พระเครื่อง อมูเลทตั้มศรีวิชัย ตลาดพระเครื่องรางของขลัง สวนไผ่สกลนคร หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล วันตรุษจีน2567

![]() |
>...ตั้มศรีวิชัย TumAmulet ...< Thailand Amulet Charms |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สารบัญพระเครื่องเมืองนคร |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
บูชาพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง Amulets Charms Talismans |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
จตุคาม-รามเทพ หลักเมืองนคร Jatukamramtep (Jatukarm) |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ลิงค์น่าสนใจ |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
พระเครื่อง นานาสาระ |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สวนไผ่ พันธุ์หญ้า ธนภัทรสกลนคร สินค้าเกษตรออนไลน์ ไผ่สายพันธุ์ต่างๆ ไผ่ข้าวหลามกาบแดง ไผ่ซางหม่น หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้านรกจักรพรรดิ์ หญ้าเนเปียร์ปากช่อง1 หญ้าเนเปียร์แคระ หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ สะสมพระเครื่อง แต่ใจรักเกษตรผสมผสาน
|
เครื่องรางของขลัง ขุนพันธรักษ์ราชเดช ![]()
ตำนานเครื่องรางของขลัง ขุนพันธรักษ์ราชเดช ก่อนอื่นต้องขออนุญาตเกริ่นนิดนึง ที่ผมเริ่มเขียนเรื่องนี้เนื่องจาก การที่ได้กลับไปร่วมงานศพของคุณตาขุนพันธ์ ที่จ.นครศรีธรรมราช และได้ไปพบเห็นกระแส ที่ต้องพูดว่าไม่เคยได้พบ มาก่อน สำหรับสามัญชน ที่ได้รับการยกย่องมากขนาดนี้ จากเดิมที่ไม่เคยสนใจมาก่อน ว่าท่านเคยทำอะไรไว้บ้างให้สังคม ประกอบกับการ ได้อ่านหนังสือหลายเล่มที่มีการนำมาจำหน่ายที่บริเวณงาน ทั้งจากปากคำญาติพี่น้อง และที่สำคัญคือคุณยายของผม ซึ่งถือว่าเป็นผู้อาวุโสท่านสุดท้ายในรุ่น คุณตาขุนพันธ์ ทำให้ผมรู้สึกถึงสิ่งที่ควรจะนำมาถ่ายถอดถึงรายละเอียดบางอย่างที่บางท่าน อาจยังไม่รับรู้ หรือถ้าได้รับรู้แล้ว ก็ถือว่าเป็นวิทยาทานให้ท่านที่ยังไม่ รู้ก็แล้วกันครับ โดยข้อมูลส่วนใหญ่จะเป็นจากหนังสือตำนานเครื่องรางของขลัง ขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งแต่งโดย ทศยศ ผมก็ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ เปิดตำนาน ดาบพระยาพิชัยดาบหัก (ดาบแดง) ปี พ.ศ. 2486 เป็นช่วงที่ พันตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ย้ายไปเป็นผู้กำกับที่ จ.พิจิตร ท่านได้ปราบปรามโจรผู้ร้ายมากมาย โดยเฉพาะการปราบ เสือโน้ม หรืออาจารย์โน้ม จึงได้รับพระราชทานยศเป็นพันตำรวจตรี ประมาณ พฤษภาคม พ.ศ. 2488 ที่พิจิตรนี่เอง ที่ท่านได้พบกับ หลวงกล้ากลางณรงค์ ผู้ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก พระยาพิชัยดาบหัก ทหารเอกพระเจ้าตากสิน ซึ่งใน รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่6 ได้พระราชทานนามสกุล ของตระกูลพระยาพิชัยว่า วัชัยขัทคะ ซึ่งแปลได้ว่า ดาบวิเศษด้วยความที่ขุนพันธรักษ์ราชเดช ท่านเป็นคนที่มีนิสัยใจคอเด็ดเดี่ยว ยึดถือคำสัจจะสัญญา มีนิสัยนักเลง (ไม่ใช่เกะกะ เกเร เที่ยวรังแกคนอ่อนแอกว่า) แต่จะมีนิสัย รักษาคำพูด รักเพื่อนพ้อง ไม่กลัวที่จะเสี่ยงภัยในการทำหน้าที่ ประกอบกับได้เรียนวิชามวยไทย กระบี่กระบอง จึงทำให้ หลวงกล้ากลางณรงค์ รักใคร่ในนิสัยดังกล่าว และได้รับ ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นบุตรบุญธรรมหลวง กล้ากลางณรงค์ เห็นว่าท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช มีฝีมือในวิชากระบี่กระบอง ถึงได้มอบดาบประจำตระกูลให้ท่าน โดยหลวงกล้ากลางณรงค์ ประกาศอย่างชัดเจน ว่า ดาบเล่มที่มอบให้ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ถึงแม้จะเป็นดาบประจำตระกูล แต่จะมอบให้ลูกหลาน ที่มีวิชากระบี่กระบอง ซึ่งในบรรดาลูกหลาน ในสายสกุลพระยาพิชัยดาบหัก ไม่มีใครที่มีฝีมือทางด้านนี้เลยดาบ เล่มดังกล่าวเลยตกทอดมาสู่ขุนพันธรักษ์ราชเดช และต่อมาท่านได้นำดาบเล่มนี้ ใส่ถุงผ้าสีแดง และยึดถือเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์อีกอย่างหนึ่ง ประจำตัวของท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช เหรียญขุนพันธ์ มือปราบสิบทิศ มีเรื่องเล่ากันว่าตอนที่ ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้รับดาบเล่มนี้มาใหม่ๆ เสือย่อม หัวหน้าโจรปล้นฆ่าจากเมืองชัยนาท ได้เข้ามาสร้างความวุ่นวายในพิจิตร และได้ประกาศ ให้ชาวบ้านรู้กันว่า หากขุนพันธรักษ์ราชเดช มีฝีมือทางกระบี่กระบองจริง ตนขอท้าให้มาจับ โดยตนจะขอใช้เพียงไม้หน้าสาม เข้าสู้กับดาบประจำตระกูล พระยาพิชัย ที่ขุนพันธรักษ์ราชเดชครอบครองอยู่ท่าน ขุนพันธรักษ์ราชเดช จึงรับคำท้าโดยในครั้งนั้นขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ทำพิธี ตัดไม้ข่มนาม ตามพิธีโบราณ คือ ใช้ดาบประจำตระกูลพระยาพิชัยดาบหัก ฟันลงไปที่กิ่งต้นมะยม โดยถือเคล็ด เอาชื่อพรรณไม้ ที่ใกล้เคียงกับชื่อ เสือย่อม มากที่สุดคือ ไม้มะยม หรือ ไม้ยม ในการทำพิธี ตัดไม้ข่มนาม แต่ในครั้งนั้น ขุนพันธรักษ์ราชเดชไม่ได้ใช้ดาบเล่มดังกล่าว เข้าต่อสู้กับเสือย่อม แต่ใช้ไม้ระกำ ซึ่งมีหนามแหลม โดยประกาศว่า "หากเสือย่อมใช้ไม้หน้าสาม ขุนพันธรักษ์ราชเดชเองก็จะขอใช้อาวุธที่ด้อยกว่า คือไม้ระกำ เพราะถือว่า ไม่ยอมให้ใครมาข่มบารมีตำรวจได้"และเป็นครั้งแรก ที่ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้สะพายเครื่องรางของขลัง ดาบประจำตระกูลพระยาพิชัยดาบหัก ในการออกปราบปรามโดย ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้เข้าปราบปราม เสือย่อมในวันที่ 23 มิถุนายน 2488 ในการดวลกระบี่กระบองในครั้งนั้น เสือย่อมถูกหวดด้วยไม้ระกำขอยอมแพ้ในที่สุด ซึ่งส่งผลให้ชาวบ้านรู้จักขุนพันธรักษ์ราชเดช กัน ในชื่อ "ขุนพันธฯ ดาบแดง" นอกจากนี้ ยังส่งผลให้กลุ่มเสือย่อม กลุ่มเสือครึ้ม กลุ่มเสือปลั่ง แตกสลายตัว บ้างก็โดนจับ บ้างก็หนีออกนอกพื้นที่จ.พิจิตรหลังจากที่ขุนพันธรักษ์ราชเดชได้ดาบเล่มนี้มาแล้ว ก่อนจะออกปราบปรามทุกครั้ง ท่านจะนำดาบเล่มดังกล่าว เข้าทำพิธี "แช่น้ำข้าวเหนียว" และนำไปวางพิงกับ ต้นไม้ ในทิศตะวันออกของสถานที่พักอาศัย โดยวางดาบเล่มดังกล่าวให้อยู่กลางหาว โดยให้อาบแสงจันทร์ ในลักษณะถอดดาบออกจากฝัก ให้ด้านคมของดาบหัน เข้าหาแสงจันทร์ ตอนกลางคืน ทั้งนี้จากความเชื่อที่ว่า คนเรียนไสยเวท ไม่ว่าจะเป็นโจรผู้ร้าย หรือแม้แต่ตำรวจเองก็ตาม ในสมัยก่อนนิยมสักยันต์ หรือหาเครื่องรางของขลัง ที่เชื่อว่าทำให้ตน หนังเหนียวขุนพันธรักษ์ราชเดชจึงทำการแก้เคล็ด โดยนำไปแช่ น้ำข้าวเหนียว เพราะคำว่า "ข้าวเหนียว" กับ "เข้าเหนียว" เป็นคำที่พ้องนาม พ้องเสียง ซึ่งสามารถสื่อได้ว่า "ต่อให้หนังเหนียวขนาด ไหน ก็ยังฟันเข้าด้วยดาบเล่มนี้ เพราะผ่านพิธีแก้เคล็ด โดยการ แช่น้ำข้าวเหนียวมาแล้ว" และการนำไปอาบแสงจันทร์ ก็เพื่อเพิ่มความขลัง เพราะสีของดาบเป็นสีปีกแมงทับ คือจะสีออกเขียวเหลื่อม ส่องประกายดุดัน ยามที่ต้องแสงจันทร์ในตอนกลางคืน เมื่อลูกน้องใต้บังคับบัญชา ได้เห็นดาบเล่มที่เป็นตำนานของพระยาพิชัยดาบหัก ส่องประกายดุดัน ก็จะเกิดความหึกเหิม ใจกล้ามากขึ้นหลัง จากนั้นในการออกปราบปรามทุกครั้งของขุนพันธรักษ์ราชเดช ก็ได้ใช้พิธีแช่น้ำข้าวเหนียว กับตัดไม้ข่มนาม ด้วยดาบประจำตระกูลเล่มนี้ทุกครั้งก่อน เพื่อเพิ่ม ขวัญกำลังใจ ให้กับตนเองและผู้ใต้บังคับบัญชา จนต่อมาจากการที่ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้สะพายถุงผ้าสีแดง ที่ห่อดาบเล่มดังกล่าว ในการออกปราบปรามทุกครั้ง จึงทำให้ขุนพันธรักษ์ราชเดช มีฉายาเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างว่า "ขุนพันธ ดาบแดง" พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชยังได้ให้อาจารย์ยัง*** เจ้าอาวาสวัดปากครองมะขามเฒ่า ปลุกเสกให้พร้อมกับมีดพก เมื่อพ.ศ.2489 เมื่อย้ายไปรับราชการที่ จ.ชัยนาท เพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจ ในการทำหน้าที่ จนประสบความสำเร็จทุกครั้ง *** อาจารย์ยัง ถือเป็นครูคนที่สิบเอ็ดของ ขุนพันธรักษ์ราชเดช โดยอาจารย์ยัง วัดหนองน้อย ชัยนาท ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า รุ่นเดียวกับกรมหลวงชุมพรฯ สอนเกี่ยวกับการปลุกดาบ ปลุกมีดเสกน้ำมะพร้าวแก้ช้ำแก้ชอกให้แก่ ขุนพันธรักษ์ราชเดช |