
หลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตรวิทยาราม พระพุทธมหาสุวรรณปฎิมากร
"พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร" หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนาม "หลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตรวิทยาราม" เป็นพระพุทธรูปทองคำองค์แรกของไทยที่ได้รับการบันทึกไว้ใน The Guinness Book of World Record 1991 ว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก การบันทึกของกินเนสส์บุ๊กทำให้ หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นที่ รู้จักของชาวโลกมากขึ้น ในฐานะมรดกทางอารยธรรมล้ำค่ายิ่งของพระพุทธศาสนาคู่ผืนแผ่นดินไทย
ประวัติหลวงพ่อทองคำ หรือ พระพุทธมหาสุวรรณปฎิมากร วัดไตรมิตรวิทยาราม
พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร มีขนาดใหญ่ หน้าตักกว้างถึง 6 ศอก 5 นิ้ว หรือมากกว่า 2.50 เมตร ความสูงจากพระเกตุมาลาถึงฐานทับเกษตร (ฐานที่รองรับพระพุทธรูป) 7 ศอก 1 คืบ 9 นิ้ว หรือประมาณ 3.04 เมตร 10 ฟุต มีน้ำหนักประมาณ 5.5 ตัน หรือ 5,500 กิโลกรัม สร้างด้วยทองคำแท้ มีมูลค่าสูงกว่า 21 ล้านปอนด์ พระพุทธรูปทองคำองค์แรกของไทย
หลวงพ่อทองคำสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย นับเป็นพระพุทธรูปทองคำที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก รวมทั้งเป็นพระพุทธรูปที่มีอายุยาวนาน ความเก่าแก่ของหลวงพ่อทองคำ พิจารณาจากอายุวัสดุที่ใช้ในการหล่อแล้ว ยังปรากฏหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรอีกด้วย นั่นคือข้อความศิลาจารึกหลักที่ 1 ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช บรรทัดที่ 23-27 ความว่า "กลางเมืองสุโขทัย มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารส มีพระพุทธรูป มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม มีพิหารอันใหญ่ มีพิหารอันราม"
ข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ในสมัยสุโขทัยมีการก่อสร้างพระวิหาร พระพุทธรูปปูนปั้น โลหะ และทองคำ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง ดังปรากฏเป็นหลักฐานประติมากรรมสมัยสุโขทัยที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน จึงสันนิษฐานได้ว่าหลวงพ่อทองคำน่าจะถือกำเนิดในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง มหาราช ก่อนปี พ.ศ.1826 อันเป็นพุทธศักราชที่ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทย หากนับเนื่องมาจนถึงปัจจุบันปี 2550
หลวงพ่อทองคำ จึงน่าจะเป็นพระพุทธรูปที่มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ ว่า "พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร" นับเป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ) ประดิษฐาน ณ วิหารหลังปัจจุบันภายในวัดไตรมิตรวิทยาราม ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2498 ปัจจุบัน วิหารหลังดังกล่าวได้ทรุดโทรมลง กอปรกับมีนักท่องเที่ยวมาสักการบูชา และชื่นชมความงดงามยิ่งใหญ่ขององค์หลวงพ่อทองคำเป็นจำนวนมาก สถานที่ประดิษฐานแห่งนี้จึงคับแคบ ไม่เหมาะควรแก่คุณค่าและฐานะบารมีขององค์หลวงพ่อทองคำ
ในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในปี พ.ศ.2549 และทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษาในปี พ.ศ.2550 ประชาคม นักธุรกิจเขตสัมพันธวงศ์ ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมกับวัดไตรมิตรวิทยารามและพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ได้จัดให้มี "โครงการจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรวิทยาราม ด้วยความมุ่งหวังว่าพระมหามณฑป หลังใหม่นี้ จะมีความวิจิตรงดงามควรค่าแก่องค์ หลวงพ่อทองคำ อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสอัน เป็นมหามงคลนี้ด้วย
พระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ กล่าวถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระ พุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ) วัดไตรมิตรวิทยาราม ว่า ในการก่อสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร จำเป็นต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเดิมที่มีอยู่ ได้แก่ เมรุและกุฏิพระจำนวนหลายหลัง ทั้งนี้ ชาวพุทธมีความเชื่อว่า ที่ดินและอาคารบ้านเรือนต่างๆ ล้วนมีเจ้าของ การกระทำใดๆ บนพื้นที่เหล่านี้ ควรแจ้งให้ผู้ที่อยู่แต่เดิมทราบก่อน คณะกรรมการฯ จึงจัดพิธีบวงสรวงเทพเทวา และพิธีสวดแจง 500 รูป และมีการทำพิธีปฐมฤกษ์ลงเสาเข็ม เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2550
ในปัจจุบันการติดตั้งเสาเข็มก่อสร้างฐานรากและงานออกแบบโครงสร้างและสถาปัตยกรรมแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยโครงการนี้ ใช้เวลาดำเนินการประมาณ 2 ปี กำหนดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2551 พระเทพภาวนาวิกรม รองเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กล่าวถึงวัดไตรมิตรวิทยาราม ว่า เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อทองคำ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่แถวเยาวราชมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ ยังเป็นเอกลักษณ์อันยิ่งใหญ่เคียงคู่ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนอีกด้วย
"พระพุทธรูปทองคำ องค์นี้มีพุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก สมดังที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นรูปแบบของศิลปกรรมสุโขทัยยุครุ่งเรือง ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความวิจิตร อ่อนช้อยกว่าสกุลช่างยุคใด ขนาดและน้ำหนักทองคำขององค์หลวงพ่อ สะท้อนความสามารถอันฉลาดลุ่มลึกของฝีมือช่าง ทั้งด้านการออกแบบ ศิลปกรรม การปั้นหล่อ การแยกองค์พระเป็นส่วนๆ สะดวกแก่การเคลื่อนย้าย รวมทั้งกุศโลบายในการปกป้ององค์พระพุทธรูปทองคำให้ปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆ จนเป็นมรดกตกทอดมาถึงคนไทยวันนี้" พระเทพภาวนาวิกรม เล่าถึงความมหัศจรรย์ของหลวงพ่อทองคำ
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องใต้พระวิหารพระพุทธรูปทองคำ วัดไตรมิตรวิทยาราม นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ ประธานคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ "โครงการจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ) วัดไตรมิตรวิทยาราม" ให้การต้อนรับคณะนักเรียนและดาราเด็ก จำนวนกว่า 100 คน ในงานกิจกรรม "พาน้องเข้าวัด" ภายใต้โครงการจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ) วัดไตรมิตรวิทยาราม
กิจกรรม "พาน้องเข้าวัด" จัดรูปแบบเป็น Walk Rally เน้นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ ที่จัดขึ้นภายในวัด ตลอดจนการศึกษาถึงความสำคัญและความยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อทองคำ และพระมหามณฑปฯ วัดไตรมิตรวิทยาราม เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนเกิดความภาคภูมิใจและเล็งเห็นความสำคัญในการช่วยกัน ดูแลรักษา วัดไตรมิตรวิทยาราม ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก อายุมากกว่า 700 ปี เป็นมรดกทางอารยธรรมล้ำค่าของพระพุทธศาสนา
โดยมีดาราเด็ก จากช่อง 3 ร่วมทำกิจกรรมทางศาสนา อาทิ น้องพลอย (บัณฑิตา ศรีนวลนัด) น้องกันต์ (วรกันต์ ศรีนวลนัด) น้องอิน (ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี) น้องโอ๊ค (อิสระ เจมส์ แมคเคนซี่) น้องกล้า (สุรภัศ ละอองมณี) น้องดาด้า (สุชาดา เช็คลีย์) ร่วมกับเด็กๆ จากโรงเรียนสัมพันธวงศ์จำนวน 50 คน มาร่วมกิจกรรมในช่วงเช้า และนักเรียนโรงเรียนวัดปทุมคงคา จำนวน 50 คน ร่วมทำกิจกรรมในช่วงบ่าย อีกทั้งยังมีดารานักแสดงชื่อดัง แมน-การิน ศตายุ และดาราเด็ก ร่วมเป็นไกด์ พาไปนมัสการหลวงพ่อทองคำ สอนวิธีกราบพระพุทธรูป แบบเบญจางคประดิษฐ์ และบอกเล่าประวัติวัดไตรมิตรฯ ประวัติหลวงพ่อทองคำ และที่มาความสำคัญของการจัดสร้างพระมหามณฑป พร้อมเล่นเกมตอบคำถามแสนสนุก ที่สอดแทรกหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา
กิจกรรมพาน้องเข้าวัด มีวัตถุประสงค์ให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ ซึมซับ และสืบทอดวัฒนธรรมอันดีของพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นแบบอย่างกับคนรุ่นใหม่ ให้หันมาสนใจและตระหนักถึงคุณค่าของศาสนสถาน หลักธรรมคำสอน เพื่อนำไปยึดถือเป็นแนวทางดำเนินชีวิต ซึ่งจะช่วยจรรโลงให้สังคมไทยสงบสุขและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ วัดไตรมิตรฯ ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่ถือเป็นงานบุญครั้งใหญ่ คืองาน"จูง มือพ่อมาทอบุญ" จัดขึ้นในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2550 เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวตามวัฒนธรรมไทย ให้ครอบครัวได้เข้าวัดและทำบุญร่วมกัน รวมทั้งยังเป็นการถวายพระ ราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยมีคู่พ่อลูก 80 คู่ ที่มีชื่อเสียงจากวงการต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรม อาทิ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหา นคร ครอบครัวเนื่องจำนงค์ ครอบ ครัวคุณดารุณี กฤตบุญญาลัย, คุณสมศักดิ์ ชลาชล มาร่วมทำบุญ พร้อมทั้งกราบนมัสการหลวงพ่อทองคำ เพื่อความเป็นสิริมงคล และรับฟังประวัติหลวงพ่อทองคำ
ตลอดจนเรื่องราวของความร่วมมือร่วม ใจของทุกภาคส่วน ก่อให้เกิดโครงการจัดสร้างพระมหามณฑป วัดไตรมิตรวิทยาราม โดยได้รับเกียรติจากอาจารย์วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ เป็นวิทยากร
กิจกรรมทั้ง 2 กิจกรรม นอกจากจะช่วยให้คนในครอบครัวและชุมชนได้ใกล้ชิดศาสนามากขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนา สานพลังศรัทธาเพื่อจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานหลวงพ่อทองคำ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคมต่อไป

พิธีสมโภชพระมหามณฑป หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร
พิธีสมโภชพระมหามณฑป หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร
ประชาชนนับหมื่นแห่แน่นวัดไตรมิตรฯ สวดพระปริตร พิธีสมโภชพระมหามณฑป หลวงพ่อทองคำ ขอพรปีใหม่

ไหว้พระ - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ จุดธูปเทียนสักการะหลวงพ่อทองคำ ระหว่างเป็นประธานพิธีสมโภชพระมหามณฑป วัดไตรมิตรฯ โดยในคืนวันที่ 31 ธ.ค. ถึง 1 ม.ค. จะมีพิธีสวดถวายเป็นพระราชกุศลด้วย
ขอพรปีใหม่หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. มีพิธีสมโภชพระมหามณฑป พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือหลวงพ่อทองคำ เป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ทั้งองค์ ขนาดหน้าตั้งกว้าง 3.01 เมตร และสูง 3.91 เมตร ซึ่งทางวัดจัดสร้างพระมหามณฑปเพื่อเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อทองคำ แทนพระอุโบสถหลังเก่าที่คับแคบ โดยการสมโภชครั้งนี้มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. ไปจนถึงวันที่ 1 ม.ค.2553 มีพิธีสวดพระปริตร ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น. และในวันที่ 31 ธ.ค. จะมีพิธีสวดนพเคราะห์
นางราตรี พันเสาร์ อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ประจำวัดไตรมิตรฯ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ย้ายหลวงพ่อทองคำมาประดิษฐานบนมณฑปใหม่ มีประชาชนที่ทราบข่าวต่างมาทำบุญ และกราบขอพรกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยและต่างประเทศ ทางวัดเปิดให้เข้ากราบนมัสการได้ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. โดยเฉพาะในวันเสาร์และอาทิตย์มีประชาชนเข้ามากราบนมัสการกันเป็นจำนวนมาก แต่ทางวัดจัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยอำนวยความสะดวกให้เข้ากราบได้ครั้งละประ มาณ 20-30 คนเท่านั้น
ด้านนางจรุงศรี เมนมาคง อายุ 88 ปี หนึ่งในประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะหลวงพ่อทองคำ กล่าวว่า พักอาศัยอยู่ย่านสะพานใหม่ ตั้งใจเดินทางมากราบนมัสการและขอพรจากพระหลวงพ่อทองคำ โดยขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และขอให้ประเทศไทยมีความสงบสุขร่มเย็น ไม่มีความแตกแยก ขณะที่นาง บุญมา รุ่งเรือง อายุ 54 ปี กล่าวว่า เดินทางจากบ้านที่ จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่เช้า ตั้งใจจะมากราบขอพรจากหลวงพ่อทองคำ และชื่นชมความงามของพระมหามณฑป ต่อมาเวลา 19.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานในพิธีสมโภชพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เนื่องจากในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ ครม.เป็นเจ้าภาพ โดยมีรัฐมนตรีหลายคนมาร่วมด้วย อาทิ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย และนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พา ณิชย์ ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมงานประมาณ 15,000 คน เต็มบริเวณวัดและถนนโดยรอบ ทำให้ต้องปิดถนนรอบๆ วัดทุกด้าน จากนั้นนายอภิสิทธิ์ จุดธูปเทียนสักการะหลวงพ่อทองคำ ก่อนที่พระสงฆ์ 1,250 รูป จะสวดพระปริตร เพื่อให้บ้านเมืองมีความสามัคคี ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆ ไปได้ด้วยดี โดยสวดทุกคืนมาตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. ไปจนถึงถึงวันที่ 1 ม.ค. เวลา 19.00-24.00 น.
นอกจากนี้ ด้านนอกบริเวณวัด ยังมีการแสดงแสงสีเสียง โดยใช้ฉากหลังเป็นพระมหามณฑปที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ด้วย มีความสวยงามเป็นอย่างมาก และมีประชาชนมานั่งชมอย่าง เนืองแน่น โดยเฉพาะในคืนวันที่ 31 ธ.ค. ช่วงต่อวันขึ้นปีใหม่ 2553 จะสวดบทภูมิพลังมหาราชา ชัยยะมงคลคาถา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงด้วย