เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม
๒๕๕๐ กระทรวงมหาดไทย ให้ทุกจังหวัดประกอบ พิธีพลีกรรมตักน้ำ และ
เสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อทูลเกล้าฯถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ ๒ พฤศจิกายน ให้ทุกจังหวัดประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำ
ระหว่างเวลา๑๕.๔๙-๑๖.๑๙ น. และกำหนดให้วันจันทร์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน ระหว่าง
เวลา ๑๗.๓๙-๑๘.๐๙ น. ประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์ ณ พระอุโบสถ หรือ
พระวิหารสำคัญของจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศ
สำหรับ พิธีพลีกรรมตักน้ำและเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์ ของ จ.พิษณุโลก อ.ขวัญทองสอนศิริ (โจ้) ศูนย์พิษณุโลกศึกษาโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือ พิษณุโลก บอกว่า
พิธีพลีกรรมตักน้ำได้ประกอบพิธีบริเวณณ สระสองห้อง พระราชวังจันทน์ อันเป็นพระราชวังโบราณแห่งเดียวของเมืองพิษณุโลก หรือ สระหลวงสองแควตาม
จารึกสุโขทัย(วัดศรีชุม) มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย มาตั้งแต่สมัย
กรุงสุโขทัย และกรุงศรีอยุธยา เสด็จมาประทับปกครองและปฏิบัติพระราช
กรณียกิจ ตามที่ปรากฏในพระราชพงศาวดารของสยามประเทศ รวม ๒๒ พระองค์
อีกทั้งยังเป็นสถานที่พระบรมราชสมภพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อ พ.ศ.๒๐๙๘และทรงเป็นพระมหาอุปราช ครองเมืองพิษณุโลก เมื่อ พ.ศ.๒๑๑๔ พระชนมายุ ๑๖ พรรษา เป็นสถานที่ที่ สมเด็จ
พระนเรศวรมหาราชทรงเตรียมไพร่พลฝึกฝนชายฉกรรจ์ชาวพิษณุโลก และใกล้เคียง
ให้พร้อมไว้เป็นกำลังสำคัญในการทำการใหญ่ กอบกู้ชาติบ้านเมืองในภายภาคหน้า
ในรัชกาลปัจจุบันสระสองห้องถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์๔ ครั้ง คือ
ครั้งที่๑ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯสยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร มหาราช วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ ครั้งที่๒ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ๕ธันวาคม ๒๕๓๐ วันพุธที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๓๐
ครั้งที่๓ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ธันวาคม ๒๕๔๒ ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ และ ครั้งที่๔ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ธันวาคม ๒๕๕๐ วันศุกร์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
ก่อนประกอบพิธีบูชาเทวดาอารักษ์ ได้
ปรากฏมีงูเห่าขนาดใหญ่ ว่ายน้ำข้ามสระสองห้องมาจากฝั่งตะวันออก ที่กว้าง
เกือบ ๕๐ เมตร แล้วเลื้อยขึ้นฝั่ง มุดตัวหายไปใต้พื้นไม้อัด ที่ตั้งโต๊ะ
เครื่องสังเวย ริมขอบสระฝั่งตะวันตก ท่ามกลางความตะลึงของผู้เข้าร่วมพิธี
จำนวนมาก จนเสร็จพิธีก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นงูเห่าตัวดังกล่าวอีกเลย
อ.ขวัญทองยังบอกด้วยว่า พิธีเสกน้ำสรงมูรธาภิเษกใน พระวิหารพระพุทธชินราชตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคือ ในการ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชรัชกาลที่ ๖ เมื่อพ.ศ. ๒๔๕๔ ซึ่งพลีกรรมจากทะเลแก้ว และสระแก้ว เมืองพิษณุโลก และ พิธีเสกน้ำสรงมูรธาภิเษกในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๗ เมื่อพ.ศ.๒๔๖๘
และพิธีเสกน้ำสรงมูรธาภิเษกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในการพระราชพิธีบรมราชภิเษกเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา๕ รอบ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา๖ รอบ ๕ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒
และพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดพิษณุโลก เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายในงาน พระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ในวันจันทร์ที่๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๐ เวลา ณ พระวิหารพระพุทธชินราช
"การประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จะไม่มีการจุดเทียนทำน้ำมนต์ เพราะพิธีเสกน้ำนี้ ทำให้น้ำศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ทำน้ำมนต์ และให้พระภิกษุ
สงฆ์ใช้พัดรองในการประกอบพิธี เนื่องจากไม่ใช่งานพระราชพิธี และไม่มีการ
เสด็จพระราชดำเนิน นอกจากนี้แล้ว น้ำพระพุทธมนต์ส่วนที่เหลือจากการนำส่ง
กระทรวงมหาดไทย ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้ผู้ใด เนื่องจากพิธีดังกล่าว จัดทูล
เกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยเฉพาะ จึงไม่สมควรแจกจ่ายให้
ผู้อื่น หรือนำไปใช้ในการอื่นใด" อ.ขวัญทองกล่าว
มูรธาภิเษกเมื่อไร
มูรธาภิเษก หมายถึงพิธีหลั่งน้ำรดพระเศียรในงานราชาภิเษกหรือ
พระราชพิธีอื่น สถานที่ประกอบพระราชพิธีนี้คือ ที่ชานหน้าพระที่นั่งจันทร
ทิพโยภาส (พระที่นั่งราชฤดีในปัจจุบัน) ตามโบราณราชประเพณี พิธีการสรงน้ำมูรธาภิเษก เนื่องในมงคลวโรกาสต่างๆ มีดังนี้
๑.ปราบดาภิเษก คือ พิธีการสรงน้ำมูรธาภิเษก ในคราวเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์ โดยที่ต้องทำศึกปราบปรามศัตรู
๒.อินทราภิเษก คือ พิธีการสรงน้ำมูรธาภิเษก ในคราวเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์ โดยเสี่ยงทายให้ราชรถมาเกย
๓.โภคภิเษก คือ พิธีการสรงน้ำมูรธาภิเษก ในคราวเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์ เพราะเป็นผู้ที่กอปรด้วยโภคสมบัติอันสมบูรณ์ยิ่ง และไพร่ฟ้าประชาชน เจาะจงทูลเชิญขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
๔.ราชาภิเษก คือ การสรงน้ำมูรธาภิเษกในคราวที่รับการสถาปนาเป็นพระมหากษัตริย์ โดยการสืบสันตติวงศ์ตามปกติ
๕.อุปราชาภิเษก คือ การสรงน้ำมูรธาภิเษกในคราวที่รับการสถาปนาเป็นพระมหาอุปราช ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เรียกการอุปราชาภิเษก พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า บวรราชาภิเษก
๖.มังคลาภิเษก คือ พิธีการสรงน้ำมูรธาภิเษก ในมงคลสมัยที่ได้มีเวลาอยู่ในราชสมบัตินานที่สุดเท่ากับพระเจ้าแผ่นดินองค์ใดองค์หนึ่งที่ล่วงลับไปแล้ว ในพระราชวงศ์เดียวกัน ในรัชกาลปัจจุบันตรงกับพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๑
๗.ทวีธาภิเษก คือ พิธีการสรงน้ำมูรธาภิเษกในมงคลสมัย ที่ได้มีเวลาอยู่ในราชสมบัตินานเป็นสองเท่า ของพระเจ้าแผ่นดินองค์ใดองค์หนึ่ง ในพระราชวงศ์เดียวกัน
๘.รัชดาภิเษก คือ พิธีการสรงน้ำมูรธาภิเษกในมงคลสมัยที่ได้มีเวลาอยู่ในราชสมบัติครบ ๒๕ ปีบริบูรณ์ ในรัชกาลปัจจุบันตรงกับพระราชพิธีรัชดาภิเษก พ.ศ. ๒๕๑๔
๙.กาญจนาภิเษก คือ พิธีการสรงน้ำมูรธาภิเษกในมงคลสมัยที่ได้มีเวลาอยู่ในราชสมบัติครบ ๕๐ ปีบริบูรณ์ ในรัชกาลปัจจุบันตรงกับพระราชพิธีกาญจนาภิเษก พ.ศ.๒๕๓๙
๑๐.พัชราภิเษก คือ พิธีการสรงน้ำมูรธาภิเษกในมงคลสมัยที่ได้มีเวลาอยู่ในราชสมบัติครบ ๗๕ ปีบริบูรณ์ ในรัชกาลปัจจุบันจะตรงกับ พ.ศ.๒๕๖๔
๑๑.อมรินทราภิเษก คือ พิธีการสรงน้ำมูรธาภิเษกในมงคลสมัยที่ได้มีเวลาอยู่ในราชสมบัติครบ ๑๐๐ ปีบริบูรณ์ ในรัชกาลปัจจุบันจะตรงกับ พ.ศ. ๒๕๘๙
ที่มาคมชัดลึก