บูรณะโบสถ์วัดปทุมวนาราม พระอารามสระบัวรัชกาลที่
4
 วัดสระปทุม
หรือ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร |
"
วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร" (วัดสระปทุม) ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 1
เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 4 ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปีพุทธศักราช 2400
เดิมวัดปทุมวนารามแห่งนี้ มีภูมิสถาปัตยกรรมที่งดงาม
เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางสระบัวขนาดใหญ่
คู่กับพระราชอุทยานสำหรับพักผ่อนพระราชอิริยบถนอกพระนคร ที่เรียกกันว่า
"สระปทุม"
วัดนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชทานแด่สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
ทรงนิมนต์พระสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตจากวัดบวรนิเวศวิหารมาครองวัด
วัดปทุมวนาราม
หันไปทางทิศตะวันออก แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน ส่วนหน้าเป็นเขตพุทธาวาส
มีพื้นที่ประมาณ 46x127 เมตร ทำแนวกำแพงล้อมโดยตลอด ภายในประกอบด้วยพระอุโบสถ
พระเจดีย์ พระวิหาร และต้นพระศรีมหาโพธิ์
องค์ประกอบทั้งหมดถูกจัดให้วางเรียงอยู่บนแนวแกนเดียวกันทั้งหมดตามลำดับ
พระอุโบสถ เป็นอาคารขนาดย่อมกว่าพระวิหาร กว้าง ยาวประมาณ 10.20x17.20 เมตร
แบ่งเป็น 5 ห้อง รูปทรงอาคารทำหลังคาลดหน้า-หลังอย่างละชั้น แต่มีตับหลังคาเพียง 2
ซ้อน หน้าบัน ใช้เครื่องไม้แกะสลักเป็นกระบวนลายกอบัวมีแนวคลื่นเหมือนน้ำ
ตอนกลางสลักรูปพระมหาพิชัยมงกุฎประดิษฐานบนพานมีกรอบรูปดอกบัวล้อม
ด้านนอกสลักลายกระหนกเปลวโดยรอบ เครื่องประกอบหน้าเป็นเครื่องลำยอง มีช่อฟ้า ใบระกา
หางหงส์
 พระสายน์
วัดสระปทุม |
พระอุโบสถและพระวิหาร
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดในเวียงจันทน์เมื่อใน อดีต คือ
พระเสริม พระแสน พระสายน์ พระพุทธรูป 3 พี่น้องแห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต
หล่อขึ้นจากทองสีสุก (โลหะสัมริดที่มีทองคำเป็นส่วนผสมหลัก) เมื่อราวปี พ.ศ.2109
โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ล้านช้าง พร้อมด้วยพระธิดา 3 พระองค์ ทรงพระนามว่า
พระธิดาเสริม พระธิดาสุก และพระธิดาสายน์
โปรดให้ช่างลาวล้านช้างหล่อพระพุทธรูปประจำพระองค์
เพื่อความเป็นสิริมงคลมีขนาดลดหลั่นกันตามลำดับ
สมเด็จฯ
กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงลงความเห็นเกี่ยวกับพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์นี้ว่า พระเสริม
พระแสน พระสายน์ เป็นพระพุทธรูปลาวล้านช้างที่งดงามยิ่งกว่าพระพุทธรูปองค์อื่นๆ
และทรงสันนิษฐานเรื่องการสร้างเป็น 2 ประการ คือ
อาจจะเป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากเมืองหนึ่งเมืองใดทางตะวันออกของอาณาจักร
ล้านช้างและต่อมาตกอยู่ในเขตล้านช้าง
หรืออาจสร้างขึ้นในเขตล้านช้างโดยฝีมือช่างลาวพุงขาวในยุคนั้น
พระสายน์
ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถของวัดปทุมวนาราม
เป็นพระพุทธรูปที่อัญเชิญมาจากเมืองมหาไชย แขวงล้านช้าง ในสมัยรัชกาลที่ 4 เช่นกัน
โดยพระสายน์นั้น มีความศักดิ์สิทธิ์ ตรงที่เมื่อใดเกิดฝนแล้ง
จะอัญเชิญท่านออกมาบูชากลางแจ้งและบูชาขอฝนจากท่านได้
ทั้งนี้ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ได้สนับสนุนโครงการบูรณะพระอุโบสถ
วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
การบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถวัดปทุมฯ
คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ.2553 และจะมีงานสมโภชฉลองในปี
พ.ศ.2554
พระราชบัณฑิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม และเลขานุการวัด
ประธานคณะกรรมการดำเนินงาน โครงการพัฒนาวัด กล่าวเพิ่มเติมถึงประวัติวัด ว่า
วัดปทุมวนาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดราชวรวิหาร
เป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
ได้โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นใน พ.ศ.2400 พร้อมกับการสร้างพระราชวังปทุมวัน
หรือวังสระปทุม เพื่อให้เป็นรมณียสถานยามเสด็จประพาสนอกพระนคร
และเพื่อพระราชทานแด่สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
"พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ
ให้ขุดสระและปลูกบัวโดยรอบ เพื่อให้พระสงฆ์พายเรือมารับบิณฑบาตในเขตพระราชฐาน
แต่ปัจจุบันสระดังกล่าวถูกถมให้เป็นที่ราบไปเสียส่วนใหญ่ ยังคงไว้เพียงพระอุโบสถ
พระเจดีย์ พระวิหาร และต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทั้งนี้
เรายังคงรักษารูปแบบเดิมให้มากที่สุด และยังเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาไหว้พระ
สักการะพระบรมสารีริกธาตุได้
รวมถึงยังมีสถานที่สอนนั่งสมาธิอีกด้วย"
จากนั้น แขกรับเชิญที่มาร่วมงาน
รวมทั้ง ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล และเบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา
ผู้ซึ่งมีความผูกพันและความประทับใจในวัดนี้
ได้นำแขกที่มาร่วมงานถวายอาหารเพลสำรับโบราณจากกาพย์เห่เรือชมเครื่อง คาว-หวาน
ในต้นรัตนโกสินทร์ ถวายแด่พระสงฆ์
นายเขมชาติ เทพไชย รองอธิบดีกรมศิลปากร
ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงการบูรณะยังได้พาชมบริเวณอุโบสถซึ่งขณะอยู่ในระหว่าง การบูรณะ
โดยได้อธิบายถึงวิธีการ ตำปูนและฟันช่อฟ้าใบระกา
ตำปูน คือ การใช้ปูนขาวหมัก
ผสมกับเยื่อกระดาษสาอิ่มน้ำ
นำมาบวกกับกาวหนังสัตว์ตำให้เข้ากันจนเหนียว
ฟันช่อฟ้าใบระกา คือ
การแกะไม้สักอายุกว่า 50
ปีขึ้นไปมาแกะสลักลวดลายให้เหมือนของเดิมมากที่สุด
วิธีการเตรียมวัสดุก่อสร้างแบบโบราณ
ซึ่งการบูรณะครั้งนี้ยังคงรักษาวิธีการแบบโบราณทุกขั้นตอน และภาพจิตรกรรมต่างๆ
ในพระอุโบสถ
วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
นอกจากให้คุณค่าอย่างหามิได้ทางประวัติศาสตร์
อันบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองในอารยธรรมของสยามประเทศแล้ว
ยังเป็นที่ซึ่งบ่มเพาะคนให้มีคุณค่าทางจิตใจและจริยธรรมอันดีงาม
ควรค่าแก่การอนุรักษ์และส่งเสริมให้อยู่สืบทอดกันตลอดไป
ที่มา... ฉบับที่ 6709 ข่าวสดรายวัน