ReadyPlanet.com
dot
>...ตั้มศรีวิชัย TumAmulet ...< Thailand Amulet Charms
dot
bulletคำแนะนำจากตำรวจเมื่อถูกโกง
bulletเงื่อนไขการรับประกัน การันตีพระเครื่อง
dot
สารบัญพระเครื่องเมืองนคร
dot
bulletทำเนียบพระกรุเมืองนคร
bulletทำเนียบพระเครื่องเมืองนคร
bulletชมรมพระเครื่อง
dot
บูชาพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง Amulets Charms Talismans
dot
bulletตลาดพระ amulet for you
bulletเช่า-บูชา เครื่องรางของขลัง
bulletพระหลวงปู่ทวด วัดต่างๆ
dot
จตุคาม-รามเทพ หลักเมืองนคร Jatukamramtep (Jatukarm)
dot
bulletหลักเมืองนครศรีธรรมราช
bulletจตุคาม ของดีนำมาโชว์
bulletบทความ น่ารู้องค์พ่อจตุคาม
bulletJatukam Amulets
bulletบทความจตุคามรามเทพ
dot
ลิงค์น่าสนใจ
dot
bulletหนังสือพิมพ์
bulletลิ้งค์เพื่อนบ้าน
bulletเทศกาล วันสำคัญ
bulletดวง ดูดวง หน้าหลัก
bulletบทความดีๆ
bulletนิทานสอนใจ
bulletวัฒนธรรมไทย ประเพณีไทย
bulletบทสวดมนต์ สำหรับชาวพุทธ
dot
พระเครื่อง นานาสาระ
dot
bulletพระพุทธรูปสำคัญของไทย
bulletคาถา-อาคม พระคาถาอาคม
bulletพระพุทธรูปปางต่างๆ
bulletพุทธศาสนสุภาษิต
bulletข่าวพระเครื่อง
bulletบทความพระเครื่อง
bulletThai Buddha Amulets
bulletข่าวพระพุทธศาสนา
bulletข่าวเครื่องรางของขลัง
bulletสาระพระเครื่องไทย
bulletประวัติพระวิปัสสนาจารย์




ห้าม!...บวชบัณเฑาะก์ article

จากกรณีที่...พระนฤพนธ์ ติสสวโร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์บน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พระสมเจตน์ ฐานังกโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสนามนอก และ พระอ๊อด พระลูกวัดโชติการาม ถ่ายภาพแสดงถึงความไม่สำรวมที่น้ำตกแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี โดยเป็นภาพที่พระอ๊อดนอนหนุนตักพระสมเจตน์ในน้ำตก และจีวรถลกขึ้นไปถึงขาอ่อน ในขณะที่มีพระอีกรูปหนึ่ง ควงแขนเด็กผู้ชาย และพระกอดกับเด็กชาย โดยภาพถ่ายดังกล่าวถูกนำมาโพสต์ในอินเทอร์เน็ต ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และกลายเป็นประเด็นข่าวที่สังคมสนใจในพฤติกรรมของพระสงฆ์ ที่มีลักษณะการแสดงออกในทางกระตุ้งกระติ้ง จนกลายเป็นข่าวครึกโครมนั้น ต่อมาเจ้าคณะสงฆ์อำเภอบางคูเวียง ซึ่งเป็นคณะสงฆ์ปกครองในตำบลดังกล่าว ได้เรียกตัวมาสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่าพระบางรูปจะยอมรับว่า เป็นเกย์ผ่านรายการทีวีช่องหนึ่ง แต่กลับไม่มีการดำเนินการตามพระวินัยแต่อย่างใด

นอกจากนี้แล้ว มีพระอยู่รูปหนึ่ง ที่ตกเป็นข่าวต้องข้อกล่าวหาลักทรัพย์ ถึงขนาดขึ้นโรงขึ้นศาล คณะสงฆ์ปกครองยังปกป้องราวกับว่า ไม่ใช่ความผิดทางวินัยที่ร้ายแรง "พระที่ไม่เคารพพระธรรมวินัย ถือว่าไม่เคารพพระพุทธเจ้า ต้องเอาพระธรรมวินัยเป็นตัวตั้ง พระอย่าสำคัญว่า พุทธศาสนาและวัดเป็นของตัวต้องรับผิดชอบ การที่พูดว่า เป็นเรื่องของพระ ฆราวาสไม่เกี่ยวนั้นไม่ได้ เพราะพระพุทธเจ้าฝากพระพุทธศาสนากับพุทธบริษัทสี่ วัดและพระอยู่ได้ด้วยศรัทธาของญาติโยม พระไม่เอาธุระ ไม่เอางานด้านศาสนา บวชไปก็เปลืองข้าวสุก ยิ่งเป็นพระที่มีสมณศักดิ์ด้วยแล้ว หากละเลยก็ไม่สมควรเลื่อนสมณศักดิ์ ซึ่งต้องยอมรับว่า พระที่นุ่งเหลืองห่มเหลืองบางรูป มีกิเลสหนากว่าฆราวาสด้วยซ้ำไป แต่พระดีๆ ก็มีอยู่ไม่น้อย" นี่คือเสียงสะท้อนของ พระเทพวิสุทธิกวี กรรมการและเลขาธิการ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย

 พระเทพวิสุทธิกวี บอกว่า บุรุษที่มีความผิดปกติทางเพศ เข้ามาบวชในสังฆมณฑล ย่อมทำให้สังฆมณฑลเกิดความวิบัติ ดังเพศสัมพันธ์วิปริตที่พรรณนาไว้ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑ ปฐมปาราชิกสิกขาบท (ว่าด้วยเมถุนธรรม) ควรที่พระอุปัชฌาย์ต้องเข้มงวดในตัวผู้ขอบวชให้มากขึ้น เพียงแค่เสียงที่เพี้ยนจากปกติ ก็ควรขอใบรับรองจากแพทย์  เพื่อยืนยันความเป็นบุรุษของผู้นั้น

 การที่ให้ผู้ขอบวชมาอยู่วัดก่อนบวชระยะหนึ่ง ก็เพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้บวชว่า มีความผิดปกติทางเพศหรือไม่ ถ้าพบเหตุชวนสงสัย ก็ต้องงดการบวชของผู้นั้นไว้ก่อน

 ทั้งนี้ พระเทพวิสุทธิกวี ได้ยกคำจำกัดความ "บัณเฑาะก์-กะเทย" ที่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงให้ไว้ในวินัยมุข เล่ม ๑ และอคฺคโรจโน ภิกฺขุ นวกะ (นพ.วิโรจน์ เหวียนระวี) ได้ขยายความดังนี้

 บัณเฑาะก์ ได้แก่บุคคล ๓ จำพวก คือ ๑.ชายผู้ประพฤตินอกรีตในทางเสพกาม (ผู้มีราคะกล้า) คือเป็นผู้ชายมีอวัยวะเพศเป็นชายโดยสมบูรณ์ แต่เสพกามกับผู้ชายด้วยกัน ทางเวจมรรค และทางปาก บุคคลจำพวกนี้ มีจิตใจและการแต่งตัวเป็นผู้ชาย แต่กิริยาอ่อนช้อยคล้ายผู้หญิง ปัจจุบันมีศัพท์เรียกเป็นภาษาสแลงว่า "เกย์" เมื่อเสพกาม คนหนึ่งทำหน้าที่เป็นชาย คนหนึ่งทำหน้าที่เป็นหญิง

 ๒.ชายผู้ถูกตอน (จีนเรียกขันที) คือ ผู้ชายที่ถูกตัดอวัยวะเพศออกหมด ทั้งส่วนที่เป็นองคชาตและอัณฑะ บุคคลจำพวกนี้ขาดฮอร์โมนเพศชาย จึงไม่มีความรู้สึกทางเพศ แต่ความสำนึกและจิตใจรวมทั้งความแข็งแรงยังเหมือนผู้ชายโดยสมบูรณ์

 และ ๓.กะเทย คือ คนหรือสัตว์ที่ไม่ปรากฏว่า เป็นชายหรือหญิง มีหลายอย่าง เช่น บางคนมีตัวบังคับ (ยีน) เป็นผู้ชาย บุคคลนั้นก็เป็นผู้ชาย แต่ผิดปกติที่อวัยวะเพศ ทำให้มีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศของสตรี บางคนมีตัวบังคับ (ยีน) เป็นผู้หญิง บุคคลนั้นก็เป็นผู้หญิง แต่อวัยวะเพศบางส่วนมีขนาดใหญ่ จึงทำให้ดูคล้ายองคชาตของผู้ชาย

ในทางพระพุทธศาสนา คำว่า บัณเฑาะก์-กะเทย-อุภโตพยัญชนกะ หมายเอาบุคคลในข้อ ๓ นี้เอง "ภิกษุรูปใดคิดว่าตัวเองมีความเบี่ยงเบนทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นเกย์ ตุ๊ด กะเทย ซึ่งถือว่าเป็นบัณเฑาะก์ พึงเห็นแก่คณะสงฆ์ ลาสิขาไปเถิด อย่าอยู่ในสมณเพศจนผู้อื่นต้องเดือดร้อน หรือต้องรอการพิสูจน์ว่าเป็นบัณเฑาะก์เลย นอกจากจะทำให้ตระกูลเสื่อมเสียแล้ว ยังทำให้สังฆมณฑลเสื่อมเสียเกิดความวิบัติในสังฆกรรมอีกด้วย เป็นตัวอย่างที่เลวทรามแก่เยาวชนผู้ไม่รู้ความ ถือว่าเป็นวิบากกรรมติดตัวไปตลอดชีวิต ทั้งในภพนี้และชาติหน้า" พระเทพวิสุทธิกวี กล่าวทิ้งท้าย

บัณเฑาะก์-กะเทย "บัณเฑาะก์" มาจากคำว่า "ปณฺฑก" บัณเฑาะก์ แปลว่า หมายถึง ผู้ที่มีเครื่องหมายของบุรุษหรือสตรีเพศขาดตกบกพร่องไป หรือที่เราท่านทั้งหลายเรียกบุคคลประเภทนี้ว่า “กะเทย" แบ่งออกเป็น ๕ จำพวก ได้แก่

๑.นปุงสกบัณเฑาะก์ หมายถึง กะเทยที่ไม่ปรากฏเพศ (คือ มีรูปร่างลักษณะสัณฐานเป็นชาย แต่ไม่มีอวัยวะเพศ) มีเพียงแต่ช่องปัสสาวะเท่านั้น อีกทั้งไม่สามารถประกอบกิจได้ดั่งบุรุษเพศโดยทั่วไป  

๒.อาสิตตกะบัณเฑาะก์ หมายถึง กะเทยที่เมื่อมีความกระวนกระวายด้วยอำนาจกามราคะขึ้นแล้ว กระทำโอษฐ์กามกับบุรุษอื่น ครั้นดูดกินซึ่งน้ำอสุจินั้นแล้ว จึงระงับความกระวนกระวายลงได้ 

๓.อุสสูยบัณเฑาะก์ หมายถึง กะเทยซึ่งเมื่อได้โอกาสแอบดูบุรุษและสตรีร่วมเสพกามรสกัน

๔.โอปักกะมิกะบัณเฑาะก์ หมายถึง กะเทยที่เป็นโดยการถูกตอน เพื่อไม่ให้เกิดความกำหนัดยินดี อาทิ พวกขันทีในสมัยโบราณ (กะเทยจำพวกนี้ มิได้เป็นมาแต่กำเนิด) และ

๕.ปักขะบัณเฑาะก์ หมายถึง กะเทยซึ่งเมื่อเวลาข้างแรม (กาฬปักษ์) มาถึง มักเกิดความยินดี และกระวนกระวายในกามด้วยอำนาจอกุศลกรรม

 ทั้งนี้ พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ และราชบัณฑิต) ได้อธิบายความหมายของคำว่า "บัณเฑาะก์" ไว้ในพจนานุกรรมเพื่อการศึกษาพระพุทธศาสน์ ชุด "คำวัด" ไว้ว่า 

 บัณเฑาะว์ (บัน เดาะ) ได้แก่คน ๓ ประเภท คือ ๑.ชายผู้ประพฤตินอกรีตในทางเสพกาม (ผู้มีราคะจัด) ๒.ชายผู้ถูกตอน หรือ ขันที และ ๓.กระเทยโดยกำเนิด (ผู้ไม่ปรากฏว่าชายหรือหญิง)

  บัณเฑาะก์ ในทางพุทธศาสนาถือว่า เป็นอภัพบุคคล คือ บุคคลผู้ไม่สมควรอุปสมบทเป็นภิกษุ ถูกห้ามบวช และห้ามพระอุปัชฌาย์บวชให้เด็ดขาด ถ้าพระอุปัชฌาย์ฝ่าฝืน ย่อมมีความผิด ถึงให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ ตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์

0 เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู 0  ...ที่มาหนังสือพิมพ์คมชัดลึก







แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล