พ่อท่านโบ บารมีสยบจระเข้

พ่อท่านโบ วัดศิลาชลเขต(วัดหิน) ท่าเป็นพระยุคเดียวกันกับพระครูแก้วครับ  พ่อท่านโบเกิดที่ตำบลละหวา รัฐกลันตัน มาเลเซีย 2407 อุปสมบท เมื่อปี 2427 ที่วัดกลาง กลันตัน เดนทางมาประทศไทยเมื่อ 2432พำนักตามวัดต่างๆวัดล่ะ 3-6 ปี เป็นเวลา 22ปี พ.ศ.2455จึงได้มาจำพรรษาที่วัดศิลาชลเขต อ.สิชล  พ่อท่านโบ ได้มรณภาพเมื่อ 2477 อายุ 71ปี51พรรษา  ซึ่งคนในสิชลจะเชื่อถือในความศักดิ์สิทธ์ ของพ่อท่านเป็นอย่างมาก ทั่งเมตตา และด้านวาจาสิทธิ์  พ่อท่านมีลูกสิทธิ์ คนนึงชื่อลุงกลิน ลุงกลินได้เรียนวิชา คงกระพัน และกำบังกายหายตัวได้สำเร็จ ก็แอบเข้าไปขโมยน้ำตาลหลวงพ่อท่านทราบก็เลยห้ามไม่ไห้ใช้วิชาจนกว่าจะเป็นพระ สำหรับวิชาคงกระพันนั้น ลุงกลินได้โชวในงานบวชโผนกิ่งเพชร ที่วัด โดยไห้นำต้นโอนที่หนามเต็มต้นมาตั้งกลางลานวัด แล้วปีนขึ้นไห้คนได้ดู  ศิษย์อีกคนเล่าว่าท่านอาพาธอยู่และได้เพ่งญาณรู้ว่ามีคนจะนำเอากระท้อนไปขายท่านจึงไห้เด็กไปขอซัก 2-3 ลูก เด็กไปขอเจ้าของบอกว่ากระท้อน เข้าเค้า พอดีจึงไม่ไห้ เด็กมาบอกพ่อท่านเลยเผลอพูดไปว่า เข้าเค้านอกเลแหละ ปรากฏว่าเรือลำนั้นหายออกทะเลไม่กลับมาอีกเลย อีกอย่างเรื่อจระเข้ ที่ท่าหินจะมีจระเข้ชุมมากดุร้ายและ มักทำร้าคนและสัตว์เลี้ยงบ่อยๆ ชาวบ้านไม่กล้าอาบน้ำในคลองจะอาบต่อเมื่อ มีพ่อท่านโบไปด้วย จนครั้งนึกจระเข้ได้ไปกัดเอาควายของพ่อท่านโบเข้า ท่านจึงสาบไห้จระเข้เวลาผ่านคลองหน้าวัดที่มีความยาวกว่า 200เมตร ไม่สามารถดำน้ำและอ้าปากได้เป็นอย่างนั้นหลายสิบปีจนจระเข้หมดไปในตอนหลัง อีกอย่างนึงเมื่อครั้งหลวงพ่อท่านได้เดินทางและโดนพายุพัดไปติดที่แหลมญวณก็เดินทางขึ้นกลับมาที่ ตราจถึงช่วงเข้าพรรษาท่านจึงไปปวารนาเข้าพรรษา ที่วัดพงศ์สอม จังหวัดตราด แต่คณะที่ไปด้วยไม่มีเงินทองท่านจึงได้เสกตะกรุดไห้ชาวบ้านแถบนั้น ปรากฏว่ายิงไม่ออก ชาวบ้านจึงเอาอาหารมาเลี้ยงทั้งคณะจนตลอดพรรษา จึงเดินทางกลับ

พระเครื่องของพ่อท่านแม้พ่อท่านไม่ได้เสกเองแต่ก็ปรากฏความศักดิ์สิทธิ์ มากมายมีการสร้างหลายครั้งหลายรุ่นด้วยกัน เช่น

1.รูปหล่อโบราณ พ.ศ.2501 เป็นพระกริ่ง สร้างพร้อมรูปเหมือน สร้างจำนวน 1000 องค์ ได้ ปลุกเสกและพุทธาภิเศกที่วัดสุทัศโดยสมเด็จพระพุทฒาจารย์วัดสุทัศน์ ได้ใช้ชนวนกริ่งและพุทธชินราชวัดสุทัศปี 85มาเป็นส่วนผสมหลักและได้หล่อในวัดสุทัศน์ทำแบบตาตำราวัดสุทัศน์ทุกประการ จึงดูเนื้อหาเหมือนกับ พระกริ่งชินราชอินโดจีนมาก และพอเสร็จก็ได้นำมาพุทธาภิเศก และสมโภชที่วัดศิลาชลเขต ซึ่งก่อนหน้าได้นำไปไว้ที่พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธ์ 1 พรรษาเต็มไห้หลวงพ่อปลุกเสกไห้ และนำไปไว้ที่ท่านขุนพันธ์ อีกประมาณ2-3เดือน

และเอาไปไว้ที่อาจารย์นำ ดอนศาลาด้วย ซึ่ง3ท่านได้เต็มใจปลุกเสกเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในปัจจุบันหาชมได้ยากมากๆอย่าว่าแต่หาบูชาเลย คนในพื้นที่ยังมีน้อยเป็นพระที่โผนกิ่งเพชรติดตัวตลอดครับ ราคาอยู่หลักหมื่นกลางครับอนาคตแตะ 6หลักแน่นอนครับ

2.รุ่นที่สองเป็นแบบเหรียญใบสาเกและเนื้อว่าน สร้าง พ.ศ.2505 สร้างในโอกาสฉลองอนุสาวรีย์จำนวน 2700เหรียญเท่านั้นส่วนว่าน สร้าง24379องค์ ปลุกเสกโดยพุทฒาจารย์วัดสุทัศน์เหมือนรุ่นแรก และก็นำไปไห้พ่อท่านคล้าย อาจารย์นำ ขุนพันธ์ และสายเขาอ้อปลุกเสก และทำพิธีพุทธาภิเศกที่วัดศิลาชลเขต ซึ่งพระที่มาปลุกเสกนั้นคือพระที่ดังๆในประเทศมากันครบครั่ง  อย่างเช่น หลวงพ่อสง เจ้าฟ้าศาลาลอย หลวงปู่เขียววัดหรงบล หลวงพ่อแดงเขาบันไดอิฐ  หลวงพ่อพัฒ วัดใหม่ พ่อท่านผอมดอนใคร หลวงพ่อมุ่ย อาจารย์ร่าน ฯ  ซึ่งเหรียญถือว่าเป็นเหรียญรุ่นแรก และหายากแล้วครับ  ราคา คงอยู่ประมาณหมื่นต้นครับ ส่วนว่าน ก็หลักพันครับ

3.รุ่นสามพระผมสร้างจำนวน5000 องค์ ส่วนมากเป็นพระที่ปลุกเสก ปี05 มาปลุกเสกครับเล่นหากันหลักร้อยถึงหลักพันครับ

4.รุ่นสี่เป็นพระกริ่ง และว่านสร้าง พ.ศ.2511 สร้างจากความต้องการของชาวบ้าน ปลุกเสกที่วัดครับเล่นหากันหลักร้อยแก่ๆถึงพัน

5.รุ่นที่5 สร้างในโอกาสพระราชทานเพลิงศพพระครูอมรสุตคุณอดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ สอง ของวัดสร้างในปี 2529 มีกริ่งและเหรียญ ราคาเล่นหากันหลักร้อยครับ

6.รุ่นที่หก สร้างปี 2539 สร้างเป็นพระกริ่งและเหรียญแบบย้อนยุค มีเนื้อ ทอง เงิน ทองแดง สร้างเนื่องในโอกาสเททองหล่อรูปพ่อท่านทวี หรือ พระครูอมรสุตคุณ เล่นหาเนื้อทองแดงหลักร้อยกริ่งร้อยแก่ๆถึงพันครับ

7.รุ่นที่เจ็ด สร้างเมื่อปี 2549 เพื่อหาเงินบำรุงเข้าวัดและโรงเรียนครับสร้างพร้อมจตุคามรามเทพรุ่นมงคลเทวราชัน พิธีดีมากครับพระดังๆปลุกเสกเพียบ อาจารย์หรีดอาจารย์สูตรหลวงพ่อนวล พ่อท่านเอื้อม พ่อท่านเนียมฯ

ราคาหลักร้อยครับ

สอบถามค่ะ  หนูมีเหรียญ  เนื้อทองแดง รูปวงรี  ด้านหน้าเป็นพระพุทธ ด้านหลังเป็นพระธาตุลอย

ด้านหน้าพิมพ์ว่า  พระธาตุลอย องค์เดิม ศตวรรษ 18  ไม่ทราบว่าประวัติความเป็นมายังไงค่ะ

หาข้อมูลยังไงก็ไม่พบค่ะ