อธิษฐานที่เป็นจริงจากองค์จตุคาม รามเทพ
มูลนิธิศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ (Art for All)
ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
ควบคู่คุณธรรมให้แก่เยาวชนทั้งที่ไม่พิการและพิการทุกประเภทให้สามารถก้าว
ข้ามกรอบความคิดและอุปสรรคทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
ให้มีความเอื้ออาทร อดทน เสียสละ และบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม อันจะนำไปสู่
ความเข้าใจ และมิตรภาพ ระหว่างเพื่อนมนุษย์ในทุกสังคม ตามหลักปรัชญาของ
โครงการ คือ การก้าวข้ามขีดจำกัด
นี่เป็นโครงการหนึ่งในการสะสมบุญของรศ.ดร.ชาญณรงค์พรรุ่งโรจน์ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รศ.ดร.ชาญณรงค์กล่าวว่า จัดทำโครงการนี้มาเป็นเวลา ๑๐ ปี มาในปีนี้ได้จัดสร้าง จตุคามรามเทพรุ่น"เบญจปาฏิหาริย์" ขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการ โดย คุณปราโมทย์เตียสุวรรณ์ รอง
กรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสบริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) บอกว่า
หากเราอาศัยบารมีองค์เทพจตุคามฯ มาแผ่ปกปักษ์รักษาแล้ว ให้กลุ่มผู้พิการ
มีโอกาสอยู่ในสังคมแบบไม่พิการ คุณปราโมทย์จึงดำเนินการจัดสร้างให้มูลนิธิ
ทั้งหมด
ส่วนชื่อรุ่น"เบญจปาฏิหาริย์" เป็นคนตั้งขึ้นเองนั่นก็คือ ปาฏิหาริย์๕ หมายถึง สิ่งมหัศจรรย์อันเป็นสิริมงคลแห่งชีวิต กอปรด้วยการมี ตาทิพย์คือมีตาที่สว่างเห็นการณ์ไกล หูทิพย์คือได้ฟังแล้วรู้จักวิเคราะห์แยกแยะในสิ่งที่ถูกที่ควรกายทิพย์คือมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงปัญญาทิพย์คือมีสติปัญญาที่ดีและ จิตทิพย์ย่อม
บังเกิดแก่ผู้บูชาองค์จตุคามฯรุ่น "เบญจปาฏิหาริย์" ด้วยการปฏิบัติบูชาใน
พรหมวิหาร ๔ อันจะนำไปสู่ความสมบูรณ์พร้อมทางด้านร่างกาย สติปัญญา และจิต
ใจ ซึ่งจะส่งผลให้ชีวิตเจริญมั่งมีศรีสุข
ชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยแขวนพระเครื่องเลย วันนี้ได้
เข้ามาสัมผัสกับองค์จตุคามฯ แล้วรู้สึกว่า มีอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถ
อธิบายได้ แต่ถ้าให้เล่าก็มีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่เกิดขึ้นปีงบประมาณ ๒๕๕๐
เป็นปีที่การทำโครงการลำบากมาก เนื่องจากปกติเราอยู่กันอย่างพอเพียง ทุกคน
ที่มาช่วยงานอาร์ต ฟอร์ ออล เป็นอาสมัครทั้งหมด โดยไม่มีค่าแรงงาน แต่ถ้า
มีสปอนเซอร์เข้ามา เราถึงจะนำเงินส่วนนี้มาจ่ายเป็นค่าแรงอาสาสมัคร ในปี
นี้มูลนิธิได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนรัฐบาล ก็เลยทำให้งบประมาณที่คาดว่า
จะได้จากภาครัฐ ต้องสะดุดลงทั้งหมด "เมื่อเข้ามาสัมผัสกับการสร้างองค์จตุ
คามฯ แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าท่านหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้มีจริง มี
บารจริง ขอให้สปอนเซอร์ที่เป็นหน่วยงานราชการวิ่งมาหาเราเอง เป็นเรื่องไม่
น่าเชื่อว่า มีสปอนเซอร์วิ่งเข้ามาหาเราจริงๆ เมื่อกระทรวงศึกษาธิการ มี
โครงการเฉลิมฉลอง ๑๐๐ ปี ท่านพุทธทาส ที่สวนโมกข์ แล้วอยู่ๆ ก็มอบเงินให้
หลายล้านบาท ให้มูลนิธิเพื่อช่วยเหลือคนพิการ แล้วยังมีการท่องเที่ยวเข้า
มาช่วยเหลืองานที่มูลนิธิ ซึ่งทำแล้วถึง ๒ งานภายในปีนี้ เมื่อเจอเรื่อง
แบบนี้ทำให้เชื่อว่า ปาฏิหาริย์ขององค์จตุคามฯ มีจริง" รศ.ดร.ชาญณรงค์
เชื่อว่าปาฏิหาริย์มีจริง
รศ.ดร.ชาญณรงค์กล่าวต่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์
เหมือนเป็นแรงบันดาลใจที่คอยจุดประกายความคิดให้เราทำแล้วชีวิตก็จะเจริญ
รุ่งเรือง เมื่อชีวิตตั้งแต่เป็นเด็กเรียนหนังสือไม่เก่ง จนถูกเพื่อนถาก
ถาง คำถากถางตรงนั้นมันก็เป็นแรงบันดาลใจว่า ต้องเรียนให้เก่ง ต้องเรียน
ให้สูงที่สุด และทุกอย่างก็สมหวัง
ฉะนั้นถ้าเกิดเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาคล้องคอมาคล้องใจ ตรงนี้ก็จะทำให้เรา
คิดดี แล้วทำให้เราคิดว่า ชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง มองว่า น่าจะนำไปสู่ความ
ศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตได้
ความ
เชื่อในเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตรงนี้มองเป็นการกระทำความดีมากกว่า ใคร
ทำดีไว้ก็จะได้ความดีตอบ เราสร้างกุศล กุศลก็จะตอบสนองตัวเรากลับมา ทุก
อย่างเริ่มขึ้นจากความคิด หากเราคิดดี พูดดี การกระทำและคำพูดที่พูดออกไป
ก็จะเป็นสิ่งดีๆ
ในทางกลับกันหากเราพูดคิดไม่ดี วิถีชีวิตเราก็
เปลี่ยนไป ทุกอย่างมันมาจากเหตุนั่นเอง เหมือนเด็กพิการ เราพยายามปรับความ
รู้สึกให้เขาคิดว่า เขาเป็นมนุษย์เท่ากับคนอื่น มีศักดิ์มีศรีสามารถพัฒนา
แล้วไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่น แม้บางคนไม่มีแขนหนึ่งข้างก็สามารถทำงานได้
ตามปกติ
"ผมมองว่า หากบ้านหนึ่งรวย แล้วอีก ๑๐ บ้านจน ถาม
ว่าบ้านรวยจะมีความสุขได้อย่างไร ถ้าไม่รู้จักการแบ่งปันออกไปบ้าง ผมคิด
ว่า สัจธรรมในชีวิตของผม คิดว่าทุกคนต้องอยู่ได้ เพราะทุกคนก็อยากก้าวหน้า
ทุกคนอยากจะมีความสุข อยากมีกินมีใช้ ทำอย่างไรที่เราจะแบ่งปันกันไป สิ่ง
ที่เราเคยแบ่งปันก็จะกลับคืนมา ทำให้เรามีความสุขในชีวิต ดังนั้น ถ้าเรา
ช่วยคนด้อยโอกาส ภัยสังคมก็จะหายไป ทุกคนก็จะอยู่กันอย่างสันติ ผมว่ามัน
เป็นการปฏิบัติธรรมะอีกอย่างหนึ่งของการให้ตามหลัก พรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา
กรุณา มุทิตา อุเบกขา" รศ.ดร.ชาญณรงค์กล่าวทิ้งท้าย
ที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง