'ช่วง นี้ คนเยอะกว่าที่ผ่านมามากเลย โยม' พระลูกวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารรูปหนึ่ง บอกกับผู้สื่อข่าว 'มติชนออนไลน์' เมื่อถามถึงความเปลี่ยนแปลงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้วยเหตุนี้คงไม่น่าแปลกใจเช่นกัน หากพุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศที่ทราบข่าวจะพากันหลั่งไหลเดินทางเข้ามา สักการะ 'พระบรมสารีริกธาตุ' ซึ่งเป็นส่วนพระรากขวัญ (ไหปลาร้า) เบื้องขวาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร อย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากมีความตั้งใจที่จะมาไหว้ขอพรเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวเอง
สำหรับ 'พระบรมสารีริกธาตุ' ชิ้นดังกล่าว พระธรรมโกศาจารย์ เจ้าอาวาสวัดประยุรฯ ได้รับมาจากเจ้าอาวาสวัดถูปาราม ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในประเทศศรีลังกา โดยล่าสุดเพิ่งมีการค้นพบ 'พระบรมสารีริกธาตุ' ของพระพุทธเจ้าอีกส่วนหนึ่งบรรจุอยู่เป็นเวลาถึง 2 ศตวรรษ ในพระบรมธาตุมหาเจดีย์อายุ 180 ปี และเป็นองค์เจดีย์องค์ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร ที่เพิ่งถูกค้นพบเมื่อไม่กี่วันมานี้ด้วย...
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงชื่อของพระลูกวัดรูปดังกล่าว ก็ได้รับคำตอบเพียง 'อาตมาไม่อยากเปิดเผยชื่อ มันวุ่นวาย'
พระลูกวัดรูปเดิม เล่าที่มาของการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่นี้ว่า คณะสงฆ์ในวัดรับคำสั่งจากพระธรรมโกศาจารย์ เจ้าอาวาสให้ขึ้นไปสำรวจหาจุดชำรุดมากที่สุด เพื่อทำอุโมงค์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา จนเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น ของวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายหลัง กระบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคเคลื่อนผ่าน คณะสงฆ์ได้พบความผิดปกติของเจดีย์ ส่วนที่อยู่สูงเหนือพื้นดิน 30 เมตร จึงลองลองเคาะส่วนบริเวณนั้นดู ปรากฎว่าเสียงปูนตรงบริเวณดังกล่าวแตกต่างจากบริเวณอื่น จึงทำการเจาะช่องดังกล่าวสำรวจดู
กระทั่งพบพระบรมสารีริกธาตุ พระทองคำ 5 องค์ และพระพุทธองค์เล็ก คาดว่า น่าจะอยู่ในสมัยกรุงสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ตอนต้น อายุราว 700 ปี จำนวน 300 องค์ พร้อมกับกระดานชนวนผูกดวงของพระพุทธเจ้าและดวงของวัด โดยข้อความของกระดานชนวนดังกล่าวระบุเอาไว้ว่า พระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จะบรรจุอยู่ในพระบรมธาตุมหา เจดีย์นี้ ตั้งแต่ปี 2450 และจะถูกค้นพบในปี 2549
โดยในปี พ.ศ.2549 นี้เอง เจ้าอาวาสได้สั่งให้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์องค์เจดีย์ ซึ่งทรุดโทรมไปมาก เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปีมหามงคลเฉลิมพระ ชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 นี้ จนกระทั่งมาขุดพบพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าว ซึ่งตรงกับคำนายอย่างน่าอัศจรรย์
'ตกใจว่าสิ่งที่เจอมันมากกว่าการจะรู้กันเพียง ภายในวัดเท่านั้น เพราะมันเปิดเผยถึงวิธีการบรรจุ ฤกษ์ในการบรรจุ และชื่อของคนบรรจุ มีครบหมด เจอทั้งดวงพระพุทธเจ้าและดวงวัด' พระลูกวัดกล่าว
และแล้วความอัศจรรย์ก็ได้บังเกิดขึ้นอีกครั้ง หนึ่ง หลังข่าว 'กรุแตกกลางกรุงฯ' แพร่สะพัดออกไปสู่สาธารณชนอย่างรวดเร็ว ได้มีคุณยาย อายุราว 70-80 ปี คนหนึ่งเดินทางมาติดต่อที่วัด พร้อมกับเล่าย้อนไปว่า ในปี 2504 ที่วัดแห่งนี้มีงานบุญตลอด 7 วัน 7 คืน เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสเลื่อนพระสมณศักดิ์ของพระพุทธวรญาณ อดีตเจ้าอาวาส และยายคนดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นกำลังอยู่ในวัยสาว ได้ทำบุญด้วยการใส่พระเครื่องไว้ในกรุภายในเจดีย์ด้วย ด้วยเกรงว่าอาจถูกทำลายหากมีการบูรณะเจดีย์ จึงเป็นที่มาของการนำไปสู่การออกตามหา กรุพระที่อาจหลงเหลืออยู่ในพระบรมธาตุมหาเจดีย์ ครั้งที่ 2
'ในสมัยนั้น ใครอยากทำบุญสืบสานพระพุทธศาสนา ก็ถวายปัจจัย พระเครื่อง หรือไม่ก็จินดามณี ใส่ในช่องของพระบรมธาตุมหาเจดีย์ที่เรียกกันว่าช่องนางฟ้า โยมคนนั้นเขากลัวว่าพระของเขาจะถูกทำลาย จึงขอร้องให้ค้นหาและนำพระเครื่องออกมา เมื่อสอบถามคนเฒ่าคนแก่แถวนี้ก็ยืนยันว่าเป็นความจริง จึงลงมือสำรวจเจดีย์อีกครั้ง จนพบกรุพระครั้งที่ 2 ในวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา'
กรุพระที่ค้นพบครั้งที่ 2 นี้ เจอในบริเวณฐานสี่เหลี่ยมของพระบรมธาตุมหาเจดีย์ด้านตะวันออก ซึ่งพบในบาตรบรรจุพระเครื่อง พระผงรุ่นต่างๆ ตลอดจนค้นพบพระบรมสารีริกธาตุเพิ่มอีกจำนวนหนึ่งซึ่งถูกบรรจุไว้ภายในสถูป รวมทั้งจาริกทอง 3 แผ่น ระบุว่า วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2504 ตรงกับวันมาฆบูชา ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระบรมธาตุมหาเจดีย์แห่งนี้ พร้อมด้วยพระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ และพระเครื่องประเภทต่างๆ นอกจากนี้ ยังค้นพบพระสมเด็จวัดระฆัง รุ่นเดียวกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง ทำพิธีปลุกเสกในสมัยนั้นอีกด้วย
นับว่าเป็นเรื่องไม่ธรรมดา สำหรับการค้นพบสมบัติอันล้ำค่าของชาติและศาสนาถึง 2 ครั้งภายในเวลาเพียง 3 วัน...
เรื่องไม่ธรรมดานี้เอง ทำให้วัดแห่งนี้คราคร่ำไปด้วยผู้คนจากต่างถิ่น แวะมาเยี่ยมเยียนสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุทั้ง 3 ส่วน ทั้งส่วนที่อัญเชิญมาจากศรีลังกา รวมถึงส่วนที่พบในครั้งแรก และครั้งที่ 2 ซึ่งประดิษฐานภายในพระวิหารพระพุทธนาค หน้าองค์พระประธาน
ส่วนพระพุทธรูปและพระเครื่องโบราณที่ขุดพบ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพื่อขึ้นทะเบียนของกรมศิลปากร โดยคาดว่า ช่วงวันลอยกระทงปีนี้ ทางวัดฯ จะนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเข้าพิพิธภัณฑ์หอปริยัติธรรมของวัด เพื่อให้พุทธศาสนิกชนเข้าสักการะบูชาต่อไปได้
ทั้งนี้ พระลูกวัดอีกรูปหนึ่ง เสริมว่า เจ้าอาวาสมีความคิดว่า อาจเปิดให้ประชาชนร่วมเช่าบูชาพระเครื่องที่พบในครั้งนี้ เนื่องจากที่ขุดพบมามีจำนวนมาก ประกอบกับต้องการนำปัจจัยมาบูรณปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุมหาเจดีย์ แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องรอการประสานขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรเรียบร้อยเสียก่อน
หากใครต้องการพิสูจน์ความมหัศจรรย์ บนความศรัทธาดังที่กล่าวมา สามารถเข้าไปร่วมชมสมบัติครั้งบรรพบุรุษของชาติได้ที่วัดประยุรวงศาวาสวร วิหาร เชิงสะพานพุทธ ฝั่งธนบุรี ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-20.00 น.
ภาพจากคณะสงฆ์ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร  |