0 เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๑ เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๗๑/๒๕๕๑ ลงวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๑ ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล โจทก์ ร่วมยื่นฟ้องนายอะผ่อง สกุลอมร จำเลยที่ ๑ นายอนันต์ หรือ 'ฉ้า' แซ่ตัน จำเลยที่ ๒ นายอนุชิต สกุลอมร จำเลยที่ ๓ และนางจิระภา แซ่ตัน จำเลยที่ ๔ ในความผิดต่อพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์การจัดสร้างดวงตราพญาราหู สุริยันจันทรา รุ่นปี ๒๕๓๐ (องค์จตุคามรามเทพ) ซึ่งในคดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินยกฟ้อง โจทก์จึงได้ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๔๗  และได้มีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในวันดังกล่าว  โดยจำเลยทั้ง ๔ มารับฟังคำพิพากษา ส่วนโจทก์ไม่มา

ศาลฎีกาได้พิพากษายืน คดีนี้จึงจบลงและถือว่านายอะผ่องจำเลยกับพวกทั้ง ๔ พ้นมลทินเป็นผู้บริสุทธิ์ นายวิชัย ศรีรังสฤษต์ และนายสมพร มนต์วิเศษ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยทั้ง ๔ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล ได้อ้างว่า เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในหลักเมืองนครศรีธรรมราช และวัตถุมงคลต่างๆ ที่สร้างขึ้น เพื่อหารายได้สร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เช่น พระผงสุริยันจันทรา พระบูชาต่างๆ รวมทั้งผ้ายันต์ และเสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยได้ไปจดแจ้งต่อสำนักลิขสิทธิ์กรมทรัพย์สินทางปัญญา และกล่าวหาดำเนินคดีกับนายอะผ่องกับพวกว่า ได้ละเมิดลิขสิทธิ์เสาหลักเมืองและรูปแบบวัตถุมงคลต่างๆ  ดังกล่าว คดีนี้ได้มีการต่อสู้มาตั้งแต่ศาลชั้นต้น พอสรุปตามคำพิพากษาได้ว่า เสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช และวัตถุมงคลต่างๆ ที่ พล.ต.ท.สรรเพชญ นำไปจดแจ้งนั้น ถือเป็นของสาธารณะ พล.ต.ท.สรรเพชญ ไม่ใช่ผู้สร้างสรรค์ที่แท้จริง เป็นเพียงผู้ร่วมคิด และผู้ริเริ่มเท่านั้น ไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ จึงไม่มีสิทธิ์ในฟ้องการที่ฟ้องจำเลย ศาลฎีกาจึงพิพากษาให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์  ที่มาคมชัดลึก