หลวงพ่อบุญเลิศ คัมภีโร"พระครูวิบูลวุฒิสาร"
พระสายปฏิบัติสารคาม
คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
เชิด ขันตี ณ
พล
หลวงพ่อบุญเลิศ คัมภีโร
วัดโนนแดง |
" พระครูวิบูลวุฒิสาร" หรือ "หลวงพ่อบุญเลิศ คัมภีโร"
เป็นพระภิกษุอีกรูปหนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
เป็นที่นับถือศรัทธาของสาธุชนในเขตอำเภอบรบือ จ.มหาสารคาม
ปัจจุบัน
หลวงพ่อบุญเลิศ สิริอายุ 61 พรรษา 39 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโนนแดง ต.โนนแดง
อ.บรบือ จ.มหาสารคาม และเจ้าคณะตำบลโนนแดง
ประวัติหลวงพ่อบุญเลิศ
คัมภีโร วัดโนนแดง
อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า บุญเลิศ ศรีคุณ
เกิดเมื่อปี พ.ศ.2491 ที่บ้านนาเพียง ต.หนองคูขาด อ.บรบือ จ.มหาสารคาม
โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายมาและนางสุข ศรีคุณ
ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา
หลังจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4
จากโรงเรียนบ้านโสกภารา
ได้ออกมาช่วยงานครอบครัวด้วยความขยันขันแข็ง
เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์
ได้ขอให้บิดา-มารดา นำไปอุปสมบทที่วัดหนองคูใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม
มีพระอธิการทองอิน ธัมมทินโน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการคำภา เป็นพระอนุสาวนาจารย์
และหลวงพ่อประสิทธิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
หลังอุปสมบทหลวงพ่อบุญเลิศ
ท่านได้เดินทางไปจำพรรษาศึกษาพระธรรมวินัยที่สำนักเรียนวัดโนน สะอาด อ.โกสุมพิสัย
จ.มหาสารคาม เพียง 3 พรรษา สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก
ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูสอนปริยัติธรรมประจำสำนักเรียนวัดโนน สะอาด
หลวงพ่อบุญเลิศ ท่านอยู่จำพรรษาปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่วัดบ้านโนนสะอาดถึง 13
พรรษา
จนถึงปี พ.ศ.2525 วัดโนนแดง ต.โนนแดง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม
ขาดแคลนพระผู้ใหญ่ รวมทั้งตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดว่างลง ญาติโยมบ้านโนนแดง
ได้นิมนต์ให้หลวงพ่อบุญเลิศ ท่านมาอยู่จำพรรษาระยะหนึ่ง
ก่อนได้รับแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโนนแดง
หลวงพ่อบุญเลิศ ให้ความสำคัญกับการศึกษาของพระภิกษุ สามเณร
เพราะผู้มาบวชเรียนส่วนใหญ่มาจากครอบครัวฐานะยากจน
ไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะส่งเสียให้เรียนภาคปกติได้
ท่านจึงเปิดสำนักเรียนพระปริยัติธรรม โดยรับหน้าที่เป็นครูสอนเอง
ในยุคนั้นสำนักเรียนวัดโนนแดง มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว
ไม่มีประวัติด่างพร้อย แต่ละปีจึงมีพระภิกษุ-สามเณร
มาจำพรรษาศึกษาเล่าเรียนที่วัดโนนแดงจำนวนมาก
หลวงพ่อบุญเลิศ
ยังให้ความสนใจการวิปัสสนากัมมัฏฐาน หลังเทศกาลออกพรรษา
ท่านชมชอบปลีกวิเวกเดินธุดงควัตรไปตามป่าเขา เช่น ป่าเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี
เทือกเขาภูพาน ใน จ.กาฬสินธุ์
หลวงพ่อบุญเลิศ ยังเป็นพระนักพัฒนา
ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาวัดโนนแดงแห่งนี้ จนเจริญรุ่งเรืองทั้งถาวรวัตถุ
และสาธารณูปโภค ขณะนี้กำลังก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่ นอกจากนี้
ท่านยังปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในวัด
โดยร่วมกับญาติโยมปลูกไม้ยืนต้นในวันสำคัญตลอดปี
ทำให้วัดแห่งนี้มีแต่ความสงบร่มรื่นเหมาะกับการปฏิบัติธรรมยิ่งนัก
หลวงพ่อบุญเลิศ
ท่านยังแนะนำให้ญาติโยมปลูกต้นไม้ในที่สาธารณประโยชน์ที่รกร้างว่างเปล่าของ
หมู่บ้าน เมื่อโลกเรามีสีเขียวเพิ่มมากยิ่งขึ้นจะสามารถแก้ปัญหาฝนแล้งไม่ตกต้องตาม
ฤดูกาลได้
ลำดับงานด้านปกครอง พ.ศ.2528
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดโนนแดงและเป็นเจ้าคณะตำบลโนนแดง พ.ศ.2530
เป็นพระอุปัชฌาย์เขต 1 ต.โนนแดง
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2533
ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูวิบูลวุฒิสาร
พ.ศ.2544 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นโท ในราชทินนามเดิม
ด้วยวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้หลวงพ่อบุญเลิศ
มีชื่อเสียงอยู่ในศรัทธาของญาติโยมชาวมหาสารคามอย่างรวดเร็ว
ในวันธรรมดาและวันสำคัญทางศาสนาจะมีญาติโยมเดินทางมากราบนมัสการรับฟังธรรม
จากท่านที่วัดอย่างล้นหลาม รวมทั้งขอให้ท่านประพรมน้ำพระพุทธมนต์
เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งท่านก็ไม่ขัดข้อง
เพราะท่านทราบว่าญาติโยมที่มาหาล้วนมีทุกข์ท่านจึงต้องช่วยปัดเป่าทุกข์ให้
ถึงแม้บางครั้งท่านจะเหน็ดเหนื่อยจากการต้อนรับญาติโยม แต่ด้วยจิตใจที่กล้าแกร่ง
ท่านจึงไม่เคยย่อท้อ
ส่วนหลักธรรมคำสอนที่หลวงพ่อบุญเลิศ
พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตคือ ให้ยึดศีล 5
และพรหมวิหาร 4 อย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท
ให้เป็นผู้มีความกตัญญูกตเวทิตาต่อบุพการีและผู้มีพระคุณ
ไม่เบียดเบียนสรรพสัตว์ร่วมโลก
เพียงเท่านี้จะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุขความเจริญตลอดไป
หลวงพ่อบุญเลิศ
จึงถือเป็นเนื้อนาบุญของพระพุทธศาสนา
เป็นเพชรเม็ดงามของชาวเมืองตักกสิลา
ที่มา...