เมื่อพูดถึงวัดคพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่จะนึกถึงพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ภาพจิตกรรมฝาผนัง อุโบสถ วิหาร กุฏิ รวมทั้งเจ้าอาวาสที่มีความโด่ดเด่นไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง
น้อยคนนักที่จะนึกถึงธรรมชาติและความงดงามของพันธุ์ไม้นานาพรรณที่ขึ้นอยู่ภายในบริเวณวัด ซึ่งส่สวนใหฐ่จะเป็นพื้นที่หลังวัด โดยเฉาะวัดป่า วัดที่ตั้งอยู่บนเชิงเขา ในภาคอีสาน ภาพความงดงานของพันธุ์ไม้นานาพรรณจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล อย่างเช่น วัดภูพานอุดมธรรมอ.นาแกจ.นครพนมซึ่งมี พระครูอุดมธรรมมานุกูล เจ้าอาวาสที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน
อุทยานแห่งชาติภูผายลอ.นาแก จ.นครพนม เป็นป่าผสมผลัดใบประเภทที่เรียกกันในท้องถิ่นว่า ป่าเต็งรัง ป่าแพะ มีเหตุที่เรียกแตกต่างกันออกไป แต่สีสันพรรณไม้ป่าในป่าประเภทนี้ มีให้ชมได้ทุกฤดูกาล ในแต่ละฤดูกาลให้สีสันที่ผิดแผกแตกต่างกันออกไปอย่างน่าพิศวง นอกจากนั้นพรรณไม้ป่าแสนสวยแต่ละต้น ยังมีคุณค่าอนันต์ในทางสมุนไพร ประกอบด้วยป่าเต็งรังแสนสวย ไม้มะกอกป่า ไม้มะค่าโมง ไม้เหียงกราด ฯลฯหรือป่าดิบแล้งที่มีไม้มีค่าเช่น ไม้ยางยืนต้นตระหง่าน ไม้พะยูงเนื้อไม้ดีมีค่าราคาแพง ไม้กะบากต้นอวบใหญ่ตระการตา ฯลฯ ช่วงเวลาต้นปีที่ผ่านมาผมได้รับเชิญจากดร.สร้อยเพชร เรศานนท์ ประธานกองทุนสุวรรณวาจกกสิกิจ ให้ไปสัมผัสพันธะกิจล้างใจที่วัดภูพานอุดมธรรม อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เป็นช่วงค่อนไปทางปลายเดือนมกราคม อากาศยังเย็นชื่นใจ แต่ในธรรมชาติของผืนป่าแล้ว ต้นไม้ได้ใช้ประโยชน์จากการปรุงอาหารของใบมาถึงจุดที่จะต้องปลิดลง ใบไม้ป่าแห่งเทือกเขาภูพานจึงให้สีสันที่แปลกตาเช่น ไม้แดงและไม้มะกอกป่า ใบแก่จะออกสีเหลืองทั้งต้นแล้วปลิดปลิวไป ไม้รังใบแก่จะออกสีส้มแดง ไม้เต็งกลับเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองแล้วร่วง เห็นไหม ธรรมชาติช่างเสกสรรค์ปั้นแต่งได้สวยงาม
เมื่อใบไม้ปลิดปลิวไปสิ้นภาพที่เห็นจึงเป็นลีลาของกิ่งก้านที่สวยแปลกๆ บันทึกภาพเทียบกับผืนฟ้าสีครามเข้ม สวยสุดๆ ยิ่งลีลาเปลือกของต้นไม้ป่าในป่าเต็งรังยิ่งมีความสลับซับซ้อน บ้างก็แตกเป็นร่องยาวตามลำต้น บ้างก็แตกเป็นสะเก็ด บ้างก็แตกขวางๆ แต่ประเมินได้ว่า ในผืนป่าเต็งรังที่มีความแห้งแล้งเป็นปกติ ต้นไม้มักจะมีเปลือกหนาเพื่อป้องกันตนเองจากไฟป่าที่มักจะไหม้ได้ง่ายๆทุกปี เพราะว่าใบไม้ที่ร่วงหล่นเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี พอมีมือดีมาจุดก็ได้ผลทันที
ทันทีที่ต้นไม้ป่าเริ่มผลิใบอ่อนตามธรรมชาติสีสันของป่าผลิใบก็ให้ภาพที่จรุงใจได้อารมณ์สุนทรียิ่งนัก ต้นมะกอกป่าเพิ่มสีสันใบอ่อนสีสนิมเหล็กเช่นเดียวกับไม้แดง ไม้มะค่าโมงก็เพิ่มความตระการตาของสีสวยๆแนบแผ่นฟ้าอลังการ ต้นไม้รังผลิใบอ่อนสีแดงแฉดโดดเด่นจากใบเล็กๆก็ใหญ่ขึ้นๆ สีแดงเข้มเปล่งประกายเมื่อต้องแสงตะวันที่สาดส่อง ในขณะที่แตกดอกสีเหลืองหอมฟุ้งประดับฟ้า บางช่อเปลี่ยนเป็นผลที่มีปีกบินสีแดง ยามต้องสายลม ช่างพลิ้วไสว
ผ่านไปใต้ต้นเหียงกราดที่มีลำต้นตรงเปลาแต่กิ่งก้านลีลาหงิกงอสวยแปลดตา มีใบสีเขียวหม่นที่มีขนรอบผืนใบ แต่ห้อยระโยงด้วยดอกสีชมพูแสนหวาน แต่เมื่อติดผลกลมกลับมีปีกสองปีกสีแดงสด กลุ่มผลปะปนอยู่ใต้พุ่มใบจึงเป็นอีกสีสันหนึ่งของป่าเต็งรัง ต้นรักใหญ่อันตรายแตะแล้วคันปลิดใบแก่สีแดงแล้วแตกช่อดอกสีขาวช่อใหญ่เติบโตเป็นผลติดปีกสีแดงเข้ม สวยละออตา ในยามที่อากาศเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ คุณเคยสังเกตุหรือไม่ว่า ป่าให้ความสวยงามในทุกฤดูกาล แล้วแต่ว่าจะสวยแบบไหน เรียบเนี๊ยบหรือจัดจ้าน หรือว่าคละเคล้ากันอย่างลงตัว
นอกจากนี้น่ะหรือต้นไม้ป่ายังทรงคุณค่าในทางยาอีกมากมาย เป็นแหล่งเรียนรู้การใช้ภูมิปัญญาที่แหลมคม ลึกซึ้ง และมันคือมรดกของบรรพบุรุษที่ส่งมอบให้แก่อนุชนรุ่นหลังๆในรูปแบบสมุนไพรพื้นบ้านตำนานไทยและพืชอาหารบ้านป่า เช่นไม้เต็ง เปลือกใช้ฝนกับน้ำปูนใสเป็นยาสมานแผลเรื้อรังและพุพอง เนื้อไม้และเปลือกให้น้ำฝาดชื่อPyrogallol ใช้สมานแผลและห้ามโลหิต ฯลฯ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยายังสามารถยับยั้ง HIV.1 reverse transcriptase.
ไม้มะกอกป่า พรานเดินป่านิยมเก็บลูกมะกอกป่าใส่กระเป๋าไปเฝื่อหิวน้ำจะได้อมและเคี้ยวกีนให้รสเปรี่ยวอมหวานแก้กระหายน้ำได้เฉียบพลัน เก็บกลับมาบ้านใส่ตำน้ำพริกหนุ่มหอมหวลชวนกิน ใบอ่อนกินเป็นผักแกล้ม เปลือกสับผสมกับลาบเพิ่มรสชาติได้วิเศษ และเมื่อมะกอกสุกพรานป่ามักจะเฝ้ารอส่องสัตว์ได้ง่ายๆ แต่ถ้าเปลี่ยนมาเป็นส่องด้วยกล้องถ่ายรูปคงดีกว่า เก้ง กระจง กวาง ชอบมากๆ
ที่กล่าวมาข้างตนเป็นเพียงบางตัวอย่างของคุณค่าแห้งพรรณไม้ในป่าเต็งรังส่วนที่เรียกกันว่า ป่าเต็งรัง ก็เพราะว่าในผืนป่าผสมผลัดใบประเภทนี้มีปริมาณต้นไม้เต็งและไม้รังมากกว่าชนิดอื่นๆ เช่นเดียวกับ ที่เรียกป่าชายเลนว่าป่าโกงกางก็เพราะว่าในป่าชายเลนตรงนั้นมีต้นโกงกางมากกว่าไม้ชนิดใดๆ แต่ที่บางครั้งก็เรียกว่าป่าแพะนั่นก็เพราะว่า ดินเป็นดินลูกรังผสมกราดหินเล็กที่คล้ายขี้แพะนั่นละคร๊าบ
ไปเที่ยวป่าบนเทือกเขาภูพานช่วงวัดภูพานอุดมธรรมทุกฤดูกาลจะได้เห็นความสวยซึ้งของธรรมชาติ ที่สวยอย่างมีคุณค่ายิ่งดังกล่าวข้างต้น เดินเที่ยวป่ามองหาความงาม ได้เหงื่อ ได้อากาศบริสุทธิ์ ได้รู้เห็นคุณค่าทางยา แล้วกลับมานอนพักค้างอ้างแรมที่วัด ค่ำลงได้สวดมนต์เย็น ฟังธรรมและนำเวียนเทียนรอบพระธาตุประจำวันเกิดทั้งเจ็ดองค์จากการนำของท่านพระครูอุดมธรรมเป็นกับแกล้ม เหมือนได้ไต่บันไดสวรรค์รำไรด้วยหัวใจที่สงบงาม ติดต่อไปพักค้างที่วัดได้ที่ กองทุนสุวรรณวาจกกสิกิจ โทร.๐๒-๙๓๙-๔๕๒๕
เรื่องธงชัยเปาอินทร์ ภาพนิวัตร เปาอินทร์
