พระเครื่อง อมูเลทตั้มศรีวิชัย ตลาดพระเครื่องรางของขลัง สวนไผ่สกลนคร หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล วันตรุษจีน2567
>...ตั้มศรีวิชัย TumAmulet ...< Thailand Amulet Charms |
คำแนะนำจากตำรวจเมื่อถูกโกง |
เงื่อนไขการรับประกัน การันตีพระเครื่อง |
สารบัญพระเครื่องเมืองนคร |
ทำเนียบพระกรุเมืองนคร |
ทำเนียบพระเครื่องเมืองนคร |
ชมรมพระเครื่อง |
บูชาพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง Amulets Charms Talismans |
ตลาดพระ amulet for you |
เช่า-บูชา เครื่องรางของขลัง |
พระหลวงปู่ทวด วัดต่างๆ |
จตุคาม-รามเทพ หลักเมืองนคร Jatukamramtep (Jatukarm) |
หลักเมืองนครศรีธรรมราช |
จตุคาม ของดีนำมาโชว์ |
บทความ น่ารู้องค์พ่อจตุคาม |
Jatukam Amulets |
บทความจตุคามรามเทพ |
ลิงค์น่าสนใจ |
หนังสือพิมพ์ |
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน |
เทศกาล วันสำคัญ |
ดวง ดูดวง หน้าหลัก |
บทความดีๆ |
นิทานสอนใจ |
วัฒนธรรมไทย ประเพณีไทย |
บทสวดมนต์ สำหรับชาวพุทธ |
พระเครื่อง นานาสาระ |
พระพุทธรูปสำคัญของไทย |
คาถา-อาคม พระคาถาอาคม |
พระพุทธรูปปางต่างๆ |
พุทธศาสนสุภาษิต |
ข่าวพระเครื่อง |
บทความพระเครื่อง |
Thai Buddha Amulets |
ข่าวพระพุทธศาสนา |
ข่าวเครื่องรางของขลัง |
สาระพระเครื่องไทย |
ประวัติพระวิปัสสนาจารย์ |
สวนไผ่ พันธุ์หญ้า ธนภัทรสกลนคร สินค้าเกษตรออนไลน์ ไผ่สายพันธุ์ต่างๆ ไผ่ข้าวหลามกาบแดง ไผ่ซางหม่น หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้านรกจักรพรรดิ์ หญ้าเนเปียร์ปากช่อง1 หญ้าเนเปียร์แคระ หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ สะสมพระเครื่อง แต่ใจรักเกษตรผสมผสาน
|
จรัญ ชี้ช่องผู้เช่า สมเด็จเหนือหัว เรียกเงินคืนได้!!
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน 17 ธันวาคม 2550 14:22 น. วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัวว่า ในทางกฎหมายข้อสัญญามีช่องทางบอกไว้ว่า ผู้ทำสัญญาซื้อขายหากทำโดยสำคัญผิดในสาระสำคัญของพฤติกรรมนั้นทำให้ข้อ สัญญานั้นเป็นโมฆียะที่จะสามารถถูกบอกล้างได้ และหากเข้าขั้นถูกฉ้อฉลหลอกลวงให้หลงผิดก็มีสิทธิที่จะบอกล้างโมฆียกรรม นั้นได้เช่นกัน ดังนั้น ช่องทางของประชาชนที่ต้องการจะได้เงินจองคืน หรือผู้ที่ได้พระไปแล้วก็อาจทำได้โดยบอกล้างโมฆียกรรมหรือบอกเลิกสัญญา ซึ่งเป็นมาตรการตามกฎหมายแพ่ง แม้จะได้พระมาแล้วก็ตาม หากเป็นการทำสัญญาไปโดยสำคัญผิดในคุณสมบัติของทรัพย์หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือทำนิติกรรมสัญญาโดยถูกฉ้อฉลให้เข้าใจผิดไปไม่ตรงกับความจริงก็เป็นเหตุ ทำให้นิติกรรมนั้นเป็นโมฆียะบอกล้างได้ และถ้าบอกล้างแล้วคู่กรณีก็ต้องกลับคืนสู่สถานะเดิม คือ ต้องส่งพระสมเด็จเหนือหัวที่ได้คืนไป และต้องเรียกเงินคืนได้ นายจรัญ กล่าวอีกว่า ธนาคารที่เป็นช่องทางรับจองพระสมเด็จเหนือหัว ทั้งธนาคารกรุงไทย นครหลวงไทย ธนาคารทหารไทย และบริษัทไปรษณีย์ไทย ควรต้องหารือกันเพื่อคืนเงินจองพระให้แก่ประชาชน เพราะทั้งธนาคาร และไปรษณีย์ ต่างก็ไม่ได้มีส่วนร่วมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นเพียงช่องทางหรือคนกลางที่ทำให้ติดต่อทำสัญญาเรื่องนี้ ดังนั้น ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ผิดเพี้ยนไป จากความเข้าใจเดิม ก็น่าจะหาทางออกให้เป็นธรรมกับทุกฝ่ายได้ นายจรัญ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ในเบื้องต้นยังไม่เข้าข้อกฎหมายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะมีอำนาจเข้าไปสืบสวนสอบสวนได้ หากจะเข้าข่ายความผิดที่ดีเอสไอเข้าไปทำคดีได้ ต้องเป็นการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนตามพระราชกำหนด แต่ถ้าเป็นการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา หรือเป็นเรื่องความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบได้ ก็ต้องมีการเริ่มต้นดำเนินคดีตามความผิดมูลฐานนั้นก่อนคือต้องมีการแจ้งความ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเริ่มต้นดำเนินการในความผิดมูลฐาน ดีเอสไอจึงทำได้เพียงตรวจสอบข้อมูลทั่วไปไว้ก่อน กระบวนการที่ชัดเจนต้องมีคดีพื้นฐานก่อนปปง.จึงจะเข้าไปดำเนินการได้ ส่วนเรื่องการใช้พระมงกุฎไว้ด้านหลังพระสมเด็จเหนือหัว โดยมีการขอหรือไม่ขออนุญาตนั้นก็ยังไม่เข้าข่ายงานในรับผิดชอบของกระทรวง ยุติธรรม นายจรัญยังกล่าวถึงกรณีที่ในปัจจุบันมีการ จัดสร้างพระเครื่องจำนวน มาก และนำสถาบันเบื้องสูงมาเกี่ยวข้องด้วยว่า ถ้าจัดสร้างพระเครื่องถูกต้องตรงไปตรงมา พอเหมาะพอดี เกิดประโยชน์แก่สาธารณะก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่เป็นปัญหาเพราะไม่ตรงไปตรงมา ทำให้ประโยชน์ที่ได้ไม่เท่าความเสื่อมเสียที่เกิดขึ้น ด้านพ. อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)เปิดเผยในเรื่องเดียวกันว่า การติดป้ายโฆษณาโดยระบนุว่า รายได้จากการจัดสร้างจะนำเข้าสมทบทุนมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ เพื่อจัดสร้างอุโบสถสองกษัตริย์ พร้อมกับมีการนำตราพระมงกุฎประทับไว้หลังองค์พระ และแอบอ้างว่าได้ใช้มวลสารจากดอกไม้พระราชทานที่สำนักพระราชวังได้ออกมาชี้ แจงแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดสร้างนั้น เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่กองนิติการ สำนักราชเลขานุการ ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าทางสำนักราชเลขานุการ ยังไม่มีข้อยุติว่าจะให้หน่วยงานดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ กรมการศาสนา เข้าไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เนื่องจากจะต้องนำข้อมูลที่ได้มารวบรวมทั้งหมดก่อน ทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฏหมาย มาประมวล และจะต้องนำ หารือกับผู้บังคับบัญชาเสียก่อน รวมทั้งจะเข้าหารือกับท่านคุณหญิงบุตรี วีระไวทยานนท์ รองราชเลขาธิการ เพื่อหาข้อสรุปว่าจะให้หน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบในคดีดังกล่าว “หากสำนักพระราชวังมีข้อสรุปให้ดีเอสไอเข้าไปดูแล ทางดีเอสไอก็พร้อมจะดำเนินการอย่างเต็มที่” ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ยังคงมีการโหมโฆษณาการเช่าบูชาพระสมเด็จเหนือหัวอยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ต่างๆ รวมทั้งป้ายโฆษณาหน้าที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ และตามหน้าห้างร้านต่างๆ ซึ่งยังไม่มีการปลดลงแต่อย่างใด |