พระเครื่อง อมูเลทตั้มศรีวิชัย ตลาดพระเครื่องรางของขลัง สวนไผ่สกลนคร หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล วันตรุษจีน2566

![]() |
>...ตั้มศรีวิชัย TumAmulet ...< Thailand Amulet Charms |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สารบัญพระเครื่องเมืองนคร |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
บูชาพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง Amulets Charms Talismans |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
จตุคาม-รามเทพ หลักเมืองนคร Jatukamramtep (Jatukarm) |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ลิงค์น่าสนใจ |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
พระเครื่อง นานาสาระ |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สวนไผ่ พันธุ์หญ้า ธนภัทรสกลนคร สินค้าเกษตรออนไลน์ ไผ่สายพันธุ์ต่างๆ ไผ่ข้าวหลามกาบแดง ไผ่ซางหม่น หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้านรกจักรพรรดิ์ หญ้าเนเปียร์ปากช่อง1 หญ้าเนเปียร์แคระ หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ สะสมพระเครื่อง แต่ใจรักเกษตรผสมผสาน
|
เซียนดัง"ต้อย เมืองนนท์" เชี่ยวชาญพระกรุพระเก่า และพระชุดเบญจภาคี ![]()
เซียนดัง"ต้อย เมืองนนท์" "ต้อย เมืองนนท์" เล่าถึงที่มาของ พระชุดเบญจภาคี ให้ฟังว่าคำว่า เบญจภาคี แปลว่า 5 ภาคี มารวมกัน ก็คือ พระ 5 ชนิด ซึ่งเป็นพระชั้นนำที่สุด พูดง่ายๆ ว่าเป็นจักรพรรดิ พระทั้ง 5 ชนิด ประกอบด้วย สมเด็จวัดระฆังฯ นี่ไม่จำเป็นจะต้องแบ่งแยก จะเป็นพิมพ์ใหญ่ก็ได้ พิมพ์ทรงเจดีย์ก็ได้ ขอให้เป็นพระสมเด็จวัดระฆังฯ ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นผู้จัดสร้างขึ้น เมื่อประมาณปี พ.ศ.2409 เป็นองค์สุดยอดของเบญจภาคี ใครๆ ก็ยกย่องว่าเป็นจักรพรรดิชุดเบญจภาคี เมื่อเป็นจักรพรรดิของชุดเบญจภาคีเขาก็ต้องเป็นคิงส์ของพระทั้งหมด เรื่องราคาเป็นเรื่องความต้องการ เมื่อของมีน้อยความต้องการมากก็เป็นพระที่มีคุณค่าสูง "ชุดเบญจภาคีคนตั้งชื่อขึ้นมาคือ พันโทผจญ หรือ ตรียัมปวาย พระเบญจภาคีมี 5 ชนิด อันดับแรกก็คือ สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ หรือทรงพระประธาน ซึ่งถือว่าเป็นพิมพ์เอกที่สุด เป็นพระเนื้อผง ประกอบด้วย มวลสารศักดิ์สิทธิ์ 5 ชนิดที่มีชื่อเสียงของสมเด็จโต ผงอิทธิเจ ปัถมัง ตรีนิสิงเห มหาราชและผงพุทธคุณ ซึ่งถือว่าพระองค์นี้เป็นพระที่มีมวลสารศักดิ์สิทธิ์ เพราะสมเด็จพุฒาจารย์โตท่านสะสมมาตั้งแต่ท่านยังเป็นเณร เมื่อคราวเรียนบาลี เรียนวิชาอาคมต่างๆ ท่านก็จะเก็บรวบรวมพวกผงชอล์กต่างๆ และก็นำมาสร้างพระ" นอกจากผงวิเศษแล้วท่านก็มีสมาธิดีเยี่ยม อธิษฐานจิตปลุกเสก มีคุณค่ามาก พูดตรงๆ พระเบญจภาคีคือพระที่เราสามารถจะทราบประวัติของทุกๆ องค์ได้ มีประวัติแน่นอน เพราะฉะนั้น ทำให้มีความชัดเจนและสร้างสำหรับให้ไว้ใช้ เมื่อมีความชัดเจนคนก็อยากจะได้ สมัยเล่นพระใหม่ๆ ผมต้องเดินทางบ่อย เช่น กรุไหนแตกมักจะไปดู พระกรุพระเก่าเหล่านั้น บางกรุจะมีใบลานเงินใบลานทองอยู่ ระบุไว้เลยว่าใครเป็นผู้สร้าง สร้างเมื่อไร สร้างด้วยเนื้ออะไร และสร้างเพื่อวัตถุประสงค์อะไร
ในชุดเบญจภาคี องค์ที่ 2 บางคนเขาเรียกว่า สมเด็จนางพญา จริงๆไม่ใช่เป็นพระนางพญา พระนางพญาต้นกำเนิดอยู่ที่เมืองพิษณุโลก ถ้าใครทราบประวัติ จะทราบว่าผู้ครองเมืองพิษณุโลกคือ พระมหาธรรมราชา บิดาของสมเด็จพระนเรศวร และพระมเหสีของพระธรรมราชาคือ พระวิสุทธิกษัตริย์ พระวิสุทธิกษัตริย์เป็นผู้สร้างและนำไปไว้ที่วัดราชบูรณะ คนก็สงสัยพระนางพญาไปขึ้นที่วัดราชบูรณะมันก็ต้องมีเรื่องที่มาที่ไป คือวัดราชบูรณะเป็นวัดที่สมเด็จพระมหาธรรมราชาเป็นผู้สร้างขึ้นมา แล้วก็ถือว่าเป็นวัดหลวงวัดใหญ่ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ท่านได้เสด็จฯ ไปที่พิษณุโลกก็มีการตัดถนนผ่าวัดแบ่งเป็น 2 ส่วน แต่ก็ยังเป็นวัดราชบูรณะอยู่ จนกระทั่งมีการขุดพลับพลาที่ประทับของพระพุทธเจ้าหลวง บังเอิญไปเจอพระ คนก็เลยถามว่าพระขึ้นที่ไหนพอดีบังเอิญเป็นชื่อพระนางพญา ก็เลยแบ่งแยกฝั่งที่ไม่ใช่เจดีย์ใหญ่ คือฝั่งที่เจอพระเจดีย์เล็กว่าวัดนางพญา จริงๆ เดิมก็คือวัดราชบูรณะ พระนางพญา การที่ขุดพบจะเจอใบจารเงินจารทอง ซึ่งระบุที่มาที่ไปก็คือ สมเด็จพระวิสุทธิกษัตริย์เป็นผู้สร้าง สร้างเพื่อที่จะไว้ต่อไปภายภาคหน้าในการศาสนา และเมื่อมีศึกสงครามใหญ่ก็จะนำพระขึ้นมาใช้ แสดงว่าเป็นการเตรียมการเพื่อที่จะไว้ใช้ในการต่อสู้ศึกสงคราม พระนางพญาจะเป็นเนื้อดินเผา ซึ่งเป็นการสร้างพระเนื้อดินมาผสมกับเกสรว่าน 108 และมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เป็นที่นิยมและเคารพในยุคนั้นสมัยนั้น แล้วก็นำไปเผา เมื่อเผาเสร็จก็ทำพิธีปลุกเสกโดยเกจิคณาจารย์ในยุคนั้นที่ดังๆ แล้ว ก็นำไปบรรจุไว้ที่เจดีย์วัดราชบูรณะ แล้วในใบจารเงินจารทองระบุไว้ว่า สร้างไว้สำหรับเพื่อไว้ใช้คล้องคอ และเมื่อมีเหตุหรืออุบัติเหตุ อะไรต่างๆ เกี่ยวกับภยันตรายสามารถช่วยได้ อันนั้นตามใบจารเงินจารทอง แต่ไม่ได้พูดเพื่อให้เป็นการหลงใหลเชื่อถือในกฤษฎาภินิหารต่างๆ พระนางพญาเป็นพระที่มีที่มาที่ไป ทำให้คนในสมัยก่อนที่ไม่มีพระรุ่นแรกก็ยกย่องว่านี่แหละเป็นพระชั้นยอดของพระองค์หนึ่งในพระกรุที่ควรจะจัดเข้ามาอยู่ในชุดเบญจภาคี อีกองค์หนึ่งเรียกว่าเป็นพระที่ยิ่งใหญ่ทางภาคเหนือเหมือนกันเรียกว่า พระกำแพงซุ้มกอ ซึ่งเราก็รู้ที่มาที่ไป ในการขุดค้นพบพระกำแพงซุ้มกอ ระบุในใบลานเงินลานทอง ผู้ที่สร้างพระซุ้มกอก็คือ พระมหาธรรมราชาลิไท ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ในยุคกรุงสุโขทัยตอนกลาง ท่านได้สร้างพระไว้เพราะว่าในยุคของท่านเป็นยุคที่พุทธศาสนารุ่งเรืองมาก ถือว่าเป็นยุคสุโขทัยที่เป็นการประกาศศาสนาอย่างกว้าวขวาง โดยเฉพาะศาสนาพุทธถือว่าเป็นศาสนาประจำชาติ ท่านได้บูรณะเจดีย์ต่างๆ และได้สร้างพระกำแพงซุ้มกอขึ้นมา เพราะลักษณะโค้ง สำหรับพระองค์ต่อมา เป็นพระซึ่งถือว่าอยู่ในชุดเบญจภาคีมีอายุสูงที่สุด อายุประมาณ 1,000 ปี พระรอด ถือว่าเป็นพระนิรันตรายตามความเชื่อถือจากการที่ขุดค้นพบ ก็บอกอีกว่าค้นพบหลักฐานระบุไว้ว่าการใช้หรือบูชาพระรอดเป็นนิรันตราย ใครที่แขวนพระรอดก็จะรอดพ้นจากอันตรายต่างๆ ตามความเชื่อถือตามคำบอกเล่าของคนโบราณ ซึ่งก็สมกับการตั้งชื่อว่า พระรอด คือรอดพ้น บางท่านอาจจะมีประวัติว่าผู้ที่สร้างคือ ฤๅษีนารอด จริงๆ แล้วไม่ใช่ ผู้สร้างคือ ท่านชุมมหาเถร และก็นำมาบรรจุไว้ที่วัดมหาวัน เมื่อประมาณ 1,200 ปีที่แล้ว และพระรอดมีทั้งหมดด้วยกัน 5 พิมพ์ มีพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พิมพ์ต้อ พิมพ์ตื้น เป็นพระเนื้อดิน มีทั้งหมดด้วยกัน 5 สี มีขาว แดง เขียว น้ำตาล เหลือง อีกองค์ พระผงสุพรรณ สมัยโบราณเรียกกันว่า พระเกสรสุพรรณ ถูกค้นพบที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี ในยุคสมัย ท่านอี้ กรรณสูต เป็นพ่อเมืองหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 พระผงสุพรรณเป็นพระซึ่งมีหลักฐานที่ปรากฏชัดเจนกว่าพระอื่นทั้งหมด เพราะมีใบลานจารึก ซึ่งระบุอย่างละเอียดถึงขนาดที่ว่ากรรมวิธีการสร้าง มีเนื้อว่านเกสรอะไรบ้าง และยังบ่งบอกถึงผู้ที่สร้างอย่างละเอียด ประธานฝ่ายฆราวาสคือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ประธานในการสร้างฝ่ายสงฆ์คือ ท่านปิยะทัสสี ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ของฤๅษีในยุคนั้น และยังระบุด้วยว่าการจะใช้ถ้าจะใช้ในการต่อสู้คมหอกคมดาบให้ทำอย่างไร บูชาอย่างไร เช่น นำไปแช่น้ำและนำดอกไม้อะไรมาอะไร หรือไม่จะค้าขายจะทำอย่างไรไปใส่ในน้ำมันแล้วเอาน้ำมันมาทาที่ศีรษะและอาราธนาท่านในการเดินทางค้าขาย ซึ่งเป็นพระที่บ่งบอกทุกอย่างไว้อย่างละเอียด จึงถูกจัดไว้ในชุดเบญจภาคีโบราณหายาก ศิลปะเป็นเลิศคือ ศิลปะยุคอู่ทอง ซึ่งถือว่าถ้าเป็นพระพุทธรูปพระบูชาถือว่าแพงมาก เพราะมีน้อย และแบ่งแยกออกตามพระ พุทธรูปด้วย เป็น 3 พิมพ์ ได้แก่ หน้าแก่ หน้ากลาง หน้าหนุ่ม ซึ่งพระพุทธรูปอู่ทองก็แบ่งแยกเป็น 3 พิมพ์ หน้าแก่ หน้ากลาง หน้าหนุ่ม ซึ่งตรงกับพระผงสุพรรณ เพราะทำให้เห็นว่าการสร้างพระเครื่องก็ต้องมาจากการสร้างพระองค์ใหญ่ และก็นำรูปลักษณ์ของพระองค์ใหญ่มาเป็นพระเครื่อง ทั้งหมดคือข้อมูลที่ได้รับการถ่ายทอดจากเซียนดังนามเรียกขานในวงการ ต้อย เมืองนนท์ เซียนมากประสบการณ์ตัวจริง ข่าวสด |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (161292) | |
วันนี้ผมเอาพระหูยานไปร้านตอ้ยเมืองนนมาครับเขาสอ่งพระแล้วก็ถา่ยรู้เก็บไวถามว่าเท่าไรแล้วเอาพระไปให้อีกร้านดูดว้ยตาแล้วก็คืนมาให้ผมงงครับแค่ตาเปล่่าก็รู้ไม่สอ่งเลยผมดคริปของจารย์พระก็มีตำนิครบตามบอกหมดเลยผมก็งง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 0828719010 วันที่ตอบ 2017-02-05 13:26:36 |
[1] |