ReadyPlanet.com
dot
>...ตั้มศรีวิชัย TumAmulet ...< Thailand Amulet Charms
dot
bulletคำแนะนำจากตำรวจเมื่อถูกโกง
bulletเงื่อนไขการรับประกัน การันตีพระเครื่อง
dot
สารบัญพระเครื่องเมืองนคร
dot
bulletทำเนียบพระกรุเมืองนคร
bulletทำเนียบพระเครื่องเมืองนคร
bulletชมรมพระเครื่อง
dot
บูชาพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง Amulets Charms Talismans
dot
bulletตลาดพระ amulet for you
bulletเช่า-บูชา เครื่องรางของขลัง
bulletพระหลวงปู่ทวด วัดต่างๆ
dot
จตุคาม-รามเทพ หลักเมืองนคร Jatukamramtep (Jatukarm)
dot
bulletหลักเมืองนครศรีธรรมราช
bulletจตุคาม ของดีนำมาโชว์
bulletบทความ น่ารู้องค์พ่อจตุคาม
bulletJatukam Amulets
bulletบทความจตุคามรามเทพ
dot
ลิงค์น่าสนใจ
dot
bulletหนังสือพิมพ์
bulletลิ้งค์เพื่อนบ้าน
bulletเทศกาล วันสำคัญ
bulletดวง ดูดวง หน้าหลัก
bulletบทความดีๆ
bulletนิทานสอนใจ
bulletวัฒนธรรมไทย ประเพณีไทย
bulletบทสวดมนต์ สำหรับชาวพุทธ
dot
พระเครื่อง นานาสาระ
dot
bulletพระพุทธรูปสำคัญของไทย
bulletคาถา-อาคม พระคาถาอาคม
bulletพระพุทธรูปปางต่างๆ
bulletพุทธศาสนสุภาษิต
bulletข่าวพระเครื่อง
bulletบทความพระเครื่อง
bulletThai Buddha Amulets
bulletข่าวพระพุทธศาสนา
bulletข่าวเครื่องรางของขลัง
bulletสาระพระเครื่องไทย
bulletประวัติพระวิปัสสนาจารย์




โหราไสย์ในองค์พ่อ (๕) เผาดวงชะตาเมือง article

           การทำพิธีเผาดวงชะตาเมืองเก่า จากข้อมูลที่ระบุไว้ว่า กระทำที่ป่าช้าวัดชะเมา ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นั้น คณะผู้ดำเนินการ ใช้ เพชฌฆาตฤกษ์ เลยเที่ยงคืนไป ๑ นาที ของปลายปี พ.ศ. ๒๕๒๘

           เมื่อผมได้ข้อมูลมา ก็ทำการวิเคราะห์ ด้วยการผูกดวงชะตาขึ้นมาพิจารณา ว่าเป็นวันไหน เวลาใดกันแน่ ปรากฎว่า เวลาหลังเที่ยงคืน ๑ นาที ของปลายปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ที่ผมผูกขึ้นทุกวัน ตั้งแต่วันที่ ๒๑ ธันวาคม ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ไม่มีวันใดเลยที่ผูกดวงแล้ว เวลาหลังเที่ยงคืน คือ ๑ นาทีของวันใหม่ จะเป็นเพชฌฆาตฤกษ์ ดังนั้น จึงเชื่อแน่ว่า ข้อมูลต้องคลาดเคลื่อน

 

 

              ไหนๆ คณะผู้ดำเนินการเลือกปลายปีแล้ว ผมก็เลยเลือกวันสุดท้ายของปลายปี ๒๕๒๘ คือ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๒๘ ซะเลย โดยเริ่มตั้งแต่นาทีแรกของวันสิ้นปี ก็ยังไม่ตรงกับเพชฌฆาตฤกษ์อีก จึงเลื่อนมาเรื่อย ๆ มาตรงกับนาทีแรก ของเวลา ๐๒.๐๐ น. หรือ ตีสองหนึ่งนาที ของวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๒๘ จะเชื่อหรือไม่ อัศจรรย์ใจจริง ๆ ท่านลองเอาไปผูกดวงดูกันเอาเอง เมื่อผมลองใช้เวลา ๐๒.๐๐ น. ของวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๒๘ ปรากฎว่าเป็นเทวีฤกษ์ ดังนั้น จะเป็นเพชฌฆาตฤกษ์ได้ ก็ต้องเริ่มจากเวลา ๐๒.๐๑ น.ไปแล้วเท่านั้น

              เมื่อพิจารณาข้อมูลเดิม คงคลาดเคลื่อนจาก ตีสองหนึ่งนาที มาเป็นสองยาม หรือ เที่ยงคืนแล้วหนึ่งนาทีเป็นแน่ และการที่ผมเลือกวันที่ ๓๑ ธันวาคม เพราะผมถือว่า วันนี้เป็นวันสุดท้าย เป็นวันสิ้นสุดของปี ก็น่าจะเอาวันนี้ มาเป็นวันสุดท้าย หรือ วันสิ้นสุดของดวงเก่าด้วย สิ่งเลวร้าย จะได้สิ้นสุดลงไปในวันนี้ หลังจากเผาดวงเมืองเก่าแล้ว

              ดวงเมืองนครศรีธรรมราชเก่า ที่สถาปนา เมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๑๘๓๐ เวลา ๑๓.๒๙ น. ตรงกับวันเสาร์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๓ ปีกุน จุลศักราช ๖๔๙ คริสตศักราช ๑๒๘๘ นั้น ท่านวางลัคนาดวงเมืองเอาไว้ ที่ราศีเมถุน (ธาตุลม) เสวยนักษัตร์ฤกษ์ที่ ๖ อารทรา ใน เทวีฤกษ์ โดยให้ ดาวจันทร์ เสวยนักษัตร์ฤกษ์ที่ ๒๑ อุตราษาฒ ใน โจโร ฤกษ์

              โหรท่านใดที่ไม่เคยให้ความสำคัญของ ลัคนาดวงฤกษ์ และ ดาวจันทร์เสวยฤกษ์ หากคิดผิด คิดใหม่ได้ ถ้าไม่เคยศึกษาในเรื่องนี้มาก่อน ลองศึกษาดู แล้วจะรู้ซึ้งถึงความสำคัญ อย่างดวงเมืองนครศรีธรรมราชเก่า ที่ท่านวางลัคนาไว้ที่ราศีเมถุน อันเป็นราศีคนคู่ โดยมีราหู (๘) เป็นเกษตรใหม่ ในระบบเกษตรเรือนเดียว และมีพุธ (๔) เป็นเกษตรเก่า ในระบบเกษตรสองเรือน

             เนื่องจาก ราศีเมถุน นั้น เป็นราศีที่ ๓ ภพสหัชชะ ของลัคนาโลกธรรมที่ราศีเมษ อันมีความหมายเกี่ยวกับ การติดต่อคบหาสมาคม การไปมาหาสู่กันในระยะสั้น ๆ เพราะโหรในสมัยนั้น ท่านเห็นว่า ดาวพุธ (๔) อันเป็นเกษตรนั้น มีความหมายถึงการติดต่อสื่อสาร การคมนาคม และราศีคนคู่ คือ คนสองคน ที่ความหมายตรง ๆ ก็คือ คนเสพกามเมถุน หรือ ร่วมสังวาสกัน แต่ถ้าตีความหมายอื่น ๆ ก็จะมีความหมายถึง การคบหาสมาคม การติดต่อสื่อสาร อันเหมาะกับเมืองนครศรีธรรมราช ที่เป็นศูนย์กลางการติดต่อสื่อสาร การเดินทาง การค้าขาย เป็นเมืองท่าที่สำคัญ เป็นจุดศูนย์กลาง สำหรับการติดต่อค้าขาย ระหว่างประเทศซีกโลกตะวันตก และซีกโลกตะวันออก

ยิ่งเกษตรเรือนเดียว ในระบบพลูหลวง ยิ่งเห็นชัดเจน เพราะมีดาวราหู (๘) กับ เกตุ (๙) พี่น้อง ร่วมกันเป็นเกษตร ซึ่งราหู (๘) กับเกตุ (๙) นั้น มีความหมายเกี่ยวกับ การติดต่อสื่อสาร การคบหาสมาคม และยังมีความหมายถึง วิทยาการที่ก้าวหน้าต่าง ๆ ประเพณีโบราณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จิตวิญญาณ และ การต่างประเทศ ทำให้เมืองนคร ฯ เป็นศูนย์กลางการค้าขายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสิ่งที่แปลก และมหัศจรรย์ยิ่งก็คือ เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองในยุคสมัยที่ กษัตริย์สองพี่น้อง (บ้างก็ว่ามีสามพี่น้อง) คือ ท่านท้าวจตุคาม หรือ ท่านท้าวรามเทพ ร่วมกันปกครองเมือง หลังจากสถาปนาเมืองนี้ได้ไม่นาน ก็สามารถรวบรวมเมืองต่าง ๆ เข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองได้ถึง ๑๒ เมือง สถาปนาเมือง ๑๒ นักษัตร์ หรือ กรุงศรีธรรมาโศกขึ้นมา

เหตุที่เมืองนคร ฯ เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดทุกด้าน นอกจากตำแหน่งดาวที่ให้คุณในพื้นดวงแล้ว เราจะเห็นว่า ตำแหน่งลัคนา ที่เสวยเทวีฤกษ์ อันเป็นฤกษ์พระราชินี หรือ ฤกษ์นางพระยา ถูกโฉลกกับเมืองอย่างมาก  เพราะเมืองนคร ฯ นั้น อยู่ใกล้ชิดติดทะเล อันเป็นธาตุน้ำ เพศหญิงเป็นใหญ่ เคยมีผู้หญิงปกครองบ้านเมืองมาก่อน (เจ้าแม่จันทรา หรือ นางพระยาจันทรา) และ มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในสมัยนั้น มีการรวมตัวเป็นอาณาจักรเดียวกันต่อมา ที่เรียกว่า อาณาจักรศรีวิชัย หรือ อาณาจักรทะเลใต้

ดวงเมืองเก่านครศรี ฯ ที่สถาปนาขึ้นโดยท่านจตุคาม ท่านกำหนดให้ ดาวจันทร์ เสวยโจโร ฤกษ์ หรือ ฤกษ์โจร อันเป็นฤกษ์แห่งการแย่งชิง เนื่องจาก ท่านต้องการรวบรวมบ้านเมืองที่แตกกระสานซ่านเซ็นให้เป็นปึกแผ่น เป็นอาณาจักรเดียวกัน อย่างที่เคยรุ่งเรืองมาก่อน ท่านจึงต้องใช้ฤกษ์นี้ สำหรับสร้างบ้านแปลงเมืองใหม่ ซึ่งก็ส่งผลตามมาอย่างที่ทราบ ท่านได้เมือง ๑๒ นักษัตร์ ไว้ในความปกครองอย่างง่ายดาย ในภายหลังที่สถาปนาดวงเมืองขึ้นมาแล้ว

แม้ว่าดวงเมืองเก่านครศรีฯ จะดีเลิศประเสริฐศรีอย่างไร ก็มีจุดอ่อน ให้ฝ่ายตรงข้าม คือ พวกพราหมณ์ที่เสียผลประโยชน์ เพราะท่านท้าวจตุคาม ท่านท้าวรามเทพ ท่านทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงทำให้ศาสนาพุทธ เข้ามาแทนที่ศาสนาพราหมณ์ ที่เคยเจริญรุ่งเรืองในย่านนี้มากกว่าหนึ่งพันปี จึงทำให้บ้านเมืองถูกสาป ต้องอาถรรพณ์เสนียดจัญไร จนนำมาสู่การเผาดวงเมืองในยุคสมัยปัจจุบัน ก่อให้เกิดวัตถุมงคล องค์พ่อท้าวจตุคามรามเทพ ระบือไกลไปทั่วทั้งแผ่นดิน

ในวันที่เผาดวงเมืองเก่านั้น ท่านท้าวจตุคามรามเทพ ท่านกำหนดวันเวลา และสถานที่ให้เสร็จสรรพ คือ ในคืนวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๒๘ เวลา ตีสองหนึ่งนาทีล่วงไปแล้ว ให้เริ่มทำพิธี เพราะจะอยู่ในช่วงของเพชฌฆาตฤกษ์ อันเป็นฤกษ์ผู้ฆ่า หรือ ผู้ทำลาย โดยเฉพาะดวงเมืองเก่านครศรี ฯ นั้น เป็นฤกษ์ที่ดาวจันทร์ เสวยดาวโจร ผู้ที่จะฆ่าโจรได้ มีเพียงเพชฌฆาตเท่านั้น

เหตุที่ใช้ป่าช้า เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรม เพราะดวงเมืองเก่านั้น ต้องอาถรรพณ์เสนียดจัญไร โดยมีภูติผีปีศาจร้าย และมนต์ดำของพราหมณ์ผู้เรืองเวทกำกับ ถ้ากระทำที่อื่น หากผิดพลาดขึ้นมา จะก่อให้เกิดผลเสียอย่างมากจากวิญญาณร้าย ที่จ้องทำลายมนุษย์ทุกผู้ในบ้านเมืองนครศรี ฯ อยู่ทุกขณะ

ผมเองไม่ทราบรายละเอียดของพิธีกรรมดังกล่าว ทราบเพียงแต่ว่า ในคืนที่ทำพิธีนั้น มีผู้ติดตามไปร่วมพิธีไม่มากนัก ไม่ได้ข้อมูลว่า มีใครไปกันบ้าง คิดว่าคงไม่มากนัก เรื่องของผี ใคร ๆ ก็กลัวด้วยกันทั้งนั้น ยิ่งบุกรุกถึงถิ่นเขายามค่ำคืนดึกสงัดด้วยแล้ว ใครอาสาร่วมด้วยช่วยกัน ต้องยอมรับว่าแน่จริง ๆ งานนี้ผมเชื่อแน่ว่า บุคคลสำคัญ อย่างท่านสรรเพชญ และท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ผู้เรืองเวทย์ ต้องไปร่วม ทราบว่า นิมนต์พระที่วัด ไปชักผ้าบังสุกุล สวดบังสุกุล เพียงหนึ่งองค์

พิธีกรรมโดยทั่วไป ตามความเข้าใจของผม ก็คงจะเริ่มต้น ด้วยการตั้งโต๊ะปะรำพิธีในวงสายสิญจน์ เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน มีเครื่องเซ่นสังเวยต่าง ๆ และที่ขาดไม่ได้ คือ แผ่นดวงชะตาเมือง ที่เขียนเอาไว้บนกระดาษ มีอักขระเลขยันต์กำกับ เจ้าพิธีคือใคร ผมไม่ทราบ อาจจะไม่ใช่ท่านขุนพันธ์ หรือ ท่านสรรเพชญก็เป็นได้ แต่เจ้าพิธีนั้น จะต้องเรืองอาคมไม่น้อย ถึงจะสะกดบรรดาภูติผีปีศาจร้ายในป่าช้า และวิญญาณที่สถิตอยู่ในดวงชะตาเมือง ให้อยู่ในความสงบได้

เมื่อได้เวลาประกอบพิธี คงเริ่มจากการจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย สมาทานศีล ขอขมาต่อเจ้าป่าเจ้าเขา นายป่าช้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในละแวกนั้น และอัญเชิญมารับเครื่องเซ่นสังเวย ขออนุญาตใช้สถานที่ และบอกกล่าวถึงจุดประสงค์ในการมาในครั้งนี้ พร้อมกับอัญเชิญท่านพระกาฬไชยศรี มารับดวงวิญญาณที่ถูกกักขังด้วยมนต์ดำ ที่สิงสถิตอยู่ในพื้นดวงชะตา จากนั้นก็รอช่วงเวลาที่จะทำการเผาดวงชะตา โดยท่านท้าวจตุคามรามเทพ ได้กำหนดให้ฤกษ์การจุดไฟเผาดวงชะตาเมือง เมื่อได้ยินเสียงนกแสก อันเป็นพาหนะของพระกาฬไชยศรีร้องขึ้นเมื่อไร ก็ลงมือทำการเผาดวงชะตาเมืองเก่าทันที พร้อมกับสวดบังสุกุล อุทิศกุศลผลบุญให้กับดวงวิญญาณเหล่านั้นไปพร้อมกัน

หลังจากบอกกล่าวอัญเชิญท่านพระกาฬไชยศรีได้ไม่นาน ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น และความเงียบสงัด ไม่มีแม้แต่เสียงร้องของนก และแมลงกลางคืน พลันเสียงนกแสก ก็ร้องดัง แสก ๆ ๆ ทำลายความเงียบขึ้นมา เล่นเอาทุกคนในที่นั้นสะดุ้งโหยง ผู้ที่ได้รับมอบหมายก็เริ่มจุดไฟเผาดวงชะตาทันที พร้อมกับพระที่ได้รับนิมนต์มา ก็เริ่มสวดบังสุกุล พอเริ่มสวดได้แค่ อนิจจัง วตสังขารา.... ก็พลันมีเสียงร้องโหยหวน ของดวงวิญญาณนับร้อยนับพัน กึกก้องไปทั้งป่าช้า เล่นเอาทุกคนในที่นั้นสะดุ้งโหยง ขนลุกเกรียว พระอาจารย์ที่ได้รับนิมนต์มาสวด ถึงกับออกอาการเสียงสั่น แต่พอควบคุมสติได้ ก็กลับเป็นปกติ และสวดแผ่เมตตา อุทิศกุศลผลบุญให้กับเหล่าวิญญาณทั้งหลาย เสียงร้องโหยหวลนั้นก็พลันเงียบหายไป กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เป็นอันสิ้นสุดพิธีการเผาดวงเมืองในค่ำคืนนี้ โดยสมบูรณ์

ถ้าเราพิจารณาดวงชะตาในวันเวลาที่เผาดวงเมืองเดิม ทางด้านขวามือ จะเห็นว่า ลัคนาในช่วงที่เผานั้น อยู่ราศีตุล โดยมีดาวอังคาร (๓) ดาวฆาต หรือ ดาวมรณะ, มีดาวเกตุ (๙) ดาวแห่งจิตวิญญาณ พิธีกรรมทางไสยศาสตร์ และ มีพลูโต (พ) ที่มีความหมายดุจเดียวกับเกตุ (๙) และยังหมายถึง  เทพเจ้าแห่งขุมนรก โดยตรง กุมลัคนา ดวงฤกษ์นี้ จึงเป็นดวงฤกษ์ที่เข้มแข็ง เหมาะสำหรับทำลายล้างอาถรรพณ์ ขจัดภูติผีปีศาจร้ายโดยเฉพาะ

ในวันที่เผานั้น ลัคนาพื้นดวงเมืองเก่า ถูกบาปเคราะห์ร้าย คือ เนปจูน (น) และศุกร์ (๖) เจ้าเรือนมรณะของลัคนาดวงฤกษ์ทำการเผาเล็ง และยังกากบาทกับเกตุ (๙) เจ้าเรือนลัคน์ดวงที่สอง โดยมี  อังคาร (๓) เกตุ (๙) และพลูโต (พ) จรทับราหู (๘) เจ้าเรือนลัคน์ดวงที่หนึ่งของดวงเมืองเก่า และทำมุมปลายหอกทิ่มแทงเกตุ (๙) เจ้าเรือนลัคน์ดวงที่สอง ถือเป็นการทำลายล้างดวงเมืองเก่า ให้สิ้นสุดลงโดยสิ้นเชิง

ถ้าสังเกตให้ดี จะพบว่า ในวันที่เผานั้น พฤหัสบดี (๕) เจ้าเรือนปัตนิ หมายถึง ศัตรู ซึ่งอยู่ในตำแหน่งเดียวกับเกตุ (๙) เจ้าเรือนลัคน์ดวงที่สอง ก็ถูกบาปเคราะห์เบียนไปด้วย ในขณะที่พื้นดวงดาวจร ในวันที่ทำการเผาทางด้านขวามือ จะพบว่า พฤหัสบดี (๕) เจ้าเรือนปัตนิ จรเข้าภพมรณะ ของดวงเมืองเก่า ถูกจันทร์ (๒) คู่ศัตรู เล็ง ถูกราหู (๘) อังคาร (๓) เกตุ (๙) และพลูโต (พ) กากบาทตรึงอีกสองมุม ถือว่า ถูกบาปเคราะห์ และดาวคู่ศัตรู เบียนอย่างยับเยิน ทำให้ศัตรู หรือ สิ่งที่ศัตรูทำไว้กับดวงเมือง ต้องพินาศไปในที่สุด

ดวงชะตาของมนุษย์ หรือ สรรพสิ่งทั้งหลาย ที่ผูกขึ้นมานั้น ถือเป็นสิ่งสมมติให้เกิด หรือ ทำให้เกิดขึ้นมาจากน้ำมือของมนุษย์ เมื่อทำให้เกิดได้ ก็สามารถทำให้ดับได้เช่นกัน การเผาหรือทำลายล้างดวงเมืองเดิม ที่ให้โทษแก่บ้านเมือง ถือเป็นการแก้เคราะห์ แก้กรรมวิธีหนึ่ง ดูออกจะรุนแรง และค่อนข้างยุ่งยากสักหน่อย ต้องใช้ศิลปทางด้านโหราศาสตร์ และไสยศาสตร์ชั้นสูง ถ้าไม่จำเป็นถึงที่สุดแล้ว ขออย่าได้ทำ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรรมที่กำหนดไว้จะดีกว่า ถ้าเปรียบเทียบกับดวงของคน เวลามีเคราะห์หนักถึงตาย โหราจารย์ท่านตรวจดวงแล้ว หากเห็นว่ามีโอกาสเลี่ยงได้ ก็จะแนะนำให้ไปบวช คือ ตายจากเพศฆราวาส ไปเกิดใหม่ มีพ่อแม่คนใหม่ คือ พระอุปัชฌาย์อาจารย์ที่ทำการบวชให้ อยู่ในโลกใหม่ คือ โลกแห่งธรรมะของพระพุทธองค์ ถ้าหมดเคราะห์เมื่อไร หากจะสึกหาลาเพศล่ะก็ ต้องตรวจดวงชะตาให้ดี ถ้าสึกได้ ก็ควรหาฤกษ์สึก หรือฤกษ์เกิดใหม่ให้เป็นมงคล เกื้อหนุนดวงกำเนิดเดิม ดังนั้น ฤกษ์สึก จึงสำคัญมาก บางคนสึกมา ไม่ดูตาม้าตาเรือ หรือ ดูดวงให้ดีล่ะก็ มีเคราะห์ถึงตายเลยทีเดียว (อ่านต่อฉบับหน้า)...โดย www.sereechai.com




บทความ ข่าวสารองค์พ่อจตุคาม

ผ้ายันต์กู้วิกฤต องค์พ่อ"จตุคามรามเทพ"
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๑) “โหราศาสตร์” พิธีกรรม article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๒) ปาฏิหาริย์ ณ วัดนางพระยา article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๓) ดวงเมืองนครศรีธรรมราช article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๔) รอมาตั้งพันปี article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๖) พิธีกรรมต่างๆ article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๘) ตอกหัวใจสมุทร ฝังหัวใจเมือง article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๙) article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๑๐)พิธีกรรมประติมากรรม article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๑๑) article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๑๒) article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๑๓) article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (7) เทพชุมนุมตัดชัย article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๑๔)อาณาจักรตามพรลิงค์ article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๑๖) โดย อ.เล็ก พลูโต article
โหราไสย์ในองค์พ่อ (๑๕) โดย อ.เล็ก พลูโต article
พิธีกรรม จำนวนสร้าง ฤกษ์ยาม อาถรรพ์เเห่งเหรียญเเสตมป์ปี 30 article
ลับสุดยอดถอดรหัสขี้ผึ้งศรีวิชัยปี30 article
ถอดรหัสผ้า ยันต์นาคราช article
ลับสุดยอดกับผ้ายันต์ราหูจร article
ใครว่าไม่มีพระสงฆ์ปลุกเสกในปี30 - ดูยอดพระคาถาบูชาองค์พ่อจตุคามฯ article
เหรียญแสตมป์ ปี30 พิมพ์มีหู
เหรียญแสตมป์ ปี30 แยกบล็อก article
เหรียญปิดตาพังพระกาฬ ปี32 สุดยอดแห่งเหรียญสายจตุคามรามเทพ
พระราหูโพธิสัตว์ (๑) โดย อ.เล็ก พลูโต article
เปิดตำนาน เปิดใจ สัมพันธ์ ทองสมัคร article
สัมพันธ์ ทองสมัคร อีกหนึ่งตำนาน...จตุคามฯ ปี ๓๐ article
เมื่อ...จตุคามฯ"ประทับยืน" article
อ.มนตรี จันทพันธ์ ผู้ออกแบบจตุคามฯปี ๓๐ ตัวจริง article
หลอกพระ - โกงเทวดา ผลกรรมจะตามสนอง article
ผู้ตัดไม้ตะเคียนทอง ปี2530 article