ น้ำมนต์ รักษาอาการป่วยไข้เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อีกด้วย
เอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของ พระกริ่งเชียงตุง คือ รูที่อุดเม็ดกริ่งเป็นรูขนาดใหญ่ อยู่ใกล้เม็ดบัว ทั้งด้านซ้ายและขวา เรียกกันว่า รูใหญ่ใกล้บัว และมักจะปิดรูกริ่งด้วยเนื้อโลหะทองแดง ส่วนสีสันวรรณะของผิวพระ เป็นสีเหลืองอมเขียว ที่เรียกว่า เหลืองไพล นับเป็นพระกริ่งอีกรุ่นหนึ่ง ที่วงการนักสะสมนิยมแสวงหากันมาก ราคาอยู่ที่หลักแสนขึ้นไป ** พระกริ่งเชียงตุง ๒๔๘๖ รุ่นนี้นับเป็นรุ่นสุดท้ายของ เจ้าประคุณสมเด็จฯ (แพ) พอถึงวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๔๘๗ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็สิ้นพระชนม์ สิริพระชนมายุ ๘๙ ปี พรรษา ๖๖ อ.เกี๊ยก บอกว่า พระกริ่งองค์ที่เห็นนี้เป็นฝีมือแต่งเก่าของ อ.ฮั้ว ซึ่งเป็นช่างแต่งพระกริ่งอีกคนหนึ่งที่ได้รับใช้วัดสุทัศนฯ ช่วงนั้น ซึ่งมีช่างแต่งหลายคนด้วยกัน อาทิ ช่างประสาน ศรีไทย ช่างดอน พระครูหนู ฯลฯ ** พระกริ่งเชียงตุง องค์นี้แต่งเดิมเพียงเล็กน้อย เนื่องจากหล่อได้ครบถ้วนสมบูรณ์ดีมาก มีความคมชัดเป็นพิเศษอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ มีลายมือลงเหล็กจารของ ท่านเจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) ที่หน้าผาก หน้าอก และใต้ฐานขององค์พระอีกด้วย
โดยปกติ พระกริ่งวัดสุทัศนฯ หรือไม่ว่าจะเป็นของสำนักไหน หากได้ผ่านมือมาทาง อ.เกี๊ยก จะมีผู้เข้าแถวขอแบ่งเป็นจำนวนมาก เพราะมั่นใจได้ในหลักประกันความแท้ขององค์พระ หาก อ.เกี๊ยก ใจอ่อนทนเสียงอ้อนวอนไม่ไหว ก็มักจะแบ่งปันให้เพื่อนผองน้องพี่ไปในราคามิตรภาพ แต่หากใจแข็ง (มากๆ) ก็ถือไว้ได้นานหน่อย พระกริ่งเชียงตุง องค์ยังอยู่หรือไม่ก็ลองสอบถามไปได้ที่โทร.๐๘-๑๖๑๔-๙๓๐๐ เพราะส่วนใหญ่กว่าจะนำภาพมาลงให้ชมเป็นวิทยาทานในหน้านี้ ก็มีผู้นิมนต์องค์พระไปหลายวันแล้ว ก็มีอยู่เสมอๆ ** อ.เกี๊ยก ทวีทรัพย์ ยังให้ความเห็นอีกว่า ในทุกวันนี้ แม้ตลาดพระส่วนใหญ่จะซบเซาลงไปบ้าง แต่สำหรับ พระกริ่ง รูปหล่อพระเกจิอาจารย์ยุคเก่า ที่เป็นเนื้อโลหะ และเททองหล่อแบบโบราณ ยังคงไปได้ ราคาไม่ตกลงเลย อย่างเช่น รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ พระหลวงพ่อทวด รุ่นหลังเตารีด หรือรุ่นเลขใต้ฐาน (เบตง) ฯลฯ ยังมีการซื้อขายกันในราคาที่สูงเช่นเดิม และปี ๒๕๕๒ ที่กำลังจะมาถึงนี้ ก็จะเป็น ปีทอง ของพระประเภทนี้
๒ สัปดาห์ที่ผ่านมา มี พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เข้าสนามพระอย่างน้อย ๓ องค์ ๒ องค์แรก อ.เกี๊ยก ได้ไป แต่อยู่ไม่นานก็มีคนแบ่งไปทันที องค์ที่ ๓ คนโชคดี คือ เต้ สระบุรี เซียนหนุ่มรูปหล่อ (และโสด) ก็ได้มาองค์หนึ่งเป็น พิมพ์ขี้ตา ๔ ชาย สวยสมบูรณ์มาก คมชัดทุกซอกมุม และเพื่อให้ท่านผู้อ่านที่สนใจ พระหลวงพ่อเงิน ได้ศึกษาอย่างละเอียด เต้ จึงมอบภาพพระองค์นี้มาให้ชมทั้ง ๕ ด้าน ดังที่เห็นอยู่ในขณะนี้
** พระหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา เป็นการเททองหล่อทีละองค์ แบบหยอดขนมครก แม่พิมพ์เอาด้านศีรษะลง เททองลงทางฐานล่าง น้ำทองที่เทลงไปนั้นจะไม่แน่นอน มากบ้าง น้อยบ้าง องค์ไหนน้ำทองน้อย ที่ฐานก็จะเว้าเป็นแอ่ง องค์ไหนน้ำทองมาก ที่ฐานก็นูนขึ้นเล็กน้อย ซึ่งต้องใช้ตะไบถูในภายหลัง และจะปรากฏรอยตะไบที่ใต้ฐาน ท่านผู้อ่าน จำนวนไม่น้อยที่ได้ส่งภาพ พระหลวงพ่อเงิน มาให้คอลัมน์นี้พิจารณาว่า แท้ หรือ ปลอม ปรากฏว่า ตั้งแต่ได้รับภาพมาตลอดปีที่ผ่านมากว่าร้อยองค์ ยังไม่เคยได้รับภาพ พระแท้ มาก่อนเลย เพราะ พระแท้ หายากสุดๆ ราคาก็แสนแพง ชนิดที่เช่าหากันองค์ละไม่กี่ร้อยกี่พันบาท ขอให้ตรองดูเถิดว่าจะเป็น พระแท้ได้อย่างไร ??? หวังว่าภาพ พระหลวงพ่อเงิน ในวันนี้ จะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยให้ท่านผู้สนใจอยากได้ พระหลวงพ่อเงิน เกิดปัญญาเห็นแนวทางของ พระแท้ ได้บ้างไม่มากก็น้อย
พระท่ามะปราง เป็นพระเครื่องขนาดกะทัดรัด ที่มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่าพระนางพญา กรุวัดท่ามะปราง จ.พิษณุโลก มีทั้งเนื้อชิน และเนื้อดินเผา และเป็นพระเครื่องที่ได้รับฉายาว่า พระเงี้ยวทิ้งปืน เนื่องจากสมัยที่แตกกรุใหม่ๆ ทางราชการได้แจกจ่ายแก่ทหารหาญ ที่ถูกส่งขึ้นไปปราบ เงี้ยว ซึ่งได้บุกเข้ามาก่อกวนความสงบสุขของชาวบ้านทางภาคเหนือ การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ถึงขั้นประชิดติดตัว ปรากฏว่าทหารไทยถูกพวกเงี้ยวยิงแทงอย่างไรก็ไม่เข้า จนพวกเงี้ยวตกใจ ในอภินิหารของทหารไทย ถึงกับทิ้งอาวุธต่างๆ วิ่งหนีไปทันที บรรดาทหารไทยที่ไปสู้กับเงี้ยวครั้งนั้น จึงกล่าวยกย่อง พระท่ามะปราง นี้ว่า พระเงี้ยวทิ้งปืน
การขุดพบพระพิมพ์นี้ครั้งแรก คือที่ วัดท่ามะปราง จ.พิษณุโลก ต่อมาได้มีการขุดพบพระพิมพ์เดียวกันนี้ ที่มีพุทธลักษณ์เหมือนกัน หรือใกล้เคียงกัน จากกรุอื่นๆ อีกหลายแห่ง หลายจังหวัด จึงเรียกชื่อเหมือนๆ กันว่า พระท่ามะปราง ทั้งสิ้น พระท่ามะปราง องค์ที่เห็นนี้เป็นพระกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก เนื้อดินเผา สวยดูง่าย มีเสน่ห์ชวนหลงใหล เป็นพระองค์แรกที่ รศ.นพ.พรพรหม เมืองแมน หรือ "หมอต้น ศิริราช" ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังที่เกิดจากอุบัติเหตุ และเป็นนักสะสมพระเครื่องระดับแถวหน้าคนหนึ่งของวงการพระเครื่องเมืองไทย... ได้เช่ามาเมื่อ ๑๐ ปีก่อน เป็นพระองค์ประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ "หมอต้น" ได้ทั้งความรู้ในองค์พระ และความซึ้งใจของคนในวงการพระ "หมอต้น" บอกว่า พระท่ามะปราง องค์นี้เป็นองค์สำคัญในชีวิตของการสะสมพระเครื่อง ที่ทำให้นักสะสมมือใหม่อย่าง "หมอต้น" ได้พบกับ อาจารย์ ผู้ถ่ายทอดวิชาพระเครื่องที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากลให้ เป็นพระองค์แรกที่ได้รู้จักอาจารย์ที่ดีคนหนึ่ง ทำให้ได้ศึกษาถึงศิลปะในองค์พระ และศึกษา คน ในวงการพระด้วย สมัยเล่นพระใหม่ๆ ก็เล่นแบบสะเปะสะปะ ไม่มีหลัก เดินไขว้เขวในวงการมานาน โดนหลอกมาก็มาก จนสุดท้ายคิดว่าจะต้องออกจากวงการนี้ไป แต่อาจเป็นเพราะใจศรัทธารักจริงในการสะสมพระ หรือด้วยเพราะพุทธคุณของ พระท่ามะปราง องค์นี้ จึงทำให้ได้พบคนดีเข้าจนได้ มีเพื่อนที่ดี อาจารย์ที่ดี และเป็นที่ปรึกษาที่ดีอีกด้วย จึงได้หวนกลับมาสะสมพระเครื่องอย่างจริงจัง ตามแนวทางและรูปแบบการสะสมพระที่ดีต่อไป "หมอต้น" บอกว่า วงการนี้มีทั้ง คนดี และ คนไม่ดี หลายคนอาจจะเหมาเอาว่า วงการพระมีแต่ คนไม่ดี แต่จริงๆ คนดี ยังมีอีกมาก ไม่งั้นวงการพระคงไม่เจริญรุ่งเรืองจนทุกวันนี้
** ที่ "หมอต้น" บอกมาเช่นนี้ ก็เพราะเป็น พระองค์แรก ที่เช่าโดยอ่านพบข้อความโฆษณาใน "สื่อ" จึงติดต่อเช่าบูชา ต่อมาได้เอาพระไปให้คนในวงการพระดู หลายคนบอกว่า "เก๊" บางคนบอกว่า "ดูยาก" ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อวงการพระ อะไรกันนะ เช่ามาองค์แรกก็ "โดน" ซะแล้ว จึงเอาพระไปคืนเจ้าของเดิม เจ้าของพระบอกว่า จะคืนเงินให้ทั้งหมดก่อน แต่จะไม่รับพระคืน ขอให้หมอเอาไปตรวจสอบจากเซียนใหญ่ๆ ที่สนามพระใหญ่ๆ ที่มีมาตรฐาน อย่างที่พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน สนามพระท่าพระจันทร์ หรือที่มณเฑียรพลาซา แล้วค่อยมาคุยกันใหม่ ปรากฏว่า "หมอต้น" เอาพระไปตรวจสอบตามสนามทั้ง ๓ แห่ง ก็ได้รับคำตอบตรงกันว่า เป็น พระแท้ดูง่าย ต่อมาได้ส่งพระองค์นี้เข้าประกวด ปรากฏว่า ได้รับรางวัลชนะเลิศ รู้สึกดีใจมาก และเข้าใจใน "พี่" เจ้าของพระองค์นี้ดีขึ้น จึงได้นำเงินค่าพระไปคืนพี่เขา พร้อมกับกล่าวขอโทษในความเข้าใจผิด (เพราะไปหลงเชื่อคนไม่รู้จริง) ต่อมาก็ได้กลายเป็นลูกค้าประจำของพี่คนนี้ โดยได้ให้ความเคารพนับถือเป็น อาจารย์คนแรก ของวงการพระ พี่คนที่ว่านี้ คือ วิรัตน์ กังวาลวาณิชกุล พนักงานอาวุโสแห่งเอไอเอ ผู้เชี่ยวชาญพระเครื่องทุกประเภท แต่มักจะถ่อมตัวเสมอ ใครคบหาสมาคมกับ "พี่วิรัตน์" คนนี้รับรองว่า ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
** พระเครื่องอีกสำนักหนึ่งที่มีการหมุนเวียนเปลี่ยนมือกันอยู่เสมอ เพราะมีจำนวนสร้างมากพอสมควร และมีหลากหลายรุ่นให้เช่าหาบูชากันอย่างจุใจ ก็คือ พระหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม ที่นิยมกันมากที่สุด คือ พระเนื้อผงจินดามณี หรือผงยาวาสนา หลวงบุญ แต่องค์ที่ อู๊ด สุพรรณ ส่งภาพมาวันนี้ คือ พระพิมพ์นางสมาธิเล็ก เนื้อดินเผา พระพิมพ์นี้มีหลายเนื้อ นอกจากเนื้อดินเผาแล้วก็มี เนื้อผงว่าน เนื้อผงใบลาน ฯลฯ
** พระทุกพิมพ์ทุกเนื้อของ หลวงปู่บุญ น่าสนใจทั้งสิ้น เพราะพุทธคุณล้ำเลิศสุดๆ เก็บไว้เป็นทุนทรัพย์ก็ไม่มีขาดทุน และที่น่ายินดียิ่งในขณะนี้ ก็คือ สำนักพิมพ์ คเณศ์พร ได้จัดพิมพ์หนังสือคู่มือ พระหลวงปู่บุญ ออกมาให้ผู้สนใจได้ศึกษาหาความรู้ดูภาพ พระแท้ อันเป็นบันไดขั้นแรกที่จะทำให้ท่านได้ของดีไม่มีหลงทาง เล่มละ ๑๕๐ บาท ถูกมากๆ หากหนังสือเล่มนี้ช่วยให้ได้ พระแท้ สักองค์หนึ่ง หรือปลอดภัยจาก พระปลอม ก็เกินคุ้มค่าราคาหนังสือแล้ว มีวางขายทั่วไป หรือสอบถามที่โทร.๐-๒๖๗๘-๐๒๕๐-๑
** พยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ร่วมกับ พี่น้องวงการรถออฟโรด จัดตั้งโครงการ "ธารน้ำใจ ไผ่ร้อยกอ" เปิดเวทีคอนเสิร์ต ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ในวันพุธที่ ๒๖ พฤศจิกายน นี้ เวลา ๑๘.๐๐ น. เพื่อหารายได้จัดซื้อสิ่งของอุปโภคบริโภคมอบให้แก่ชาวบ้านและเด็กๆ ผู้ยากไร้ในท้องที่ บ้านหินตั้ง ต.จะแก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี หมู่บ้านนี้มีระยะทางเพียง ๗๐ กม.จากตัวเมืองกาญจนบุรี นานถึง ๔ วันเต็มๆ ผู้ร่วมบริจาคเงินจะได้รับแผ่นซีดีเพลงชุด "เด็กหลังเขา" และเพลงชุด "คุณครูของหนูอยู่ไหน" หรือเสื้อยืดที่ระลึกโครงการนี้ ติดต่อได้ที่ สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน โทร.๐-๒๙๕๒-๗๘๙๘ หรือที่ นก โทร.๐๘-๙๒๑๖-๓๔๔๒ ปี๊บ โทร.๐๘-๑๒๙๖-๙๗๙๙ หญิง โทร.๐๘-๑๘๐๓-๐๘๕๔
** ช่วงที่เศรฐกิจซบเซาอย่างที่เห็นๆ กันอยู่นี้ บรรดาร้านพระต่างๆ พากันโอดครวญ เพราะขายไม่ได้ ที่ขายได้ก็ไม่คุ้มค่าเช่าตู้ และร้านที่ต้องเสียค่าเช่าแพงที่สุดในวงการพระทุกวันนี้ คือ ร้านหลักเมือง มาบุญครอง ของ เสี่ยเจ็ด แม้จะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ เสี่ยเจ็ด บอกว่าพอทนได้ และจะต้องทนต่อไป แต่ที่ดีใจสุดๆ คือ จตุคามฯ รุ่น "ตาขุนโหร" ที่สร้าง แจกฟรี ไปเมื่อ ๒-๓ ปีก่อน ตอนนี้มีคนรู้จักกันมากขึ้น เพราะมีประสบการณ์กันบ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีการบรรจุเอาไว้ในรายการประกวดพระมาหลายหนแล้ว ทำให้มีคนสนใจเช่าหา และราคาก็เริ่มขยับขึ้นด้วย ใครที่คิดถึง เสี่ยเจ็ด หมุนไปคุยกันแก้เหงาได้ที่ โทร.๐๘-๑๘๗๕-๓๑๗๗
** โครงการ "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" วันศุกร์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ เวลา ๑๑.๓๐ น. บรรยายธรรมโดย พระดุษฎี เมธังกุโร เจ้าอาวาสวัดทุ่งไผ่ จ.ชุมพร เรื่อง ศาสตร์แห่งการอ่านคน และร่วมปฏิบัติธรรมครบวงจรสไตล์ซีพี ณ อาคารซีพี ทาวเวอร์ ชั้น ๑๑ ถนนสีลม (ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย) สอบถามโทร.๐๒-๖๗๗-๑๙๐๑
** พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม แจ้งว่า วันเสาร์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน นี้ เวลา ๑๖.๓๙ น. สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เป็นประธานจุดเทียนชัย พิธีปลุกเสก พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ และ วัวธนูอาคม ตำรับ หลวงพ่อพูล เป็นวาระที่ ๓ พระคณาจารย์หลายรูปนั่งปรกอธิษฐานจิต เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้สักการบูชา สอบถามได้ที่ วัดไผ่ล้อม โทร.๐-๓๔๒๕-๐๐๗๗-๙ หรือที่ www.watpailom.org ** วันนี้...มี งานประกวดพระ ที่ ห้าง ตั้ง ฮั่ว เส็ง ธนบุรี จัดโดย ฐิติพงศ์ อุดมรัตนะศิลป์ ** ขออภัย...อีกครั้ง วันนี้ไม่มีคอลัมน์ "เส้นทางนักพระเครื่อง" วันอาทิตย์หน้ามีแน่นอน...ขอขอบพระคุณ...นะมัสเต ***
|