"อ.มนตรี จันทพันธ์" ชื่อและนามสกุลนี้อาจจะไม่เป็นที่รู้จักของคนในวงการพระเครื่องมากนักแต่ถ้าบอกว่า "ชื่อนี้เป็นชื่อของผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างเสาหลักเมือง เป็นผู้ออกแบบลวดลายและเขียนพิมพ์เขียวเสาหลักเมือง จากนั้นจึงได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แกะสลักแม่พิมพ์พระผงสุริยัน-จันทราที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในประเทศและต่างประเทศ"
หลายคนก็ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเพราะไม่ค่อยได้ปรากฏเป็นข่าวเท่าใดนักอ.มนตรีเล่าว่า ในครั้งนั้นการแกะสลักเสาหลักเมือง อ.มีชัย เพชรอินทร์ ได้นำคณะช่างมาร่วมแกะสลักเสาหลักเมือง ซึ่งได้แก่ อ.สมพัก บัวหลวง อ.ระไว สุดเฉลย อ.สุวิทย์ แรกรุ่น และ อ.พยงค์ พรหมโชติ ชีวิตผ่านมามีคนรู้จักจตุคามฯ กันทั่วประเทศก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงาน ไม่ได้รับรางวัลสินจ้างใดๆ เนื่องจากเป็นการทำให้บ้านเกิด ที่ตนเองเกิด ณ ต.บ้านใหม่อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
ครั้งนั้นที่ได้ออกแบบจตุคามฯปี ๓๐ ได้รับการถ่ายทอดผ่านร่างทรงโกผ่อง (อะผ่อง สกุลอมร) แล้วคนที่ถ่ายทอดรับมาจากองค์เทพก็คือ พล.ต.ท.สรรเพชญเท่านั้น ไม่มีคนอื่น แล้วตอนทำพิธีท่านจะละเอียดมาก โดยท่านจะไม่ยอมให้คนอื่นเข้าไปอยู่ในพิธีเลย พอองค์เทพบัญชาอะไรมา ท่านจะถามว่าจะให้ใครทำ องค์เทพท่านเจาะจงว่าผู้ที่จะออกแบบองค์จตุคามฯ ได้ต้องเป็น อ.มนตรี
เมื่อได้รับหน้าที่เป็นคนออกแบบจตุคามฯเป็นพิมพ์น้ำตาลแว่น รุ่นสุริยัน-จันทรา และพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นการออกแบบจากการถ่ายทอดของท่านสรรเพชญ แล้วถึงนำข้อมูลทั้งหมดมาออกแบบเป็นจตุคามฯ ปี ๓๐ โดยท่านบอกว่า ด้านหลังด้านหน้ามีราหู ๘ ตัว และมี ๑๒ นักษัตร ทั้งนี้ พอได้เอาแบบมาเขียนลงในกระดาษอาร์ตมัน ได้ขยายแบบออกเป็น ๕ เท่า จากนั้นนำไปถ่ายออกมาเป็นฟิล์มเนกาทีฟขาวกับดำ
อ.มนตรีเล่าต่อว่า เมื่ออัดล้างเสร็จได้นำมาย่อแล้วได้นำเอาเหล็กที่ทำพิมพ์พระผง ขั้นตอนการออกแบบในสมัยนั้นค่อนข้างลำบากเหมือนกัน สมัยนี้สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ออกแบบได้ตามความต้องการ อย่างไรก็ตาม การสร้างจตุคามฯ ท่านสรรเพชญต้องการสร้างขึ้นมาเพื่อสมนาคุณแก่ผู้ที่มาร่วมสร้างเสาหลักเมือง ในครั้งนั้นจตุคามฯ เปิดให้บูชาเพียง ๓๙ บาทเท่านั้น ส่วนพระพุทธสิหิงค์ให้เช่าเพียง ๑๒ บาท
สมัยนั้นจตุคามฯจะซ้อนอยู่กับองค์รามเทพ คือ นำทั้งสององค์มาซ้อนกันตามที่เห็นมีมือ ๔ มือเวลาท่านนั่ง สังเกตดูว่ารูปจะไม่ชัด เพราะว่าเราใช้หัวเจียเพื่อให้องค์พระนูนดูแล้วต่ำ จากนั้นท่านสรรเพชญได้ทำพิธีกดพิมพ์นำฤกษ์ตามสูตรโบราณ การออกแบบองค์พระทุกครั้งจะพยายามป้องกันไม่ให้คนอื่นลอกเลียนแบบ จึงมุ่งมั่นอยู่ในใจว่าจะต้องทำไม่ให้สวยคมชัด โดยเชื่อว่าหากทำพระสวยความศักดิ์สิทธิ์จะด้อยลง อาจทำให้คนหลงใหลในกิเลสตัณหา แบบที่ทำออกมาจึงมีเนื้อฟอร์มทุกอย่างออกมาดูแล้วคลาสสิก สังเกตได้ว่าการสร้างพระทุกยุคทุกสมัยจะออกมาไม่คม มีแต่เค้าโครง ขนาดพระสมเด็จก็เหมือนกัน จะมีแต่เค้าโครงรูปร่างหน้าตาหรือคิ้วไม่ค่อยมี โดยได้เรียนรู้สาขาจิวเวลรี่จากร้านไทยนครเพราะเขามีครูช่างจีนกวางตุ้ง ครูพม่า ครูทางเชียงใหม่ ครูจากนครศรีธรรมราช
อ.มนตรีบอกด้วยว่า ในครั้งนั้นท่านสรรเพชญได้มอบหมายให้ทำมีดครู ๗ เล่มที่จะให้ผู้ใหญ่ในเรื่องของการทำหลักเมือง แล้วเก็บไว้ตามที่เทพบัญชาการ หมายถึงว่า องค์จตุคามฯ จะบัญชามาตามม้าทรง ที่ก่อนหน้านี้บอกให้ทำมีดครู ๗ เล่ม โดยครั้งนั้นรับเป็นผู้หลอมเหล็ก แต่ไม่รับทำ เพราะหากทำพลาดขึ้นมาจะเข้าตัว จึงบอกกับพี่จุกว่า พี่จุกต้องรับปากว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ให้พี่จุกรับไปทั้งหมด ส่วนตนขอเป็นผู้ช่วย ในที่สุดก็ทำมีดครูเสร็จตามบัญชาขององค์จตุคามฯ ด้วยความที่อยากได้มีดในจำนวน ๗ เล่ม จึงอธิษฐานขอเทพ แล้วเวลาผ่านไปหนึ่งเดือนท่านก็ไม่ให้
คืนหนึ่งองค์เทพมาเข้าฝันว่าถ้าอยากได้มีดท่านจะให้ ในฝันว่าท่านจะเอามาให้เราได้อย่างไร หลังจากนั้นประมาณสองสัปดาห์ ฝันว่าแม่พญาสีเรือง ท่านเป็นมเหสีขององค์เทพจตุคามฯ ได้พาไปเข้าเฝ้าหน้าเมือง พูดไปแล้วมันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่เป็นความจริงที่เกิดขึ้น แต่เรื่องนี้ท่านสรรเพชญสามารถยืนยันได้ มีดครูได้มาจากองค์เทพจริงๆ พอไปถึงแล้วท่านบอกว่าสิ่งที่ขอไว้ท่านจะให้ แต่ในฝันนั้นได้ขอเอาไว้ว่า หากเป็นมีดของเทพจริงขอให้มีเลขกำกับไว้ด้วย พอวันรุ่งขึ้นก็ถามภรรยาว่ามีใครเอามีดมาให้หรือเปล่า ภรรยาก็บอกว่าไม่มี"เช้าวันนั้นอาบน้ำเสร็จได้ออกไปหาท่านสรรเพชญ แล้วไม่นานพี่จุกที่ตีมีดอยู่ด้วยกัน ได้เห็นผม เขาก็เดินมาเหมือนเขาดีใจใหญ่ เขาบอกว่าเมื่อคืนองค์พ่อจตุคามฯ มาเข้าฝันว่า ให้เอามีดที่เขาได้มา เอามาให้ผมแล้วต้องให้วันนี้ พอพี่เขาเห็นผมก็ดึงมีดเล่มนี้ออกมา แล้วมีเลขตามที่ขอด้วย ผมฝันแล้วได้จริงๆ ทำให้นับถือองค์พ่อจตุคามฯ มากๆ มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ถ้าพูดไปอาจมองว่าผมสร้างสถานการณ์ แต่ผมยืนยันได้ว่าผมฝันว่าได้จากองค์พ่อจริงๆ ผมได้ก่อนที่จะออกแบบจตุคามฯ มาถึงวันนี้อายุของมีดที่ได้มาก็ตกประมาณ ๒๐ กว่าปีแล้ว" อ.มนตรีกล่าวทิ้งท้าย
ทุกวันนี้อ.มนตรี มีความเชี่ยวชาญหลายด้าน อาทิ ๑.ทำงานช่างเครื่องเงินเครื่องทอง และเครื่องประดับ ๒.ทำเครื่องเงินเครื่องทองฝังเพชรพลอยแบบต่างๆ ๓.เชี่ยวชาญในด้านการทำฉัตรเงินฉัตรทองฝังเพชรพลอย ๔.เชี่ยวชาญในด้านบุหุ้มทองคำฐานพระเสาและหัวเสาดาวเพดานต่างๆ ประดับแก้วเจียระไน กระจกสีและเพชรพลอย ๕.เชี่ยวชาญในด้านสลักดุนลวดลายบานประตู หน้าต่าง ประดับเพชรพลอยแก้วเจียระไน ๖.เชี่ยวชาญด้านการกัดกรด ลงสี กาหลั่ยทอง บนโลหะต่างๆ และ ๗.เชี่ยวชาญการทำเครื่องถมถมเงิน ถมทอง ทำเป็นบานประตู หน้าต่าง หรือบุหุ้มเสา ฐานพระ เชิงเทียน ฯลฯ
เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง
ภาพ สุรจิตร ศิริ |