พระนาคปรก กรุวัดปืน

พระนาคปรก กรุวัดปืน จ.ลพบุรี เนื้อชินเงิน
เมืองลพบุรี ในอดีต ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ได้มีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างประเทศกันแล้ว โดยเรียกเมืองลพบุรีว่า ละโว้ มาตั้งแต่สมัยนั้น   บางตำนานได้กล่าวถึง เมืองลพบุรี ไว้ว่า เมื่อประมาณพันกว่าปีมาแล้ว มี พระยาสามพี่น้อง  ได้เป็นใหญ่อยู่ในดินแดนแถบนี้ ต่อมาได้เป็นผู้สร้างเมืองละโว้ขึ้นมา และได้สร้าง พระปรางค์สามยอด เอาไว้ เพื่อเป็นการประกาศตนถึงความเจริญรุ่งเรือง และความยิ่งใหญ่ของพระยาสามพี่น้องแห่งตักศิลา ที่มาตั้งเมืองละโว้เป็นราชธานี

 ครั้นต่อมา เมื่อขอมมีอำนาจ และได้แผ่อิทธิพลขยายอาณาจักรเข้ามาถึงดินแดนส่วนนี้ จนกระทั่งยึดเมืองละโว้ไว้ได้ ในระยะเวลาหนึ่ง เจ้าพระยาชัยนารายณ์ โอรสแห่ง พระเจ้าจันทโชติ จึงได้รวบรวมกำลังขับไล่ขอมออกไป แล้วเปลี่ยนชื่อเมืองละโว้เป็น ลวะบุรี จนกลายมาเป็นชื่อเมือง ลพบุรี จนถึงทุกวันนี้

 ดังปรากฏรูปปั้น พระนารายณ์สี่กร ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ ศาลพระกาฬ เมืองลพบุรี ซึ่งเชื่อกันว่า สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติยศแก่พระยาชัยนารายณ์ นั่นเอง วัดปืน เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ของเมืองลพบุรี แต่ไม่พบประวัติการสร้างที่แน่ชัด เมื่อพิจารณาจากหลักฐานทางโบราณคดี รวมทั้งพระพิมพ์ต่างๆ ที่ขุดพบ ณ บริเวณวัดแห่งนี้แล้ว เชื่อกันว่า วัดปืนคงจะสร้างในราวสมัยอยุธยาตอนต้นเป็นอย่างน้อย หรืออาจจะก่อนหน้านั้นก็ได้

 ปัจจุบันสภาพของ วัดปืนเป็นวัดร้าง แทบจะไม่หลงเหลือสิ่งที่บ่งบอกความเป็นวัดเก่าแก่ครั้งในอดีตไว้เลย เนื่องจากสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่ และบ้านเรือนราษฎรเข้ามาปลูกสร้างแทนที่ หลงเหลือเพียงซากผนังของโบสถ์ ที่มีความยาว ๑๘ วา กว้าง ๑๘ วา

พระนาคปรก กรุวัดปืน จ.ลพบุรี เนื้อชินเงิน

 บริเวณนี้รายล้อมไปด้วยบ้านช่อง และร้านรวงต่างๆ เต็มไปหมด ทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่า  ตำแหน่งที่ตั้งอันแท้จริงของ วัดปืน อยู่ตรงบริเวณไหน เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๕๐ บริเวณวัดปืนถูกปกคลุมไปด้วยหญ้า และวัชพืชต่างๆ ต่อมาเริ่มมีชาวบ้านบุกรุกเข้าไปจับจองพื้นที่บางส่วน เพื่อใช้ประโยชน์ส่วนตัว ขณะเดียวกัน ก็มีการลักลอบขุดหาสมบัติสิ่งของมีค่า และพระเครื่องต่างๆ

 ในครั้งนั้น ได้มีการขุดพบ ปืนใหญ่โบราณ สมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช กระบอกหนึ่ง  นับแต่นั้นมา จึงเรียกชื่อวัดร้างแห่งนี้ว่า วัดปืน จนถึงทุกวันนี้ (ก่อนหน้านี้ วัดร้างแห่งนี้ยังไม่มีชื่อเรียก และสมัยก่อนก็ไม่ได้ชื่อ วัดปืน แต่ประการ ชื่อนี้มาเรียกกันภายหลัง)

 วัดปืน ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำลพบุรี ด้านทิศตะวันออก ในเขต ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี จากคำบอกเล่าสืบต่อกันมากล่าวว่า การขุดค้นพบพระเครื่อง หรือพระพิมพ์ต่างๆ ของกรุวัดปืน ส่วนใหญ่พบจากพระเจดีย์รายรอบพระอุโบสถ และภายในพระอุโบสถ มีด้วยกันหลายพิมพ์ แต่ที่รู้จักและนิยมกันอย่างแพร่หลาย ก็คือ พระนาคปรก ซึ่งเป็นพระเครื่องที่ขุดพบจากกรุนี้จำนวนน้อยมาก แต่ด้วยความงดงามอลังการเป็นพิเศษ วงการพระจึงนิยมแสวงหากันอย่างกว้างขวาง และจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบรรดา พระนาคปรก เนื้อชินยอดนิยม ที่หาได้ยากยิ่ง

 ในวงการพระเครื่อง...บรรดาเซียนพระยุคเก่า จนถึงยุคปัจจุบัน ต่างยอมรับว่า พระนาคปรก กรุวัดปืน จ.ลพบุรี เป็นพระนาคปรกที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด และมีพุทธานุภาพสูง โดยเฉพาะอานุภาพในด้านคงกระพันชาตรี ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของ ตระกูลพระนาคปรก ทั้งหมด ซึ่งยากที่จะหาพระนาคปรกกรุอื่นๆ มาเทียบเท่าได้ ทั้งนี้ก็ด้วยประสบการณ์ จากคำบอกเล่าของนักสะสมพระเครื่องรุ่นเก่าๆ จนถึงปัจจุบัน ที่กล่าวยืนยันตรงกันในจุดนี้

 พระนาคปรก กรุวัดปืน มีเฉพาะ เนื้อชินเงิน เท่านั้น ฝีมือของช่างที่สร้าง จัดอยู่ในสกุลของช่างชาวบ้าน พิมพ์ทรงองค์พระแลดูบึกบึน เข้มขลัง แต่ถ้าหากพูดถึงความสวยงามคมชัด พระนาคปรก กรุวัดปืน ย่อมสู้ พระนาคปรก ของ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ไม่ได้ เพราะของกรุวัดพระศรีฯ เป็นฝีมือของช่างหลวงในสมัยโบราณ ฝีมือการออกแบบ จึงย่อมเหนือกว่าช่างชาวบ้านอย่างแน่นอน

 พุทธลักษณะของ พระนาคปรก กรุวัดปืน คือ องค์พระปฏิมาประทับนั่งปางสมาธิ เหนือขนดนาค โดยเบื้องหลังมีพญานาคเจ็ดเศียรแผ่พังพานเหนือเศียรองค์พระ 

 ตามคติความเชื่อ พระนาคปรก เป็นพระประจำวันสำหรับคนที่เกิดวันเสาร์ แต่โดยความเป็นจริงแล้ว คนที่เกิดในวันอื่นๆ ก็ย่อมมีสิทธิที่จะสักการบูชาได้เช่นกัน พระนาคปรก กรุวัดปืน เนื้อชินเงิน มีด้วยกันอยู่ ๔ พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก พิมพ์จิ๋ว และ พิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว และโดยเหตุที่พระกรุนี้ขุดพบจำนวนน้อยมาก ในขณะที่ ของปลอม กลับมีมากกว่า และระบาดมานานแล้วด้วย จึงทำให้ราคาเช่าหา พระนาคปรกแท้ๆ ของกรุนี้ค่อนข้างแพง 

 ผิวขององค์ พระนาคปรก กรุวัดปืน มีลักษณะดำจัด พระบางองค์เนื้อจะกร่อนมาก องค์ที่สวยสมบูรณ์จึงหายากยิ่ง ส่วนพุทธคุณ เชื่อกันว่า เป็นเลิศทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัยอย่างที่สุด  

 พระนาคปรก กรุวัดปืน พิมพ์จิ๋ว ถือได้ว่าหาได้ยากที่สุด ในบรรดาพระนาคปรกที่ขุดได้จากกรุนี้  และหากสังเกตให้ดีจะพบว่า พระพิมพ์นี้มีความแตกต่างจากพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก โดยเฉพาะ เศียรขององค์พระ จะเป็นเศียรแบบ ปลาหลด คือ เรียวยาว แตกต่างจากพิมพ์อื่นๆ ทั้งหมด ที่มีเศียรแบบองค์พระสวมหมวกชีโบ

 ดังนั้น พระนาคปรก กรุวัดปืน พิมพ์จิ๋ว จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่ง พิมพ์เศียรปลาหลด อีกพิมพ์หนึ่งที่หายากเช่นกัน คือ พิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว พระพิมพ์นี้นอกจากมีเศียรพญานาคแผ่พังพานเหนือองค์พระแล้ว ยังมี ซุ้มเรือนแก้ว ครอบอีกชั้นหนึ่ง นับว่าเป็นพิมพ์พิเศษจริงๆ

 ขนาดองค์ พระนาคปรก กรุวัดปืน พิมพ์ใหญ่ กว้าง ๑.๗ ซม. สูง ๓.๐ ซม. พิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว กว้าง ๒.๐ ซม. สูง ๓.๐ ซม. และพิมพ์จิ๋ว (เศียรปลาหลด) กว้าง ๑.๐ ซม. สูง ๒.๐ ซม. นับว่าเป็นพระนาคปรกที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด น่ารักมาก จัดอยู่ในพระชุด "จิ๋วแต่แจ๋ว" ที่น่าสนใจสะสมเป็นอย่างยิ่ง

"ชาติ วิศิษฏ์สรอรรถ"   ที่มา...http://www.komchadluek.net/
******************************************