ReadyPlanet.com


TOP TEN INNOVATIVE BUSINESS 2008


TOP TEN INNOVATIVE BUSINESS 2008
สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม 2551 "บรรจุภัณฑ์พลาสติคชีวภาพ" คว้ารางวัลแห่งปี
คอลัมน์ จูนคลื่น

โดย
waisang@matichon.co.th
วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11248 มติชนรายวัน
ที่มา...
http://www.matichon.co.th/

สำ นักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดการประกาศ "10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม ประจำปี 2551 หรือ TOP TEN INNOVATIVE BUSINESS 2008" เพื่อเป็นตัวอย่างในการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมของภาคเอกชน และแนวโน้มทิศทางของธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพในประเทศไทย ที่โรงแรมสยามซิตี กรุงเทพฯ งานนี้ได้รัฐมนตรี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคนใหม่ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นประธานในงานดังกล่าว

ดร.สุจินดา โชติพานิช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ บอกเล่าถึงที่มาของการจัดงานว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ต้องการสนับสนุนการยกระดับทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีและการบริหารจัดการ และส่งเสริมความสำเร็จด้านนวัตกรรม เพื่อให้เกิด "วัฒนธรรมนวัตกรรม" ทั้งในระดับอุตสาหกรรม ระดับองค์กร และระดับประชาชนทั่วไป โดยผ่านกิจกรรมต่างๆ

การจัดอันดับ 10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม นับเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ สนช. จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว เพื่อประกาศยกย่องและเชิดชูผู้ประกอบการไทยที่มีการสร้างนวัตกรรมให้กับ ธุรกิจของตนเอง ทั้งนี้ ต้องขอแสดงความชื่นชมกับเจ้าของผลงานนวัตกรรมทุกๆ โครงการ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของผลงาน 10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม 2551 เป็น "นักนวัตกร" บุคคลที่มีคุณค่ายิ่งต่อประเทศชาติ เป็นตัวอย่างความสำเร็จของผู้ทำนวัตกรรม และเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ เกิดความสนใจที่จะดำเนินกิจการโดยมีการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และหวังว่าจะไม่หยุดสร้างความแตกต่างและจุดเด่นให้เกิดขึ้นในธุรกิจ และร่วมเป็นแรงผลักดันที่สำคัญให้สังคมเกิดความตื่นตัวและสนใจในเรื่องนวัต กรรมมากยิ่งขึ้น"



ดร. ศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการ สนช. อธิบายหลักเกณฑ์การคัดเลือก 10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรมครั้งนี้ เป็นการคัดเลือกผลงานจากโครงการที่ สนช. ได้ให้การสนับสนุนจำนวนทั้งสิ้น 335 โครงการ คิดเป็นวงเงินการสนับสนุนกว่า 350 ล้านบาท ซึ่งสามารถสร้างให้เกิดมูลค่าการลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาท พิจารณาคัดเลือกอาศัยหลักเณฑ์ต่างๆ 1) รูปแบบธุรกิจใหม่ 2) สนับสนุนด้วยเทคโนโลยีที่โดดเด่น 3) มีศักยภาพสูงในตลาดโลก 4) การบริหารจัดการองค์กรที่ดี 5) การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และ 6) ก่อให้เกิดกระแสตื่นตัวด้านนวัตกรรม โดยกิจกรรมในครั้งนี้ สนช.ได้ตั้งเป้าหมายเพื่อเป็นตัวอย่างในการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมของภาคเอกชน แสดงถึงแนวโน้มทิศทางของธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพในประเทศไทย และหวังสร้างให้เกิดบรรยากาศการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง สำหรับผลการคัดเลือก ได้แก่



อันดับ 1 "บรรจุภัณฑ์พลาสติคชีวภาพ PLA"?อุตสาหกรรมเพื่ออนาคต ของบริษัท โพลีแมททีเรียลเทคโนโลยี ได้ 93.8 คะแนน

อันดับ 2 "Good Grace"...สบู่อินทรีย์มาตรฐานโลก ของบริษัท เชียงใหม่ ออร์แกนนิค แอนด์ สปา ได้ 91.8 คะแนน

อันดับ 3 "ZoNoP"...อนุภาคซิงค์ออกไซด์นาโนสำหรับสิ่งทอและเครื่องสำอาง ของบริษัท นาโน แมททีเรียลส์ เทคโนโลยี 91.4 คะแนน

อันดับ 4 "ไบโอ อีเดน"...สเต็มเซลล์จากฟันน้ำนม ของบริษัท ไบโออีเดน เอเชีย จำกัด (มหาชน) 89 คะแนน

อันดับ 5 "I-MO"?พาหนะส่วนบุคคล 2 ล้อฝีมือคนไทย ของบริษัท ไอ-โมบิลิตี้ 88 คะแนน

อันดับ 6 "อาหารเสริม DHA"?สาหร่ายขาวสกัดบำรุงสมอง ของบริษัท เมษา คอร์ปอเรชั่น บริษัท ควอลิค อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัท สิทธิพรสมุนไพร 86.8 คะแนน

อันดับ 7 "ไอ-สปา"?อ่างอาบน้ำอัจฉริยะ ของบริษัท บาธรูม ดีไซน์ 85 คะแนน

อันดับ 8 "Osiris"...เครื่องสำอางจากผงไหม ของบริษัท เนเจอร์แม๊กส์ 83.6 คะแนน

อันดับ 9 "เค.ยู. แวกซ์"...สารชีวภาพเคลือบผิวผลไม้ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เค.ยู. แว๊กซ์ 82 คะแนน

และอันดับ 10 "ภูตะวัน"...ปุ๋ยชีวภาพมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของบริษัท ภูธนเกษตรอุตสาหกรรม 81.4 คะแนน

ดร. ศุภชัยกล่าวตอนท้าย เฉพาะในปี 2551 นี้ สนช.ให้การสนับสนุนโครงการนวัตกรรมทั้งสิ้น 83 โครงการ วงเงินสนับสนุน 49.6 ล้านบาท สามารถสร้างให้เกิดมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 800 ล้านบาท การที่ สนช.ริเริ่มบริหารจัดการนวัตกรรมรูปแบบใหม่ เพื่อสร้างความตื่นตัวในการจัดการนวัตกรรมบนฐานความรู้และเทคโนโลยี รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์โดยฝีมือความรู้ ความสามารถของคนไทย และจะเสริมกลไกการเงิน ร่วมรังสรรค์กับผู้ประกอบการ และการให้บริการปรึกษาทางธุรกิจ ผลักดันเอกชนให้เกิดการพัฒนา และสร้างกลยุทธ์ใหม่ในการทำธุรกิจ เพื่อสร้างให้ธุรกิจไทยมีความแตกต่างที่โดดเด่นเกินจากธุรกิจอื่น และพร้อมรับมือกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่กำลังประสบปัญหาตกต่ำลงอย่างต่อ เนื่อง ซึ่งส่งผลให้ยอดการสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลงเป็นจำนวนมาก

แม้ ในภาวะวิกฤตอยากให้ภาคเอกชนไทยพลิกเป็นโอกาส ด้วยการเร่งสร้างนวัตกรรมเพื่อผันตัวจากการที่เป็น "ผู้รับจ้างผลิต" มาเป็น "ผู้สร้างตราสินค้า" โดยในปีหน้านี้ สนช.มีเม็ดเงินพร้อมที่จะสนับสนุนธุรกิจนวัตกรรมกว่า 200 ล้านบาท



ผู้ตั้งกระทู้ News กระทู้ตั้งโดยเว็บมาสเตอร์ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2008-12-26 08:30:16