ปีขาล ความหมายของคำว่า
"เสือ" ปีขาลนักษัตรลำดับสามที่มี"เสือ"เป็นสัญลักษณ์ สัตว์ที่มีพละกำลังความน่าเกรงขามเป็น
สัญลักษณ์ประจำปีนักษัตร

ค้นเรื่องราวความหมายของ 'เสือ'
นับถอยหลังเหลือเวลาอีกไม่นานสำหรับปีฉลูที่กำลังจะก้าวผ่าน
และก็อีกไม่นานเช่นเดียวกัน สำหรับการต้อนรับ ปีพุทธศักราชใหม่ 2553
ปีขาลนักษัตรลำดับสามที่ใกล้จะมาถึง ประวัติวันปีใหม่ เทศกาลวันปีใหม่
วันขึ้นปีใหม่ ตามพจนานุกรมให้ความหมายคำว่า ปี
หมายถึงเวลาที่โลกโคจรรอบ ดวงอาทิตย์ครั้งหนึ่งราว 365 วัน หรือ 12
เดือนตามสุริยคติ ตามจารีตประเพณีของไทย ถือวันแรมหนึ่งค่ำเดือนอ้าย
(เดือนหนึ่ง)
เป็นวันขึ้นปีใหม่ซึ่งสอดคล้องกับคติทางพุทธศาสนาที่เริ่มฤดูหนาวเป็นจุด
เริ่มต้นของปี จากนั้นเปลี่ยนมาใช้วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5
เป็นวันขึ้นปีใหม่โดยนับวัน เดือน ปีแบบจันทรคติ คือการโคจรของดวงจันทร์เป็นเกณฑ์
แต่ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนมาใช้แบบสุริยคติใช้ดวงอาทิตย์เป็นเกณฑ์ก็ถือวัน ที่ 1
เมษายนเป็นวันปีใหม่
ในปี พ.ศ. 2483
วันขึ้นปีใหม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งตามแบบสากลเพื่อให้สอดคล้องกับประเทศต่างๆ
ทั่วโลกและต้องการให้เป็น สากลมากขึ้น แต่ทั้งนี้ประเพณี
การขึ้นปีใหม่ในวันสงกรานต์นั้นยังคงให้มีอยู่ด้วยถือว่าเป็นประเพณีและ
วัฒนธรรมที่ดีงามควรแก่การอนุรักษ์ให้มีการสืบทอด
ส่วนการนับด้วยปีนักษัตรมีปรากฏมายาวนาน ต่อเนื่องจากปีชวด ฉลูก็มาถึง ขาล
โดยมี เสือ สัตว์ที่มีพละกำลังความน่าเกรงขามเป็น สัญลักษณ์ประจำนักษัตร
ดังนั้นเพื่อการรู้จักกับเรื่องราวของเสือหลากหลายแง่มุมยิ่งขึ้น
ก่อนบอกลาปีเก่าต้อนรับปีใหม่โอกาสนี้ได้รวบรวมสีสันความหมายที่เกี่ยว
เนื่องกับเสือโดยมีนักวิชาการวัฒนธรรม
ส่วนหนึ่งจากข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติมาร่วมบอกเล่า
เสือ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ฟิลิดี (Felidae) วงศ์เดียวกับแมว
เป็นสัตว์นักล่าที่ชาญฉลาดและน่าเกรงขามโดยเฉพาะเสือขนาดใหญ่
มักทำให้ผู้พบเห็นเป็นครั้งแรกเกิดความหวาดหวั่น กลัวเกรงในพละกำลังอำนาจ
แต่ขณะเดียวกันก็จะรู้สึกประทับใจในความสง่างาม
เสือจึงได้รับการยกย่องว่าเป็น ราชาแห่งสัตว์ป่า ขณะที่สิงโตที่มักเรียกกันว่า
เจ้าป่า นั้นจัดอยู่ในวงศ์เดียวกับเสือ แต่อยู่ในสกุลแพนเทอรา
เป็นเสือขนาดใหญ่ที่สามารถส่งเสียงคำรามได้
เพราะมีเส้นเอ็นเสียงลักษณะพิเศษเฉพาะและถือเป็นเอกลักษณ์ที่สัตว์อื่นไม่
สามารถทำได้โดยเสือสกุลนี้นอกเหนือจากสิงโตแล้วยังมีเสือโคร่ง เสือดาว เสือจา กัวร์
และเสือพูม่า
ส่วนเสือขนาดกลางและขนาดเล็ก อาทิ เสือลายเมฆ
เสือชีตาห์ เป็นสัตว์บกที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกจะไม่สามารถคำรามได้
แต่ส่งเสียงขู่ได้ เสือส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามป่าและทุ่งหญ้าไม่ชอบน้ำ
เสือเป็นสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสที่ดีมาก
โดยเฉพาะประสาทด้านการมองเห็นที่สามารถมองเห็นภาพเป็นมิติได้เช่นเดียวกับคน และลิง
เสือมีกล่องหูขนาดใหญ่จึงได้ยินเสียงได้ดี
แต่ประสาทด้านดมกลิ่นไม่ดีนัก
ลักษณะพิเศษอีกอย่างของเสือ
คือสามารถซ่อนเล็บไว้ในปลายนิ้วเท้า เมื่อต้องการ จับเหยื่อจะกางเล็บเท้าหน้าออก
ส่วนเล็บเท้าด้านหลังจะใช้เป็นอาวุธเพื่อฉีกกระชากเหยื่อ และในขณะที่เสือวิ่ง
เล็บเท้าหลังจะช่วยยึดเกาะ ทำให้สามารถตะกุยพื้นเร่งความเร็วได้มากขึ้น
นอกจากนี้การหดซ่อนเล็บของเสือยังเป็น การรักษาความแหลมคมของเล็บไว้
ช่วยป้องกันการขูดขีดขณะเดินหรือเคลื่อนไหวตามปกติ
ขณะที่เสือเป็นสัตว์รักสงบ
แต่เมื่อต้องล่าเหยื่อก็จะกลายเป็นสัตว์ที่อันตรายและ ดุร้ายที่สุด
จึงมักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ ความเชื่อต่าง ๆ ซึ่งมีมาแต่ครั้งโบราณ
อ.สุจริต บัวพิมพ์ นักวัฒนธรรมอาวุโส ที่ปรึกษาสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสยาม
ให้ความรู้ว่า ปีขาล ตามที่ทราบหรือรู้จักกันว่าเป็น ปีเสือ
ซึ่งคำนี้แม้จะไม่ได้หมายถึง เสือ
แต่การที่นำสัตว์มาแทนสัญลักษณ์ปีก็เพื่อให้เกิดการจดจำและหลายชาติต่างก็นำ
สัตว์มาเป็นตัวแทนของปี แต่บางครั้งอาจมีการนำบุคลิก
อุปนิสัยของสัตว์ชนิดนั้นมาเป็นตัวแทนเกี่ยวข้องกับเรื่องปีด้วย
หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว ฯลฯ
ต่างก็มีการนำสัตว์มาเป็นสัญลักษณ์และก็อาจแตกต่างกันไปบ้าง
อย่างปีมะโรงของเราเป็นงู แต่มะโรงของจีนเป็นมังกร ปีเถาะของเราเป็นกระต่าย
ประเทศญี่ปุ่นเป็นแมว ฯลฯ ส่วนการนำสัตว์มาเป็นสัญลักษณ์
เป็นสื่อแทนจากตำนานที่ปรากฏก็ไม่ได้มีบอกเล่า เพียงแต่เกี่ยวเนื่องในเรื่องเล่า
ตำนานนั้น ๆ ซึ่งจะกล่าวถึงการนำสัตว์ต่าง ๆ มาเป็นสัญลักษณ์แทนปี
แต่อย่างไรก็ตามปีขาลที่มีเสือเป็นสัญลักษณ์และมีการกล่าวถึงความดุของเสือ
ก็ต้องระมัดระวัง นำมาย้ำเตือนการดำเนินชีวิตไม่ให้ประมาท
อย่างในสำนวนไทยไม่ว่าจะเป็น คำสุภาษิตหรือคำพังเพยนั้น
ก็มีเรื่องราวของเสืออยู่ไม่น้อย อย่าง เขียนเสือให้วัวกลัว
อยากได้ลูกเสือต้องเข้าถ้ำเสือ เสือกลับใจ ฯลฯ
เสือที่นำมากล่าวกันโดยมากมักเป็นนัยความหมายที่เปรียบถึงเสือซึ่งเสือหมาย
ถึงอำนาจ ความดุ แต่ไม่ว่าจะเป็นสุภาษิตคำสอนหรือคำพังเพย คำเปรียบเปรยฝาก
มุมมองแง่คิดต่างสอนใจและสำนวนไทยเหล่านี้ได้ถ่ายทอดคุณค่าที่สัมผัสได้
แต่ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่การสอนเตือนผ่านสุภาษิต
คำพังเพยห่างไกลออกไป ทั้งนี้เพราะขาดการนำมาใช้ไม่มีการสืบทอด
เด็กรุ่นใหม่จึงไม่ทราบความหมายคุณค่าของสำนวนไทยซึ่งมีความหมายต่อการเรียน
รู้ภาษาไทย วิถีวัฒนธรรมไทย นักวัฒนธรรมอาวุโสกล่าว
นอกจากนี้ยังมีสำนวนไทยที่เกี่ยวกับเสือที่มักได้ยินได้ฟังบ่อยครั้ง อย่าง
เสือซ่อนเล็บ ผู้ที่เก่งกล้าสามารถแต่ไม่ยอมแสดงให้ปรากฏ หนีเสือปะจระเข้ หมายถึง
หนีภัยอย่างหนึ่งมา แล้วต้องมาพบภัยอีกอย่างหนึ่ง เลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ หมายถึง
เลี้ยงลูกศัตรูหรือลูกคนพาลทำให้เดือดร้อนภายหลัง เสือนอนกิน
คนที่ได้รับผลประโยชน์โดยไม่ต้องลงทุนลงแรง หน้าเนื้อใจเสือ หมายถึง
คนที่มองดูภายนอกเหมือนคนซื่อหรือคนดี แต่ที่จริงแล้วเป็นคนร้าย เสือไว้ลาย
คนมีความสามารถ ทำอะไรย่อมแสดงฝีไม้ลายมือ เสือรู้คนที่มีไหวพริบหรือฉลาดเอาตัวรอด
จับเสือมือเปล่า ทำการใดโดยไม่ต้องลงทุน เป็นต้น
อีกทั้งยังมีเรื่องราวความน่ารักของตัวการ์ตูนเสือขวัญใจเด็ก ๆ อย่าง
หน้ากากเสือ
การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องราวของนักมวยปล้ำฝีมือดีจากถ้ำเสือผู้อุทิศตนเพื่อเด็ก กำพร้า
พิงค์แพนเตอร์ การ์ตูนที่มีเสือโย่งสีชมพูสดใสอารมณ์ขันมีความชาญฉลาดเป็นตัวชูโรง
ขณะที่ ทิกเกอร์
เป็นเสือการ์ตูนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนหมีพูห์ที่มีความน่ารักมีเอกลักษณ์ชวนจด จำ
ฯลฯ
ในเรื่องราวของเสือยังมีการกล่าวถึงบุคคล
สถานที่รวมทั้งมีนิทานพื้นบ้านของไทย อย่าง หลวิชัยคาวี
ถ่ายทอดเรื่องราวของลูกเสือที่มีความกตัญญูต่อแม่โค และทั้งหมดนี้
ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับเสือที่นำมาบอกเล่าให้ท่านทั้งหลายทำความรู้จัก
เพื่อต้อนรับปีขาลที่กำลังจะมาถึง
ขณะที่ปีเก่ากำลังจะลาผ่านไป
ปีพุทธศักราชใหม่คิดทำสิ่งใด ตั้งมั่นจะลด ละ
เลิกสิ่งใดที่ตั้งใจไว้ช่วงเวลานี้เรียกได้ว่าเป็นอีกโอกาสที่ดีที่จะเริ่ม ต้น...สวัสดีปีใหม่.
ทีมวาไรตี้ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์