พระเครื่อง อมูเลทตั้มศรีวิชัย ตลาดพระเครื่องรางของขลัง สวนไผ่สกลนคร หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล วันตรุษจีน2567
>...ตั้มศรีวิชัย TumAmulet ...< Thailand Amulet Charms |
คำแนะนำจากตำรวจเมื่อถูกโกง |
เงื่อนไขการรับประกัน การันตีพระเครื่อง |
สารบัญพระเครื่องเมืองนคร |
ทำเนียบพระกรุเมืองนคร |
ทำเนียบพระเครื่องเมืองนคร |
ชมรมพระเครื่อง |
บูชาพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง Amulets Charms Talismans |
ตลาดพระ amulet for you |
เช่า-บูชา เครื่องรางของขลัง |
พระหลวงปู่ทวด วัดต่างๆ |
จตุคาม-รามเทพ หลักเมืองนคร Jatukamramtep (Jatukarm) |
หลักเมืองนครศรีธรรมราช |
จตุคาม ของดีนำมาโชว์ |
บทความ น่ารู้องค์พ่อจตุคาม |
Jatukam Amulets |
บทความจตุคามรามเทพ |
ลิงค์น่าสนใจ |
หนังสือพิมพ์ |
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน |
เทศกาล วันสำคัญ |
ดวง ดูดวง หน้าหลัก |
บทความดีๆ |
นิทานสอนใจ |
วัฒนธรรมไทย ประเพณีไทย |
บทสวดมนต์ สำหรับชาวพุทธ |
พระเครื่อง นานาสาระ |
พระพุทธรูปสำคัญของไทย |
คาถา-อาคม พระคาถาอาคม |
พระพุทธรูปปางต่างๆ |
พุทธศาสนสุภาษิต |
ข่าวพระเครื่อง |
บทความพระเครื่อง |
Thai Buddha Amulets |
ข่าวพระพุทธศาสนา |
ข่าวเครื่องรางของขลัง |
สาระพระเครื่องไทย |
ประวัติพระวิปัสสนาจารย์ |
สวนไผ่ พันธุ์หญ้า ธนภัทรสกลนคร สินค้าเกษตรออนไลน์ ไผ่สายพันธุ์ต่างๆ ไผ่ข้าวหลามกาบแดง ไผ่ซางหม่น หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้านรกจักรพรรดิ์ หญ้าเนเปียร์ปากช่อง1 หญ้าเนเปียร์แคระ หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ สะสมพระเครื่อง แต่ใจรักเกษตรผสมผสาน
|
คมเลนส์ส่องพระ เรื่องของกระเบื้อง "พอสเลน" ถาดเจริญ ร.๕
ขอย้ำเตือนวันอาทิตย์หน้า๒๓ ธันวาคม เป็น วันเลือกตั้งส.ส.ทั่วประเทศ อย่าลืมไปใช้สิทธิ์เลือกผู้แทนราษฎรที่คิดว่าเป็น คนดีไม่โกงกินบ้านเมือง เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ หากหาคนดีที่สุดไม่ได้ ก็ขอให้เลือกเฉพาะ คนที่เลวน้อยที่สุดก็แล้วกัน วันนี้ขอเริ่ม "คมเลนส์ส่องพระ" ด้วยเรื่องของ "พอสเลน" ซึ่งเป็นกระเบื้องเคลือบเนื้อละเอียดอย่างดีที่สุด มีโรงงานผลิตอยู่ในประเทศทางแถบยุโรป การเขียนภาพต่างๆ ลงบนกระเบื้องชนิดนี้ สามารถทำได้อย่างวิจิตรบรรจง และประณีตมาก เมื่อผ่านการเผาด้วยความร้อนสูง กระเบื้องพอสเลนจะเป็นชิ้นงานที่งดงามเป็นพิเศษภาพสวยชัดคม สมัยรัชกาลที่๕ ล้นเกล้าฯได้สั่งให้ทำกระเบื้องพอสเลนเป็นภาพต่างๆ อย่างสวยงาม มากมาย รวมทั้ง ล็อกเกต และ ถาดเพื่อพระราชทานเป็นของที่ระลึกแก่ผู้ใกล้ชิด มาถึงทุกวันนี้ "ของเก่า" เหล่านี้มีจำนวนไม่น้อยที่มีการนำออกมาซื้อขายในตลาด ทำให้ ป๋องสุพรรณ ผู้นิยมชมชอบในการสะสมของเก่าอยู่แล้ว ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของ "ถาด ร.๕" ถึง ๒ ชิ้นในวันเดียวกัน ถาดใบแรกเป็น พระบรมฉายาลักษณ์ของล้นเกล้าฯร.๕ (สีขาวดำ) พระองค์เดียว ดอกไม้ที่ประดับอยู่ข้างล่างเป็นสีธรรมชาติ ถาดใบนี้เส้นผ่าศูนย์กลาง ๘ นิ้ว ถาดใบที่ ๒ เรียกว่า "ถาดเจริญ ร.๕" เนื่องจากมีข้อความจารึกว่า"เจริญ" ใบนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง๖ นิ้ว พระบรมฉายาลักษณ์ทั้ง๒ พระองค์ คือ ล้นเกล้าฯร.๕ กับ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นภาพสีสวยงามมากป๋องเช่ามาในราคาหลักแสนทั้ง๒ ใบ อายุความเก่านับร้อยปีขึ้นไป ถือเป็นโบราณวัตถุได้อย่างสบาย โดยปกติ "ถาด ร.๕" ส่วนใหญ่แตกบิ่นชำรุดไม่สมบูรณ์เท่ากับ ๒ ใบนี้ ขอบของถาดเป็นเงินแท้ ทำมาจากเมืองนอก แม้ว่าจะเป็น "ถาด" แต่คุณค่ามีมากกว่านั้น คงไม่มีใครบังอาจเอาไปใส่ข้าวของ หรือผลไม้ แล้ววางไว้บนโต๊ะอาหารอย่างแน่นอน แต่จะต้องใส่กรอบรูป หรือติดกับฝาผนังในห้องพระมากกว่า ** สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรีทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งประสูติแต่สมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา (เจ้าจอมมารดาเปี่ยม) เมื่อวันที่๑ มกราคม ๒๔๐๖ เป็นพระเจ้าลูกเธอชั้นเล็ก โดยรับราชการสนองพระเดชพระคุณเป็นพระภรรยาเจ้าใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยพระเชษภคินีอีก๒ พระองค์ คือ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์(สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี) และพระองค์เจ้าสว่างวัฒนา(สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า) เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปพระองค์ทรงดำรงตำแหน่ง ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์และได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระบรมราชินีนาถพระองค์แรกของประเทศไทย สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถฯทรงเป็นพระบรมราชชนนีของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวนอกจากนี้ยังทรงดำรงตำแหน่งเป็นองค์สภานายิกาสภากาชาดไทยพระองค์แรกอีกด้วย ** ในอดีตที่ผ่านมา "คมเลนส์ส่องพระ" ได้มีโอกาสเยี่ยมคารวะเซียนพระรุ่นใหญ่หลายท่าน หนึ่งในนั้นคือ อ.ประชุมกาญจนวัฒน์ ปรมาจารย์ด้านพระเครื่องทุกประเภท อ.ประชุม เคยกล่าวว่า ในบรรดาพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า ผู้สร้าง พระปิดตาได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดต้องยกให้ หลวงปู่ทับวัดทอง กับหลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง เพราะพระปิดตาของ๒ ท่านนี้ นอกจากมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ในอานุภาพครบทุกด้านแล้ว กรรมวิธีการสร้างพระของท่านก็ยังล้ำเลิศในทางพุทธศิลป์ และฝีมืออันประณีตวิจิตรบรรจง ซึ่งยากจะหาพระเกจิอาจารย์ท่านในทุกวันนี้ทำได้เทียบเท่า (เพราะทุกวันนี้หลวงพ่อท่านใดจะสร้างพระก็โยนหน้าที่ให้กับทางโรงงานหล่อพระปั๊มพระไปจัดการทั้งหมด) ** พระปิดตาทั้งของหลวงปู่ทับและหลวงปู่เอี่ยมท่านได้สร้างขึ้นด้วยตัวท่านเองออกแบบเอง ปั้นหุ่นขี้ผึ้งเอง หลอมโลหะเททองเอง ที่สำคัญคือ การขึ้นรูปแบบองค์พระ ทำทีละองค์ เททีละองค์ พระปิดตาที่ได้จึงมีพิมพ์ทรงองค์ไม่เหมือนกัน อาจจะคล้ายกันได้ แต่ขนาดจะไม่เท่ากัน เรียกได้ว่า พิถีพิถันทุกขั้นตอนเลยทีเดียว ** วันนี้ นพ.ทวีชัยจันทร์เพ็ญ ผู้บริการโรงพยาบาลสิงห์บุรีเวชการจ.สิงห์บุรี ได้มอบภาพ พระปิดตาหลวงปู่ทับวัดทอง พิมพ์ตุ๊กตาเศียรโล้น มาให้ชมเป็นวิทยาทาน เป็นพระปิดตาที่ดูง่าย ทั้งพิมพ์ทรงองค์พระ และเนื้อหามวลสาร สิ่งที่ คุณหมอทวีชัยภูมิใจสุดๆก็คือ พระปิดตาองค์นี้มีภาพอยู่ในหนังสืองานประกวดพระที่ โรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อกว่า๒๐ ปีก่อน (อย่างที่บอกไว้เมื่อวานนี้ ใครมีพระองค์ไหนก็ตาม ที่มีภาพอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ถือว่า สุดยอดจริงๆ) นอกจากนี้ พระองค์นี้คุณหมอยังได้รับความเมตตาจาก ท่านเสถียรเสถียรสุต ผู้มากด้วยบารมี ทั้งวงการพระ และวงการมวยเมืองไทย ที่ใครๆ ก็รู้จักในเกียรติคุณของท่านเป็นอย่างดี ** พระพิจิตร ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดของพระชุดเล็ก ประเภท "จิ๋วแต่แจ๋ว" เพราะองค์พระมีขนาดสูงประมาณ๑ ซม.เท่านั้น แต่เช่าหากันถึงหลักหมื่นหลักแสนขึ้นไป พระชุดนี้มีกำเนิดที่ เมืองพิจิตรมีหลายพิมพ์อาทิ พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่าพระพิจิตรเม็ดน้อยหน่า พระพิจิตรหัวดง พระพิจิตรหน้าวัง พระพิจิตรข้างเม็ด พระพิจิตรยอดโถ ฯลฯ ทุกพิมพ์มีพุทธคุณโดดเด่นทางด้านคงกระพันชาตรีสร้างขึ้นสมัยสุโขทัย จนถึงสมัยอยุธยา มีหลายกรุหลายพิมพ์ และมีขนาดเล็กพอๆ กัน พิมพ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่าพิมพ์แขนกลม รองลงไปคือ พิมพ์แขนหักศอกเป็นพระเนื้อชินเงินซึ่งเชื่อกันว่า มีส่วนผสมของ แร่เหล็กน้ำพี้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว พระพิจิตรส่วนใหญ่ขุดพบจากกรุวัดมหาธาตุจ.พิจิตร นอกจากนี้ยังขุดพบจากกรุวัดท่าฉนวน วัดโพธิ์ประทับช้าง วัดท่าฬ่อ วัดหัวดง และ บริเวณเมืองพิจิตรเก่า ** การที่คนสมัยก่อนสร้าง พระพิจิตรให้มีขนาดเล็กจิ๋วก็เพื่อความสะดวกในการพกพาติดตัว ในยามคับขันอาจจะอมซ่อนไว้ในปากก็ได้ สมัยที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงออกศึกทำสงครามพระองค์ได้ทรงอาราธนา พระพิจิตรไว้ที่พระมาลา(หมวก) ** พระพิจิตร เป็นพระที่หายาก นอกจากคนที่มีอยู่จะหวงแหนแล้ว ในบางโอกาสอาจจะมีผู้ทำพระตกหายก็ได้ เพราะความที่เป็นพระองค์เล็กจิ๋วดังกล่าว ปัจจุบัน ผู้ที่มี พระพิจิตรผ่านมือบ่อยๆเห็นจะไม่มีใครเกินไปกว่า เต้สระบุรี หนุ่มหน้างาม ผู้มีสายตาเฉียบขาด ในการดูพระได้ทุกประเภท ** วงการพระเครื่องเมืองไทย มีของมากมายที่จะให้สะสมกันอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น พระเครื่อง เหรียญ เครื่องราง หรือของขลังต่างๆ โดยเฉพาะ เครื่องรางของขลัง มีหลายอย่างที่คนชาติอื่นไม่มี เช่น เสือ หนุมาน เบี้ยแก้ หมากทุย ราชสีห์ คชสีห์ วัวธนู ฯลฯ หากเป็นเรื่องของ หนุมาน มีการสร้างกันมาอย่างต่อเนื่อง เพราะ หนุมาน หรือ พญาลิงเป็นทหารเอกของพระรามและเป็นลูกของพระพาย(ลม) ผู้มีชีวิตเป็น อมตะไม่มีวันตาย หากถูกศัตราอาวุธใดๆก็ตาม ถ้ามีลมพัดผ่านมาถูกตัว หนุมานจะพลิกฟื้นคืนชีพทันทีการสร้างเครื่องรางรูป หนุมานจึงเป็นที่นิยมกันมาก แม้แต่วงการ จตุคามรามเทพ ก็มี พญาชิงชัยซึ่งเป็นรูปพญาลิงเชิญธงออกรบเป็นกองทัพหน้า ** หนุมานยุคเก่าที่โด่งดังมากคือ หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน เกาะเกร็ดอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พระเกจิอาจารย์ชาวรามัญ ผู้แก่กล้าวิชาอาคมขลัง ดังมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕-๖
** หนุมานหลวงพ่อสุ่น มี๓ แบบ คือ แบบหน้าโขนแบบหน้ากระบี่ และแบบหน้าวานร(ลิง) โดยแกะมาจากรากไม้พุดซ้อน ไม้รัก และงาช้าง ตัวกว้างประมาณครึ่งนิ้ว สูงประมาณ ๑ นิ้วเศษ ที่เห็นนี้เป็น หนุมานไม้รัก แบบหน้ากระบี่หรือ"ขุนกระบี่" นักรบแนวหน้าผู้สามารถมาก** ชาวนนทบุรี ยืนยันกันว่า หนุมานหลวงพ่อสุ่นมีอานุภาพโดดเด่นทางมหาอำนาจคงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม โดยเฉพาะเรื่องคงกระพันชาตรี มหาอุด กล่าวกันว่าไม่แพ้ ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เลยทีเดียว ** หนุมานหลวงพ่อสุ่น ที่เห็นในภาพนี้เป็นของท่านรองอธิบดี สมเกียรติภู่ธงชัยฤทธิ์ นักสะสมพระเครื่องรางของขลัง ระดับแถวหน้าอีกท่านหนึ่งของวงการพระเครื่องเมืองไทย ** เหรียญหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ จ.ปัตตานี ที่สร้างขึ้นในสมัย พระอาจารย์ทิมยังมีชีวิตอยู่ ส่วนใหญ่จะสร้างเป็น เหรียญรูปเสมาหรือไม่ก็เป็นเหรียญรูปไข่ น้อยรุ่นที่เป็นรูปแบบอื่นใดอย่างเช่น เหรียญรุ่น๔ รูปน้ำเต้า ซึ่งสร้างเมื่อปี ๒๕๐๕ เหรียญรุ่นนี้มี ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์หน้าแก่กับ พิมพ์หน้าหนุ่ม(ดูจากใบหน้าของหลวงพ่อทวด) เป็นเหรียญทองแดงรมดำ ทั้ง ๒ พิมพ์ ความนิยมหากสวยพอๆ กันจะนิยมพิมพ์หน้าแก่มากกว่า ราคาเช่าหาอยู่ที่หลักพันปลายๆ เมื่อเดือนก่อน ได้มีผู้นำ เหรียญรุ่น๔ พิมพ์หน้าหนุ่ม ออกมาจำหน่ายในสนามพระเป็นจำนวนมาก ตอนแรกๆ ไม่มีใครกล้าซื้อเพราะคนขายเป็นแผงพระจร เกรงว่าจะเป็นของปลอม ต่อมามีเซียนพระสายตรงท่านหนึ่งซื้อไปพิสูจน์ พิจารณาจุดตำหนิต่างๆ ปรากฏว่า มีจุดตำหนิครบทุกจุด ตรงกับ เหรียญแท้ที่เคยเล่นหากันมาก่อน อีกทั้งเหรียญที่ว่านี้ก็ไม่มีการ "บวม" แต่อย่างใด จึงมั่นใจว่าเป็น เหรียญแท้แน่นอน ก็เลยเกิดการตื่นตัวเช่าหากันอย่างเอิกเกริก ทำให้เหรียญรุ่นนี้มีการหมุนเวียนในหมู่เซียนพระทั่วไป รวมทั้งที่สนามพระพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ล่าสุดเหรียญรุ่นนี้ราคาเขยิบขึ้นไปถึงหลักพันปลายๆ (จากตอนแรก มือแรก ไม่กี่ร้อยบาท) สมบูรณ์หนองแค ผู้ศรัทธา พระหลวงพ่อทวดอยู่ก่อนแล้ว จึงไม่รอช้า ขอแบ่งจากเพื่อนชาวใต้ไปทันที ๒ เหรียญ สบายใจไปหลายวันแล้ว ** ขณะเดียวกัน "คมเลนส์ส่องพระ" ได้ขอภาพเหรียญพิมพ์เดียวกันนี้ จาก สมศักดิ์หาดใหญ่ สายตรงพระหลวงพ่อทวด เพื่อเอามาลงให้ชมเปรียบเทียบในวันนี้ด้วย จะได้เป็นวิทยาทานโดยทั่วกัน ส่วนใครสนใจเหรียญรุ่นนี้ ก็ลองไปขอแบ่งปันได้จาก สมศักดิ์หาดใหญ่ โทร.๐๘-๑๓๔๕-๔๘๑๑ ** ทางด้าน แสวงปัตตานี ผู้ชำนาญพระหลวงพ่อทวด บอกว่า เหรียญรุ่นนี้ส่วนใหญ่จะตกอยู่ที่กรุงเทพฯ ทางปัตตานี ยะลา หาดใหญ่ ไม่ค่อยมี หายาก ว่าแล้ว "พี่แหวง" ก็เลยขอแบ่งกลับไปใช้ที่ปัตตานีซะหลายเหรียญ** พอดีวันนั้น...วันที่นั่งเสวนากันถึงเหรียญรุ่นนี้ วิสุทธิ์ พึ่งรัศมี (แป๊ะ) เจ้าของห้างทองชื่อดังในเมืองยะลา ผ่านมาเห็นเข้าก็เลยขอแบ่ง "เฮียสมศักดิ์" ไปอีก ๒-๓ เหรียญ ช่วงที่ผ่านมา แป๊ะยะลา ขึ้นมาทำธุรกิจที่กรุงเทพฯได้ใช้เวลาว่างตระเวนหาของตามสนามพระทุกแห่ง เที่ยวนี้ได้ พระหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค ไปหลายชิ้น คนที่แฮปปี้มาก คือ เจ๊ลั้ง มรดกไทยสายตรงพระหลวงพ่อพรหมนั่นเอง ** พูดถึง หลวงปู่ทับวัดทอง ก็พอดีกับที่ได้รับทราบข่าวจากทางวัดทองหรือวัดสุรรณารามว่าขณะนี้ทางวัดกำลังจัดสร้างวัตถุมงคล พระปิดตาหลวงปู่ทับย้อนยุค ๑๐๐ ปี รุ่น"สุวรรณเศรษฐี ปีมหามงคล" โดยถอดแบบพิมพ์จากองค์พระเดิมๆของ หลวงปู่ทับประกอบด้วยพิมพ์ตุ๊กตา พิมพ์ยันต์ยุ่ง พิมพ์ยันต์น่อง พิมพ์เศียรโต พิมพ์เศียรบาตร พิมพ์นั่งยอง พิมพ์นั่งบัวเศียรแหลม ฯลฯ สร้างด้วยชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย จึงนับเป็น "ข่าวดีต้อนรับปีใหม่ ๒๕๕๑" ที่ผู้ศรัทธาเลื่อมใสในพระปิดตาหลวงปู่ทับจะได้เช่าหาบูชาไว้เป็นสิริมงคลติดต่อสอบถามได้ที่ พระมหาเฉลิมชัยปภัสสโร ศาลาการเปรียญ(ชั้นบน) วัดสุวรรณาราม (วัดทอง) ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย ๓๒ เขตบางกอกน้อย กทม.โทร.๐๘-๙๔๘๑-๙๗๗๐, ๐๘-๙๘๑๕-๖๙๘๕ ** พระพิฆเนศ อีกปางหนึ่งที่ไม่ค่อยมีการสร้างขึ้นในเมืองไทย คือ พระตรีมุขคเณศ เป็นองค์พระพิฆเนศที่มี๓ เศียร ๓ พระพักตร์ ๖ กร มีความหมายถึง ๓ โลก (โลกเบื้องบน โลกมนุษย์ โลกเบื้องล่าง) หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญา โดยที่พระพิฆเนศเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ จึงมีผู้สักการบูชากันอย่างกว้างขวาง ผู้ใดกราบไหว้บูชาเท่ากับอัญเชิญเทวอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์มาประดิษฐาน เพื่อเสริมบารมีให้กิจการรุ่งเรือง ทำมาค้าขึ้น และป้องกันมิให้อำนาจชั่วร้ายต่างๆ ล่วงล้ำเข้ามาหาได้ด้วยเทพองค์นี้มีพลังอยู่เหนืออำนาจอันชั่วร้ายทั้งปวง ส่วนความหมายของ งาที่หัก คือ ความสมดุลแห่งความดี-ชั่ว มือประทานพร แสดงถึงเทพแห่งความเป็นโภคทรัพย์บ่วง คือ การตัดกิเลส เครื่องร้อยรัด คัมภีร์ภารตะ แสดงถึง เทพเจ้าแห่งอักษรศาสตร์และวรรณคดี จักร คือ เทพอาวุธที่คอยทำลายสิ่งที่เป็นอุปสรรค กะโหลก แสดงถึง เทพผู้มีฤทธิ์อำนาจ กล้าหาญ สยบความดุร้ายพระตรีมุขคเณศรุ่นนี้จัดสร้างโดย หลวงปู่ไข่วัดลำนาวจ.นครศรี ที่มา... |