พระพุทธสรีรธาตุ
(พระบรมสารีริกธาตุสำคัญแห่งพระพุทธสรีระ)
พระพุทธสรีรธาตุ
ประดิษฐานวัดปทุมวนาราม |
เมื่อเร็วๆ นี้ "อาจารย์สมมรรค กั้วพิสมัย"
ประธานอำนวยการศูนย์ปฏิบัติธรรมป่าล้อมแก้วเบญจมหาโพธิ์ (สำนักปฏิบัติธรรมบุญเคน)
อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ประธานชมรมปฏิบัติธรรมพุทธบูชา เขากระโดง อ.เมือง
จ.บุรีรัมย์ ได้อัญเชิญ "พระพุทธสรีรธาตุ"
(พระบรมสารีริกธาตุสำคัญแห่งพระพุทธสรีระ) เพื่อถวาย พระราชพิพัฒนาทร
(ถาวร จิตตถาวโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ปทุมวัน กรุงเทพฯ
เนื่องในโอกาสฉลองอายุวัฒนมงคล 57 ปี โดยอัญเชิญมาถวายประดิษฐานเป็นการถาวร ณ
ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนาราม
" พระพุทธสรีรธาตุ "
(พระบรมสารีริกธาตุสำคัญแห่งพระพุทธสรีระ) รวม 5 สัณฐาน ดังนี้ 1.พระมัตถลุงคธาตุ
สัณฐานที่เป็นส่วนสมอง 2.พระหทัยธาตุ สัณฐานสีชมพู ส่วนหัวใจ 3.พระเกศาธาตุ
สัณฐานสีดำ ผสมสีน้ำตาล ส่วนเส้นผม 4.พระโลหิตธาตุ สัณฐานสีแดง ส่วนโลหิต
5.พระมหาทันตธาตุ(พระเขี้ยวแก้ว เบื้องล่างซ้าย) สัณฐานสีขาวขุ่น
พร้อมด้วยพระอรหันตธาตุ คือพระธาตุของ พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระสีวลี
(ด้วยวิธีการอัญเชิญตามที่ได้ที่กล่าวในข้อ 2 มูลเหตุพระบรมสารีริกธาตุเสด็จ)
พระราชพิพัฒนาทร กล่าวว่า "พระบรมสารีริกธาตุ"
เป็นปูชนียธาตุเพียงสิ่งเดียว ที่เกิดจากพระวรกายของพระพุทธองค์คือ
อัฐิธาตุส่วนต่างๆ ในพระวรกาย
ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากที่เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วและถวายพระเพลิงพระบรม ศพแล้ว
ปรากฏว่า พระวรกายบางส่วน เช่น หนังกำพร้า, เนื้อ, หนัง, ไขข้อ, เอ็น
ได้กลายเป็นพระธาตุทั้งหมด หลากหลายสัณฐานทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
ส่วนที่ยังคงเป็นชิ้นตามรูปเดิม
คือพระอัฐิส่วนหน้าผาก, พระเขี้ยวแก้ว, กระดูกไหปลาร้า, พระรากขวัญ, พระทันต์ทั้ง
36, เส้นผม, ขน และคิ้ว ส่วนที่ไม่ได้คงรูปร่างอยู่เป็นชิ้น ก็แตกย่อย
มีทั้งแตกกระจายและไม่แตกกระจาย
ลักษณะพิเศษของพระบรมสารีริกธาตุ ถ้าสัณฐานขนาดเล็ก เมื่อนำไปลอยน้ำ
จะเสด็จลอยเหนือน้ำอย่างน่าพิศวง ถ้าสัณฐานขนาดใหญ่ มักจะไม่ลอยน้ำ ทุกลักษณะ
ทุกสัณฐาน มองดูคล้ายกรวด, หิน, แก้ว, เพชร
ฯลฯ
มูลเหตุของพระบรมสารีริกธาตุเสด็จ 1.ผู้ได้รับโดยตรง
จากการแจกจ่ายก่อนหน้า พระเจ้าอโศกมหาราช
หรือได้รับต่อจากการแบ่งพระบรมธาตุของพระเจ้าอโศกมหาราช จะมากหรือน้อยก็ตาม
หากมีพระบรมสารีริกธาตุ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดและสัณฐานแบบไหน
หากผู้นั้นปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธองค์อย่างเคร่งครัดแล้ว
พระธาตุก็จะเสด็จเข้ามาเพิ่ม
จากของเดิมที่มีอยู่ในผอบหรือภาชนะที่รองรับพระบรมสารีริกธาตุนั้น
เป็นปูชนียธาตุที่มีเทวดารักษา สามารถแสดงปาฏิหาริย์ได้ เช่น
การเพิ่มและลดจำนวนได้เอง การเรืองแสง เปล่งแสงในที่มืด
การเสด็จลอยวนในสถานที่บรรจุ การเสด็จผ่านอากาศไปยังสถานที่ต่างๆ
การเปลี่ยนสีและรูปร่างได้เอง
2.ได้รับโดยการอัญเชิญ
จากผู้ที่อัญเชิญอย่างถูกวิธีหรือผู้อัญเชิญที่มีญาณวิสัย (ฤทธิ์)
ของผู้มีบุญฤทธิ์และอิทธิปาฏิหาริย์ (วิชาการทางโลกยังค้นคว้าเข้ามาไม่ถึง)
3.พระบรมสารีริกธาตุ หากอยู่ในครอบครองของผู้ที่ได้รับไว้แล้ว
แต่ไม่ประดิษฐานไว้ในที่อันควรและที่อันเหมาะสมแล้ว
ไม่หมั่นสักการบูชาพระบรมธาตุก็จะเสด็จหนีไปที่อื่น
และตรงกันข้ามหากนำไปประดิษฐานไว้ในที่อันเหมาะสมและหมั่นสักการบูชาอย่าง สม่ำเสมอ
พระบรมธาตุจะเสด็จมาเพิ่มเติมเรื่อยๆ
ก็จะพบปาฏิหาริย์อย่างน่าอัศจรรย์
4.พระบรมสารีริกธาตุ หากเสด็จประทับอยู่ ณ
สถานที่ใดหรือบุคคลที่ครอบครองนั้นจะประสบแต่ความสุขความเจริญในทุกๆ ด้าน
หากว่าผู้ครอบครองนั้นปฏิบัติดูแลรักษาหรือสักการบูชาอย่างถูกวิธี
5.ผู้เข้าร่วมรับพระบรมธาตุ หรือจัดให้มีการฉลอง
ผู้เข้าร่วมฉลองทั้งหมดต้องสมาทานศีล 8
มูลเหตุที่อัฐิแปรเปลี่ยน
เป็นพระบรมธาตุ ผู้ประพฤติปฏิบัติจนสามารถบรรลุธรรมชั้นสูงนั้น
พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ว่า กายและใจของท่านเหล่านั้น ได้รับการขัดเกลาด้วย วิมุติธรรม
อนุสัย และอาสวะ กิเลสทั้งหลายจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นพระบรมธาตุ
เนื่องจากจิตอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้านั้น มีอำนาจขัดเกลาธาตุขันธ์ให้เป็นธาตุ
อันบริสุทธิ์จนบังเกิดเป็นพระบรมธาตุในที่สุด
การนี้จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมบำเพ็ญกุศลถวายสักการะ
พระพุทธสรีรธาตุ (พระบรมสารีริกธาตุสำคัญแห่งพระพุทธสรีระ เบญจสัณฐาน)
และพระธาตุพระอรหันตธาตุ พระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร และพระสีวลี
(ผู้อุดมด้วยโชคโภคทรัพย์) เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนและครอบครัว โดยเปิดให้สักการะทุกวันตั้งแต่เวลา
07.00-20.00 น. ณ ศาลาพระราชศรัทธา วัดปทุมวนาราม ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
(อยู่ระหว่างเซ็นทรัลเวิลด์ กับ สยามพารากอน ถ้ามารถไฟฟ้าบีทีเอส
ลงสถานีสยาม)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
มูลนิธิถาวรจิตตถาวโรฯ วัดปทุมวนาราม โทร.0-2251-6325, 0-2658-3885 เว็บไซต์
www.tv2495.com, www.wat thailand.com
บูชาสิ่งที่ควรบูชาเป็นมงคลอันสูงสุด
ที่มา...หนังสือพิมพ์ข่าวสด