
หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก
ประวัติหลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก
พระครูสมบูรณ์จริยธรรม หรือ พระอาจารย์แม้น อาจารสมฺปนฺโน หรือ หลวงพ่อแม้น เกิดที่อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เมื่อเดือนสี่ ปีขาล ตรงกับวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ บิดาชื่อนายทองหล่อ คานอ่อน มารดาชื่อ นางหลาบ หรือ กุหลาบ ไตรเวท มีพี่น้องรวมทั้งหมด ๑๑ คน ในด้านการศึกษา หลวงพ่อแม้นเรียนจบชั้นประถม ๔ ที่เล่าเรียนเพียงแค่นี้เป็นเพราะฐานะทางบ้านยากจน ดำรงชีพด้วยการทำนาและทำอิฐขาย
หลวงพ่อแม้นได้เล่าถึงความเป็นมาในการบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ว่า ชอบในการฟังเทศน์และชอบทำบุญใส่บาตรมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนกระทั่งอายุ ๒๗ ปี จึงอุปสมบทที่วัดใหญ่ชัยมงคล อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีหลวงพ่อพระครูภาวนารังสี เจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์พุท พระอาจารย์สุนทร เป็นพระกรรม วาจาจารย์และพระอนุสาวนาจารย์
เมื่ออุปสมบทแล้วในวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๘ พ.ศ. ๒๕๐๘ ก็ได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่วัดกลางคลองสาน อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี อยู่หนึ่งพรรษาจึงย้ายมาอยู่กับหลวงพ่อพระครูภาวนารังสี พระอุปัชฌาย์ ที่วัดใหญ่ชัยมงคล ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน จากนั้นก็กลับไปอยู่วัดกลางคลองสาน อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานีอย่างเดิม แล้วเริ่มเรียนพระปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมตรี ในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ พอ พ.ศ. ๒๕๑๑ ไปเรียนบาลีที่วัดพระศรีมหาธาตุ จากนั้น ก็มาเรียนนักธรรมโท จนสอบนักธรรมเอกได้ เมื่อสอบนักธรรมเอกได้แล้วก็ท่องพระปาติโมกข์จบ พ.ศ. ๒๕๑๕ ทางคณะกรรมการวัดหน้าต่างนอกจึงได้ไปอาราธนาให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด หน้าต่างนอก
หลวงพ่อแม้นเล่าว่า เมื่อแรกที่ย่างเหยียบ ณ วัดหน้าต่างนอกนั้น รู้สึกปีติเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อจง แล้วก็ได้ศึกษาปฏิปทาของหลวงพ่อจง ว่าท่าน ได้เคยปฏิบัติเป็นมาอย่างไร เมื่อรู้ประวัติความเป็นมาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจงแล้ว ก็เริ่มดำเนินรอยตามท่าน ในด้านการศึกษาพุทธาคมนั้น ท่านได้ศึกษาวิชาของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก พระเกจิสมัย สงครามอินโดจีน และยังได้ต่อวิชาสายหลวงพ่อจง จาก หลวงพ่อไวทย์ วัดบรมวงศ์ หลวงพ่อหอม วัดบางเตยกลาง หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา พระอาจารย์รวย วัดกลางคลองสาม (หลานหลวงพ่อจง) ฯ เคยปลุกเสกพระร่วมกับ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๙ หลวงพ่อแพเดินเข้ามาตบบ่า แล้วบอกว่า “ดีมาก ต่อไปเปลี่ยนชื่อซะนะ เป็นหลวงพ่อจงน้อย” คำบูชาหลวงพ่อจง พุทธัสสโร วัดหน้าต่างนอก
หลวงพ่อมีหลักธรรมคำสอน ข้อคิด ข้อปฏิบัติแก่ประชาชนและศิษยานุศิษย์ เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะกระเตื้องขึ้นในขณะนี้ว่า ในเมื่อเศรษฐกิจมันไม่ดีอย่างนี้ เราจะต้องมีความอดทน ความมั่นใจ เป็นหลัก ให้อาศัยธรรมะ หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ได้สั่งสอนไว้
ประการแรก ให้มีความขยันหมั่นเพียรในหน้าที่การงานทั้งปวง คือหนักต้องเอาเบาต้องสู้ มันจะหนักสักหน่อย มันจะเหนื่อยก็ต้องเอา เมื่อเรามีความขยันหมั่นเพียรในหน้าที่การงานทั้งปวงแล้ว หนักก็เอาเบาก็สู้มันก็จะไม่จน ขอให้มีความขยันอย่างเดียว สำคัญเราอย่าไปเลือกงาน ถ้าหากว่าเราไปเลือกงาน การเงินมันก็หายไป
ประการที่สอง เมื่อการเงินเราหาได้ยาก เราก็ต้องมีการประหยัด เมื่อได้ทรัพย์มาแล้ว เราก็ต้องรู้จักประหยัด รู้จักรักษาทรัพย์ ใช้แต่พอสมควร อย่าให้เกินพอดี การใช้เงินหรือใช้จ่ายทรัพย์สมบัติที่เราได้มานี้ เราต้องดูว่าเมื่อเราได้มากับการจ่ายให้มันสมดุลกัน ถ้าหากว่าเราได้เกินเสียเราก็อยู่ได้ แต่ถ้าหากเราเสียเกินได้ เราก็อยู่ไม่ได้
ฉะนั้นในยุคปัจจุบันนี้เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี เราก็จะต้องประหยัดในตัวของเรา การใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนั้นเราต้องงด จะจ่ายเฉพาะในสิ่งที่จำเป็น สิ่งที่ไม่จำเป็นเราก็ควรงดเสีย เราก็อยู่ได้ ขอให้มีความขยันจริง ๆ ทำจริง ๆ หนักเอาเบาสู้ ต้องใช้ปัญญา ต้องแก้ไข เศรษฐกิจมันจะเป็นอย่างไรก็ตาม เราต้องดิ้นรนต่อสู้ อย่าถอย อย่าท้อใจ ถ้าเราเอาจริงซะอย่างแล้วมันก็จะไม่จน ไอ้ที่จนเพราะมันไม่เอาจริง ข้อนี้สำคัญเป็นหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
ประการที่สาม คือ คบกับคนที่ดี ถ้าเราคบคนดีทรัพย์สินเงินทองเราก็ไม่เสื่อมเสียไป มีแต่งอกเงย แต่ถ้าเราคบคนไม่ดี มีเงินเท่าไหร่มันก็หมด เช่น คบคนดื่มสุรายาเมา มันก็พาไปกินเหล้า กลุ้มใจก็กินเหล้า ดีใจก็กินเหล้า เสียใจก็กินเหล้า พาเงินไปเข้าขวดหมด เงินก็หมดไปทรัพย์สมบัติมันก็หมด หรือคบคนเล่นการพนัน มันก็ไปกับการพนัน ถ้าคบคนดี คนดีจะแนะประโยชน์ให้เรารู้จักประหยัด รู้จักขยันในหน้าที่การงาน รู้จักประพฤติปฏิบัติในทางที่ชอบ คบคนดีได้ประโยชน์หลายอย่าง แนะให้เราทำความดี
อีกประการหนึ่งนั้น เมื่อรู้ว่าเราดวงไม่ดี ก็ควร เข้าหาพระ ทุกวันนี้คนเราไม่ค่อยเข้าหาพระ ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วควรจะเข้าหาพระ โดยเฉพาะพระในบ้าน ทุกบ้านก็มีโต๊ะหมู่บูชา มีพระพุทธประจำบ้านทั้งนั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยได้บูชาพระ ไม่ได้กราบพระจนมีหยากไย่ฝุ่นจับ ฉะนั้นควรหันไปกราบไหว้ดูบ้าง ไปปัดกวาดเช็ดถูให้สะอาด แล้วหมั่นจุดธูปจุดเทียนบูชาพระ หมั่นสวดมนต์เจริญภาวนา สวดมนต์บูชาพระ กราบพระ ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ การที่สวดมนต์สวดพรนี่เท่ากับว่าเสริมดวงชะตา เสริมบารมีของเราให้ดีขึ้น บุญกุศลจะได้ช่วยค้ำจุนให้เราทำอะไรให้เกิดมรรคเกิดผล อยากจะมีโชคมีลาภ แต่ไม่สวดมนต์ไม่สวดพร ไม่ทำบุญใส่บาตร โชคลาภมันจะลอยมาได้อย่างไร ฉะนั้นเราต้องสร้างคุณงามความดี ไม่ใช่ว่าจะทำบุญทำทานนี่จะต้องบริจาคเงินเป็นล้านเป็นหมื่น การทำบุญทำกุศลนี่มันอยู่ที่ใจเรา ทำมากทำน้อยมันอยู่ที่ใจเรา ขอให้ใจเรามั่นอย่างเดียว หมั่นทำคุณงามความดีก็แล้วกัน สวดมนต์สวดพรเจริญภาวนาไปและมีความขยันหมั่นเพียรในหน้าที่การงาน มันก็เจริญรุ่งเรืองไปเอง

ตะกรุดโทนพุทธาคมมหามงคล (มหารูด) และ ลูกอมพยัคฆราชครองเมือง
นอกจากหลวงพ่อแม้นจะมีหลักธรรมคำสอน ข้อคิดที่ดีควรค่าแห่งการนำไปปฏิบัติแล้ว ท่านยังปลุกเสก พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง ได้เข้มขลัง จนได้ชื่อว่า เป็นเจ้าตำรับตะกรุดโทน และลูกอมพยัคฆราชครองเมือง ที่โด่งดังที่สุด
ตะกรุดโทนพุทธาคมมหามงคล (มหารูด) หลวงพ่อแม้นได้จารแผ่นยันต์เองทุกดอก ตะกรุดนี้หลวงพ่อบอกไว้ในตำราว่า เป็นตะกรุดหลวงพ่อจงปลุกเสกแจกทหารไปรบในสงครามอินโดจีนและเวียดนาม มีพุทธคุณมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหาเสน่ห์ และเกื้อหนุนดวงชะตา

ตะกรุดมงคลสัมฤทธิ์ และ เสือมหามงคล หรือ เสือเดือน 9
ตะกรุดมงคลสัมฤทธิ์ เป็นตะกรุดเงิน ขนาด ๑ นิ้ว พุทธคุณเมตตาล้นเหลือ พกติดตัวไว้เป็นที่รัก ที่เอ็นดูแก่ผู้พบ หน้าที่การงานดี ใครเห็นก็รักใคร่เมตตา หลวงพ่อแม้นปลุกเสกเพื่อให้ใช้ทางด้านเมตตาโดยตรง และให้อธิษฐานได้ ใช้สำหรับค้าขายเพื่อเรียกความสนใจจากลูกค้าดี พกได้ทั้งชายหญิง ชายใดพกไว้ มีเสน่ห์ดีต่อเพศตรงข้าม เป็นที่รักใคร่แก่ผู้ใหญ่ ส่วนผู้หญิงเป็นเมตตามหาเสน่ห์ดีแก่เพศตรงข้าม และเป็นมหานิยมเยี่ยมยอดแก่ผู้พบเห็น
ลูกอมพยัคฆราชครองเมือง พุทธคุณครอบจักรวาล โดดเด่นด้านเมตตา มหาอำนาจ แคล้วคลาด คงกระพัน และกันเขี้ยวงา กันไข้ป่าดง กันสัตว์ร้ายทางบกทางน้ำ เป็นเสน่ห์แก่ชายหญิง ไปเหนือไปใต้ ไม่ว่าทิศใดมีคนเกรงกลัว บูชาไว้กับตัวคนพาลจะทำร้ายมิได้ แขวนไว้หัวนอนกันโจรผู้ร้าย กันฟืนไฟต่าง ๆ ใช้ได้ ๑๐๘ ดีนักแล
เสือมหามงคล หรือ เสือเดือน ๙ ซึ่งหลวงพ่อแม้นปลุกเสกได้อย่างเข้มขลังเสียงเสือดังลั่นในกุฎิ โดยถือเคล็ดว่า เสือเดือน ๙ จะได้ก้าวหน้า ก้าวมั่ง ก้าวมี ก้าวไปเป็นเศรษฐี ก้าวพ้นอุปสรรค เสือรุ่นนี้พิเศษสุดได้ผสมตะกรุดมหาอำนาจรุ่นเก่าของหลวงพ่อจง ที่ท่านปลุกเสกไว้ลงเป็นชนวน และหลวงพ่อแม้นได้จารแผ่นยันต์ ๑๐๘ ลงไปผสมเป็นชนวนด้วยเช่น ยันต์หอกคด ปืนแตก มหาละลวย งวยงง หลง ใหล อ่อนใจรัก มหาลาภฯ ซึ่งเป็นตำราเก่าของหลวงพ่อจงไว้ลงเสื้อยันต์ให้ทหารในสมัยสงครามอินโดจีน ทำให้เสือรุ่นนี้ มีพุทธคุณดีในทุกด้านเป็นเครื่องรางของขลังที่รู้จักกันดีในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วัดหน้าต่างนอก ต.หน้าไม้ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ ๐๘-๙๘๓๐-๐๙๔๐, ๐๘-๑๕๖๑-๑๒๐๒, ๐-๓๕๓๐-๗๕๓๘.
คอลัมม์นี้ไม่มีวัตถุมงคลให้เช่าบูชา
อาราธนานัง-รายงาน
ที่มาหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=502&contentId=18338