นักเพลงเพื่อชีวิต 'สีเผือก คนด่านเกวียน' ศรัทธา 'พระกริ่งลพบุรี, ตะกรุดหลวงพ่อทองศุข' เป็นอีก “คนดัง” ทางเพลง “เพื่อชีวิต” ที่ต้องบอกว่าโด่งดังมากอีกผู้หนึ่งสำหรับ “สีเผือก คนด่านเกวียน” ที่ส่งเพลง “เด็กปั๊ม” โด่งดังไปทั่วประเทศแถมเป็นเพลง ที่ “โด่งดังยาวนานมาก” คือเริ่มโด่งดังตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๖ ไปจนถึงปี พ.ศ. ๒๕๓๖ กันเลยทีเดียวแม้ปัจจุบันก็มีนักเพลงรุ่นหลังมาขอเพลงนี้ไปร้องใหม่ก็มีหลาย เวอร์ชั่นจึงได้ชื่อเป็นอีกหนึ่ง “ขุนพลเพลงเพื่อชีวิต” ที่โด่งดังเคียงคู่มากับผองเพื่อนนักเพลงเพื่อชีวิตอย่างเช่น “ยืนยง โอภากุล” หรือ “แอ๊ด คาราบาว” และ “สุรชัย จันทิมาธร” หรือ “หงา คาราวาน” พร้อม “พงษ์สิทธิ์ คำภีร์” หรือ “ปู พงษ์สิทธิ์” ซึ่งแม้จะเป็นนักเพลงเพื่อชีวิตที่โด่งดังยังไงแต่สิ่งที่ “สีเผือก คนด่านเกวียน” เชื่อมั่นและยึดถือเป็น “สิ่งเตือนใจ” มาตลอดก็คือ “วัตถุมงคล” ชนิดเรียกได้ว่าชีวิตนี้จะขาด “วัตถุมงคล” ที่เป็นทั้ง “พระเครื่อง” และ “เครื่องรางของขลัง” ไม่ได้เลยเพราะนอกจากเป็นผู้นับถือ “ศาสนาพุทธ” แล้วยังเป็นชาวพุทธที่เดินเข้าเดินออก วัดวาอารามเป็นประจำ ตั้งแต่เด็กจึงได้รู้ได้เห็นได้ทราบว่า “วัตถุมงคล” คืออะไร

ดังนั้นพอโตเป็นหนุ่มพร้อมหันเหมา จับอาชีพ “ศิลปิน” เนื่องจากเป็นผู้ชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็กประกอบกับมี “พรสวรรค์ทางด้านเสียง” จึงมุ่งมาทำการเรียนรู้ทั้งการร้องเพลงและเล่นดนตรีควบคู่กันไป กระทั่งสามารถ เล่นดนตรีได้ประทับใจคนฟังจึงรวบรวมเพื่อนฝูงตั้งวงดนตรีแนว “เพื่อชีวิต” เพื่อออกอัลบั้มในนามวง “คนด่านเกวียน” โดยเริ่มออกอัลบั้มครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๒๕ ชุด “คนหลังเขา” ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังระดับหนึ่ง จากนั้นจึงออกอัลบั้มสองในปีต่อมาคือชุด “เด็กปั๊ม” ที่พอโปรโมตเพลงนี้ทางวิทยุได้ไม่ทันข้ามเดือนเพลง “เด็กปั๊ม” ก็โด่งดังไปทั่วประเทศเสริมชื่อให้ “คนด่านเกวียน” ดังลั่นไม่แพ้นักเพลงเพื่อชีวิตคณะอื่น ๆ เลย และเพราะเพลง “เด็กปั๊ม” ดังลั่นนี่เองจึงมีงานโชว์เพลงที่ต้องวิ่งรอกกันทั้งปี ชีวิตในช่วงนั้นจึงต้องยึด “รถ” กับ “โรงแรม” เป็นบ้านสำหรับพักผ่อนนอนหลับเนื่องจากแนวเพลงเพื่อชีวิตส่วนใหญ่ มักจะมีงานให้ไปโชว์ตามชนบทหรือไม่ก็งานวัดจึงได้แต่อาศัย “รถ” กับ “โรงแรม” เป็นบ้านเพราะต้องวิ่งรอกจากจังหวัดนี้ไป จังหวัดนั้นอยู่หลายปี และในช่วงนี้เองเพื่อนพ้องรวมทั้งผู้เคารพนับถือจึงมอบ “วัตถุมงคล” มาให้แขวนคอเพื่อคุ้มครองสำหรับเดินทางไปโชว์เพลงโดย “องค์แรก” ที่ได้มาคือ “พระผงของขวัญวัดปากน้ำรุ่นแรก” ระยะนั้นจึงอาราธนาขึ้นแขวนเดี่ยวมาตลอดกระทั่งผ่านไปได้ปีกว่ากลับไปลืมไว้ ในโรงแรม จึงเป็นอันว่าพระองค์แรกที่อาราธนาขึ้นแขวนคอสูญหายไปจึงนำ องค์ที่สองคือ “หลวงปู่ทวดทั้งเนื้อว่านและ หลังเตารีด” มาอาราธนาขึ้นแขวนคอสลับกันไปมาแล้วแต่โอกาสและกระทั่งมีผองเพื่อนให้ “ตะกรุดหลวงพ่อทองสุขวัดโตนดหลวง” ที่สร้างโดย “หลวงพ่อทองศุขวัดตะโหนดหลวง” พระเกจิอาจารย์ดังยุคเก่าแห่ง จังหวัดเพชรบุรี และองค์ที่รักมากคือ “พระกริ่งลพบุรี” เพราะเป็นวัตถุมงคลที่ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ซึ่งก็คือ “พยัพ คำพันธุ์” ให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อร่วมสิบปีมาแล้วจึงอาราธนาขึ้นแขวนคอคู่กันเลย

ทั้งนี้ก็เพราะยามว่างจากงานแสดงดนตรีก็จะทำการศึกษาพระเครื่อง ด้วยการหาหนังสือพระเครื่องมาดูมาอ่านจึงรู้ชัด “พระเครื่อง” แต่ละองค์ที่อาราธนาขึ้นแขวน “ดีอย่างไร” เนื่องจากโดยปกติแล้วจะเป็น ผู้ “เชื่อและศรัทธา” พระเครื่องตั้งแต่เด็กอยู่แล้วว่าท่านสามารถ “คุ้มครอง, ปกป้อง” รวมทั้ง “เสริมชีวิต” ในยามตกยากให้ดีขึ้นได้ปัจจุบัน จึงมักจะแขวนทั้ง “ตะกรุดลูกอม” และ “พระกริ่งลพบุรี” เป็นประจำแต่ก็ไม่ได้ทิ้งองค์อื่น ๆ คือจะสลับกันอาราธนาขึ้นแขวนคอ แล้วแต่ใจนึกอยากจะแขวนอะไรเพราะการอาราธนาวัตถุมงคลขึ้นแขวนคอก็เพื่อ นอกจากขอให้ท่านช่วยคุ้มครองแล้วยังอาราธนาท่านเป็น “สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ” พร้อมน้อมนำเป็นสิ่ง “สะกิดใจให้ทำแต่สิ่งดี” โดยอย่าเห็นสิ่งอบายมุขเป็นสิ่งที่ควรไปสัมผัส อีกทั้งหลังจากอาราธนาท่านขึ้นแขวนคอแล้วหลายครั้งที่ประสบอุบัติเหตุ แต่ก็จะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่น ขับรถไปเฉี่ยวชนคันอื่นบ้างหรือโดนคันอื่นเฉี่ยวชนเอาบ้าง แต่ส่วนมากมักเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ร้ายแรงอะไรจึงเชื่อว่าเมื่อ มี “วัตถุมงคล” อยู่กับตัวท่านมักจะช่วย “ให้หนักเป็นเบาได้” ด้วยเหตุนี้ชีวิตจึงขาดวัตถุมงคลไม่ได้เพราะนอกจากเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ได้อย่างวิเศษแล้ว หากนึกคิดอะไรไม่ออกหรือแก้ปัญหาที่ขัดข้องไม่ตก ก็จะเข้าห้องพระแล้วทำการสวดมนต์ก็จะทำจิตใจให้สบาย พอผ่านไประยะหนึ่งสมองก็จะแล่นนึกคิดอะไรเป็นดีไปหมด...นี่ก็คืออีกเหตุผล ของนักเพลงเพื่อชีวิตที่ชื่อ “สีเผือก คนด่านเกวียน” กับการแขวนวัตถุมงคล.ข่าวพระเครื่อง

ภวันตุเม
ที่มา... Daily News Online