หลวงปู่ผัน โกวิโท
พระเกจิดังวัดดงแม่ศรีเมือง
คอลัมน์ อริยะโลกที่
6
 หลวงปู่ผัน โกวิโท
วัดดงแม่ศรีเมือง |
" หลวงปู่ผัน โกวิโท" หรือ พระครูนิรุติธรรมสาร
เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีเมตตาสูงรูปหนึ่งแห่ง ต.ตาสัง อ.บรรพตพิสัย
จ.นครสวรรค์
เมืองประวัติศาสตร์ในยุคทวาราวดี
อันเป็นดินแดนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ลึกลับแห่งหนึ่งของภาคเหนือตอนล่าง
หรือภาคกลางตอนบน
ทว่า หลวงปู่ผันดั้นด้นจากดินแดนล้านนา
สร้างสำนักสงฆ์และบูรณะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาเป็นวัดแห่งที่ 2
ในเพศบรรพชิตของท่าน คือ วัดดงแม่ศรีเมือง
และสร้างตำนานเมตตาบารมีอันลือลั่นจากวัตถุมงคลด้านเมตตา,
แคล้วคลาดและรับโชค
ประวัติหลวงปู่ผัน
โกวิโท วัดดงแม่ศรีเมือง
อัตโนประวัติ กำเนิดในปีพ.ศ.2471
ต.หนองโอ่ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ต่อมาปี 2492
โยมบิดาและมารดาได้อพยพเข้ามาทำไร่ทำนาที่จังหวัดนครสวรรค์ ณ บ้านมาบมะขาม
ต.บางตาหงาย อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์
ถัดมาอีก 4 ปี บิดาของท่านเสียชีวิต
ส่งผลให้ครอบครัวของหลวงปู่ผันขาดเสาหลัก พ.ศ.2498
จึงตัดสินใจย้ายไปตั้งรกรากใหม่ในพื้นที่จับจองที่อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
โดยเปลี่ยนอาชีพมาเป็นชาวสวนปลูกลิ้นจี่และลำไย
กระทั่งปี 2509
ท่านมีปัญหาด้านสุขภาพ เป็นโรคต่อมน้ำเหลืองรักษาไม่หายขาด
ท่านจึงตั้งจิตอธิษฐานขออุปสมบทกับพระครูนิคม เจ้าคณะตำบลอินทขิล
และเจ้าอาวาสวัดบ้านปง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ในปีพ.ศ.2512
หลวงปู่ผันท่านตัดสินใจเข้าไปปฏิบัติธรรม ณ วัดบางกว้าง ซึ่งเป็นวัดร้าง (ปัจจุบัน
คือ วัดหนองผึ้ง) เขตติดต่อกับค่ายนเรศวร ตชด.33 แม่แตง
ต่อมา
หลวงปู่ผันได้บูรณะวัดจากวัดร้างให้กลับขึ้นมาเป็นสำนักสงฆ์และยกระดับจาก
การสร้างเสนาสนะที่จำเป็นให้ขึ้นมาเป็นวัด
จากนั้นจึงขออนุญาตทางการจัดตั้งเป็นวัดขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ในปีพ.ศ.2522
ตลอดช่วงเวลา
10 ปีแห่งการพัฒนาสำนักสงฆ์ให้กลายเป็นวัด
หลวงปู่ผันมีโอกาสเข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้านวิปัสสนาธุระกับพระอริยสงฆ์แห่ง
ล้านนาอีกรูปหนึ่งคือ หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดครูบาเจ้าศรีวิชัย
เทพเจ้าแห่งดินแดนล้านนา
โดยเฉพาะในช่วงปี 2512-2516
หลวงปู่ครูบาธรรมชัยมักจะชักชวนให้หลวงปู่ผันเดินธุดงค์ติดตามท่านไปยังฝั่ง
พม่าทุกครั้ง และครั้งหลังสุดที่เดินธุดงค์กับหลวงปู่ครูบาธรรมชัยในปี 2516
ท่านธุดงค์เกือบถึงกรุงย่างกุ้ง
ต่อมาในปี 2522
หลวงปู่ผันจึงออกธุดงค์เข้าไปในพม่าอีกครั้ง
และครั้งนี้ท่านสำเร็จวิชาพระธรรมเก้าโกฏิ
อันเป็นผลจากการปฏิบัติฌานสมาบัติขั้นสูงสุด ซึ่งประกอบไปด้วยธรรมะด้านมหาเมตตา,
แคล้วคลาด ติดตัวกลับมา
โดยเฉพาะวิชาหนุนดวงตามคัมภีร์ของมหายาน
ซึ่งเป็นดั่งคำเปรียบเปรยของมรรควิถีอันจะนำไปสู่ความหลุดพ้นในรูปแบบที่แตก
ต่างกันที่เรียกว่า อนุตรยาน หรือ ยานอันสูงสุด
นอกจากนี้
หลวงปู่ผันยังมีสหธรรมมิกระดับพระอริยะที่เคยร่วมปฏิบัติธรรมมาด้วยกัน คือ
พระสุธรรมยานเถร (ครูบาอินทรจักร) วัดน้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
พี่ชายร่วมสายโลหิตกับพระสุพรหมยานเถร (ครูบาพรหมจักร) วัดพระบาทตากผ้า จ.ลำพูน
และพระครูสุนทรคัมภีรญาณ (ครูบาธรรมจักร) วัดดอยน้อย
จ.เชียงใหม่
กระทั่งวันหนึ่ง หลวงปู่ครูบาธรรมชัยท่านกล่าวกับหลวงปู่ผัน ว่า
"ระวังวัวเขาอ่อนจะขวิดเอานะ" และกาลก็ปรากฏขึ้นเป็นจริง
เมื่อมีอุปสรรคเกี่ยวกับสตรีเพศเข้ามารุ่มร่ามใกล้ชิดอยู่เนืองๆ
จนหลวงปู่ผันตัดสินใจย้ายวัด
เดินธุดงค์กลับมายังจังหวัดนครสวรรค์ในปีพ.ศ.2538
เป้าหมาย คือ
ดงแม่นางเมือง ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่สมัยทวาราวดี แต่ ณ วันนั้น
ดงแม่นางเมืองยังเป็นเพียงสถานที่ฝึกปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ที่มีเจตนาจะใช้
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นสถานที่ฝึกจิตภาวนาเท่านั้น
ต่อมา
หลวงปู่ผันได้ทำการพัฒนาให้เป็นสำนักสงฆ์และยกระดับขึ้นมาเป็นวัดแห่งที่ 2
ในเพศบรรพชิตภายใต้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ 2000 ปี นามว่า
วัดดงแม่ศรีเมือง
หลวงปู่ผันเคยกล่าวว่า
ฌานนิมิตของท่านได้เห็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นเมืองลับแล
ซึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ก็มีบันทึกถึงตำนานเจ้าแม่ศรีเมืองผู้เลอโฉมแห่งดง
แม่นางเมืองในยุคทวาราวดีเช่นกัน
พ.ศ.2552
จึงนับเป็นโอกาสดีที่หลวงปู่ผันอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวเหรียญหนุนดวง มังกรคู่หงษ์
และแบบเนื้อผงฝังตะกรุดอุดกริ่งหนึ่งเดียวในโลก
เพื่อบูชาติดตัวรองรับกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
ตามปณิธาน หนุนดวง-รับโชค
ของหลวงปู่ผัน พระสุปฏิปันโน ผู้เพียบพร้อมด้วยอนุตรยานแห่งลุ่มน้ำปิง ที่มา...