พระร่วงยืน กรุสองพี่น้อง สุพรรณบุรี

พระร่วงสองพี่น้อง
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน เมื่อวันก่อนได้มีการประชุมกันเรื่องการจัดประกวดการอนุรักษ์พระเครื่องพระบูชา ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์มติชน หนังสือพิมพ์ข่าวสด ท่านรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกับสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย และสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชา จังหวัดสุพรรณบุรี โดยจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2551 ที่บริเวณวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี วัตถุประสงค์เพื่อหารายได้นำไปสร้างมณฑป และพระพุทธรูปหินแกะสลัก ที่วัดเขาดีสลัก อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี งานนี้เป็นงานใหญ่ที่พี่น้องชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมแรงร่วมใจกันจัดอย่างเต็มที่ ในงานนี้มีการออกร้านอาหารของแต่ละอำเภอนำเลี้ยงผู้ที่เข้ามาเที่ยวชมงานฟรีครับ งานนี้ไม่ควรพลาดเพราะนอกจากท่านจะมาส่งพระเครื่องพระบูชาของ ท่านเข้าประกวดแล้ว ท่านยังจะได้มานมัสการพระประธานซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ที่สวยงาม และเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรีอีกด้วย และก็ในวันนี้มีการทอดกฐินที่วัดเขาดีสลักด้วยครับ ขับรถไปอำเภออู่ทองแค่ประมาณ 30 ก.ม.ก็ถึงวัดเขาดีสลักแล้ว ไปไม่ถูกถึงอู่ทองสอบถามชาวบ้านแถบนั้นก็ได้ครับ ที่วัดเขาดีสลักมีรอยพระพุทธบาทสมัยทวารวดี นับว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียวครับ อย่าลืมนะครับวันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2551 ไปเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรีกันครับ

เมื่อพูดถึงจังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว ก็น่าจะพูดถึงพระเครื่องของจังหวัดนี้กันสักหน่อยนะครับ จังหวัดสุพรรณบุรีนับว่าเป็นเมืองแห่งพระเครื่องพระบูชาที่ใหญ่จังหวัดหนึ่ง ของเมืองไทย มีการพบพระเครื่องพระบูชาหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่สมัยทวารวดี ลพบุรี อู่ทอง จนถึงสมัยอยุธยา มากมายหลายกรุ วันนี้จะพูดถึง พระร่วงสองพี่น้อง กันบ้าง สองพี่น้องก็มีพระร่วงเนื้อชินสนิมแดงเช่นกัน โดยขุดพบที่บ้านหุบระฆัง บริเวณนั้นเป็นเนินดินที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "เนินวิหาร" สันนิษฐานว่าที่ตรงนั้นอาจจะเป็นวิหารเก่ามาก่อนแต่ปรักหักพังไปแล้วเหลือ แต่เนินดินเท่านั้น ในวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2513 นายประมวล สุวรรณเกิด อดีตนายอำเภอสองพี่น้องได้สั่งให้รถไปเกรดดินตามเส้นทางบนถนนโบราณ เพื่อทำถนนไปยังปากคลองบางสาม ก็ได้พบพระร่วงกระจัดกระจายไปตามพื้นดิน ชาวบ้านเห็นเข้าต่างก็กรูกันเข้าแย่งกันได้ไปคนละองค์สององค์ พอวันรุ่งขึ้นก็มีประชาชนเข้ามาขุดบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก การพบครั้งนี้คงได้พระไปประมาณสองสามร้อยองค์เห็นจะได้ ต่อมาอีกไม่กี่วันก็ได้พบพระอีกกรุหนึ่งเป็นพิมพ์เดียวกับพระที่พบครั้งแรก ครั้งนี้ได้พระไปประมาณหนึ่งถึงสองพันองค์ได้

พระที่พบเป็นพระร่วงยืน เนื้อตะกั่วสนิมแดงทั้งหมด ลักษณะคล้ายกับพระร่วงกรุโรงสี ศิลปะเป็นแบบอู่ทอง ขอบขององค์พระมีลักษณะเป็นแบบเกลียวเชือก ปัจจุบันหาชมค่อนข้างยากแล้วครับ วันนี้ผมก็ได้นำรูป พระร่วงกรุสองพี่น้อง มาให้ชมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ

หนังสือพิมพ์ข่าวสด ด้วยความจริงใจ แทน ท่าพระจันทร์