จตุคามรามเทพ กลายเป็นวัตถุมงคลที่ฮอตที่สุดในรอบปี 2550

เมื่อปี 2550 วัตถุมงคล "จตุคามรามเทพ" กระแสร้อนแรงขึ้นมาอย่างโดดๆ แผ่รัศมีบดบังวัตถุมงคลประเภทอื่นๆ ไม่พ้นแม้กระทั่งพระกรุพระเก่า บรรดาเซียนพระน้อยใหญ่ที่กระดากอายช่วงแรก พากันหันหัวเรือมาเล่นด้วย หวังโหนกระแสเกาะบารมีจตุคามฯ ได้อานิสงส์ผลบุญหล่นทับร่ำรวยไปหลายราย แต่ช่วงหลังมีการจัดสร้างอย่างไร้คุณภาพ วัตถุมงคลออกไม่ตรงเวลาที่กำหนดไว้ เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนนักสะสมที่สั่งจองไว้เบื่อ และประกอบกับจำนวนรุ่นที่จัดสร้างมีมากเกินความต้องการ ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การเมืองไม่มั่นคง ส่งผลอย่างมากกับกระแสจตุคามรามเทพเช่นกัน อาการฟองสบู่แตกจึงเกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามที่นักสะสมส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

บางคนบอกว่าปี 2550 เป็นปีแห่งความอัศจรรย์ เม็ดเงินสะพัดด้วยอำนาจบารมีของจตุคามรามเทพ เมืองนครศรีธรรมราชเหมือนแดนสวรรค์ที่ใครๆ ก็อยากไปเที่ยวชม พิธีกรรมบวงสรวงอัญเชิญองค์จตุคามรามเทพทะลักไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย

"จตุคามรามเทพ" กลายเป็นวัตถุมงคลที่ฮอตที่สุดในรอบปี 2550 เมื่อกระแสการเล่นหาสะสมเบาบางลง เสียงถามหาก็ดังขึ้น เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ ปี 2551 วัตถุมงคลประเภทไหนจะมาแทนจตุคามรามเทพ หรือจตุคามรามเทพกระแสจะตีกลับมาได้อีกหรือไม่ บรรดาเซียนพระและนักสะสมต่างวิเคราะห์ไปต่างๆ นานา หลังกระแสจตุคามรามเทพเริ่มชะลอตัว ในช่วงปลายปี มีความพยายามของนักสร้างและวัดวาอารามต่างๆ ส่ง "พระพิฆเนศวร" ออกมาชิงชัย แต่แล้วก็เข็นไม่ขึ้น ด้วยพื้นฐานความนิยมยังอยู่ในวงจำกัด แม้จะมีการระบุพลานุภาพเพิ่มเด่นมากขึ้นในเรื่อง "โชคลาภ" ก็ตาม

ข่าวคนบูชาแล้วถูกหวยรวยเบอร์ ได้กระแสในระดับหนึ่งเท่านั้น "พระพิฆเนศวร" ได้ชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ จึงแตกต่างจากจตุคามรามเทพ ที่ได้ชื่อว่า "ขอได้-ไหว้รับ" มาก แนววัตถุมงคลรูปแบบจีน ไฉ่ซิ้งเอี้ย, เจ้าพ่อกวนอู, เจ้าพ่อเสือ, เจ้าแม่กวนอิม, พระสังกัจจายน์ ก็ยังอยู่ในกลุ่มจำกัด เช่นเดียวกับแนวพระเกจิอาจารย์ ที่นิยมสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ รูปเหมือน เหรียญ พระปิดตา และเครื่องรางของขลังต่างๆ เช่น พ่อแก่ ชูชก ปี่เซียะ ตะกรุด หินทิเบต เบี้ยแก้ สาริกา เป็นต้น จะมีความได้เปรียบหน่อย แนวจำลองพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงตามวัดต่างๆ อาทิ หลวงพ่อพระพุทธโสธร พระพุทธชินราช พระแก้วมรกต พระหลวงพ่อโต หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรฯ หลวงพ่อวัดไร่ขิง พระสมเด็จ วัดระฆังฯ แต่ก็ยังมีฐานความนิยมในหมู่นักสะสมไม่ทั่ว ความน่าจะเป็นในเรื่องกระแสความนิยม โดดเด่นขึ้นมา ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเทียบเคียงได้กับจตุคามรามเทพ มีก็แต่เพียง "หลวงปู่ทวด หรือ หลวงพ่อทวด" เท่านั้น เพราะตำนานความเป็นมาคล้ายคลึงกัน เกิดทางภาคใต้ ต่างกันตรงที่ท่านหนึ่งเป็นอดีตบูรพกษัตริย์ อีกท่านหนึ่งเป็นพระภิกษุ ซึ่งสร้างคุณงามความดี จนมีบารมียิ่งใหญ่ไพศาล ผ่านกาลเวลาแห่งยุคสมัย ความศรัทธาเกิดจากตำนาน ผ่านดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งนิมิต หนึ่งร่างทรง

มาเป็นวัตถุมงคลที่เข้มขลัง หลวงปู่ทวดจากรุ่นแรกสร้างปี 2549 ถึงปัจจุบันเนื้อว่านราคาเล่นหาเป็นแสนเป็นล้าน หลายรุ่นพุทธคุณรู้กันมานานครอบจักรวาล นอกจากเมตตามหานิยม เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ค้าขายร่ำรวย โชคลาภเป็นยอดแล้ว ั้แคล้วคลาดนิรันตราย ว่ากันว่า คนห้อยหลวงปู่ทวดที่คอไม่มีคำว่า "ตายโหง" ด้วยเหตุนี้ ประกอบกับฐานความนิยมของนักสะสมที่มีมากอยู่แล้ว จะช่วยผลักดันความแรงได้มาก จตุคามรามเทพและหลวงปู่ทวด จึงเป็นคู่แข่งวัตถุมงคลที่เหมาะสมลงตัว เหลือแต่เพียง "สิ่งเอื้อ" ตรงนี้สำคัญมาก อย่างการจัดสร้างจตุคามรามเทพ ต้องประกอบพิธีสำคัญที่วัดพระมหาธาตุฯ จ.นครศรี ธรรมราช ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดสถานที่ประ ดิษฐานรูปเหมือนองค์พ่อจตุคามรามเทพ และศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ตำนานการก่อเกิดวัตถุมงคลรุ่นแรกปี 2530

ผู้มีหน้าที่ดูแลพื้นที่ไม่เคยปฏิเสธ โดยเฉพาะ พระราชธรรมสุธี ซึ่งได้เลื่อนสมณศักดิ์ที่พระเทพวินยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุฯ จ.นครศรีธรรมราช ท่านเมตตาทุกโครงการ ไม่เลือกปฏิบัติ หรือเรียกร้องค่าใช้จ่ายมากมายให้ศรัทธาหดหาย แหล่งธรรมที่มาของตำนานหลวงปู่ทวดก็เช่นกัน ถ้าเจ้าสำนักปฏิบัติยึดความเมตตาไม่แตกต่าง ความแรงของวัตถุมงคลสร้างใหม่แนวหลวงปู่ทวดก็เป็นไปได้ แหล่งตำนาน 2 วัดหลัก วัดช้างให้ จ.ปัตตานี และวัดพะโคะ จ.สงขลา หากใครขออนุญาตประกอบพิธีกรรมสมภารต้องใจกว้าง หากย้อนไปสมัยหนึ่งวัตถุมงคลสร้างใหม่แนวหลวงปู่ทวดมีสร้างออกมาตลอด ความนิยมก็มีอย่างมากมาย ถึงจะไม่หวือหวาเท่าจตุคามฯ ในยุคนี้ แต่ก็เป็นหนึ่งในยุคนั้น วัดช้างให้ไม่เคยว่างเว้นจากพิธีกรรม แต่พอท่านเจ้าอาวาสรูปเก่ามรณภาพ วัดช้างให้ไม่ผิดอะไรกับวัดธรรมดาทั่วไป

ยิ่งโดนมรสุมความไม่สงบจากเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ซ้ำเติมด้วย ยิ่งไปกันใหญ่ งานพิธีกรรมเบาบางลง จนเหลือน้อย และแทบจะไม่มีเลย ในที่สุดก็ถูกจตุคามรามเทพเบียดแซงมาแจ้งเกิดอย่างมโหฬาร ในปี 2551 จึงมีการวิเคราะห์กันว่า หากได้รัฐบาลที่มั่นคง เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น กระแสความนิยมจตุคามฯ อาจตีกลับ ส่วนหลวงปู่ทวดก็อาจจะเบียดขึ้นมาครองตลาดความนิยม เข้าไปนั่งในใจนักสะสมได้ ข่าวพระเครื่อง