สวนไผ่ พันธุ์หญ้า ธนภัทรสกลนคร สินค้าเกษตรออนไลน์ ไผ่สายพันธุ์ต่างๆ ไผ่ข้าวหลามกาบแดง ไผ่ซางหม่น หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้านรกจักรพรรดิ์ หญ้าเนเปียร์ปากช่อง1 หญ้าเนเปียร์แคระ หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ สะสมพระเครื่อง แต่ใจรักเกษตรผสมผสาน
|
โรงเรียนเตรียมสามเณร | ||||
นำร่องโรงเรียนเตรียมสามเณร ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นโรงเรียนเตรียมสามเณรแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อพัฒนาสามเณรให้มีคุณภาพมีความรู้ทางธรรม ทางโลก และสร้างศาสนทายาทในอนาคต ที่มา...ปีที่ 18 ฉบับที่
6632 ข่าวสดรายวัน ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากปัจจัย 6 ด้าน 1.สภาพสังคมที่เปลี่ยนไป คนไทยเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม จึงมุ่งเน้นไปในการมุ่งทำมาหากินมากกว่ามุ่งในการทำมาหาธรรม 2.การวางแผนครอบครัวที่ได้ผล เมื่อครอบครัวมีลูกน้อยลงก็ต้องการให้ลูกสืบทอดกิจการ หรือเป็นกำลังสำคัญทางเศรษฐกิจของครอบครัว มากกว่าให้ไปวัด 3.การศึกษาของรัฐมีการขยายตัวอย่างกว้างขวาง ทำให้เด็กได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง จึงหันหน้าเข้าหาวัดน้อยลง 4.การที่วัดสูญเสียศักยภาพการเป็นผู้นำทางด้านปัญญา ทำให้เด็กรุ่นใหม่ไม่เห็นความสำคัญของการเข้าวัด คือ การเผยแผ่พระพุทธศาสนายังไม่ได้ผล เราเผยแผ่วัฒนธรรมพุทธศาสนามากกว่าเผยแผ่พุทธธรรม เช่น การเผยแผ่เครื่องรางของขลัง ซึ่งสิ่งเหล่านี้แทบไม่เกี่ยวข้องกับธรรมะ การที่คนรุ่นใหม่ได้รับการศึกษาดีแทบจะไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องพวกนี้ เหมือนกับว่าพระนำสิ่งที่เชยมาสอน ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาจึงไม่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก 5.การเผยแผ่พระพุทธศาสนายังไม่ได้ผล เพราะมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาในเชิงลบ แต่ทางพระก็ไม่ได้เผยแผ่เชิงรุก ปล่อยให้สื่อมวลชนนำข่าวไม่ดีมากระจายซ้ำอยู่บ่อยครั้ง ก็จะกลายเป็นทัศนคติเชิงลบต่อธรรมะ คนหมดศรัทธาต่อพระและวัด ทำให้เด็กมองไม่เห็นว่า พระจะเป็นแรงบันดาลใจได้อย่างไรในการเข้าวัด ประการสุดท้าย คือ โลกทุกวันนี้สถานที่ที่น่าเข้ามากกว่าวัดมีมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ทุกอย่างล้วนแต่พัฒนาไปในทางที่จะมอมเมาคนทั้งนั้น ในขณะที่พระและวัดหยุดตัวเองเอาไว้ในอดีต ดังนั้น หากเราไม่ตระหนักรู้ สถาบันศาสนาซึ่งเป็นสถาบันหลักของสังคมไทยจะกลายเป็นอีกสถาบันหนึ่งที่อ่อนแอ ด้วยเหตุนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานแนวคิด เรื่อง "โรงเรียนเตรียมสามเณร" ขึ้น "พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี" (ว.วชิรเมธี) ผอ.สถาบันวิมุตยาลัย ในฐานะประธานโครงการฟื้นฟูการศึกษาของคณะสงฆ์แห่งอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จัดตั้งโรงเรียนเตรียมสามเณร (ต.ส.) ที่วัดครึ่งใต้ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นโรงเรียนเตรียมสามเณรแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อพัฒนาสามเณรให้มีคุณภาพมีความรู้ทางธรรม ทางโลก และสร้างศาสนทายาทในอนาคต เนื่องจากพระองค์ทรงเห็นว่า ในประเทศของเรามีโรงเรียนเตรียมทุกประเภท ทั้งเตรียมแพทย์ เตรียมครู เตรียมทหาร แต่กลับไม่มีโรงเรียนเตรียมสามเณรพัฒนาสามเณรให้มีคุณภาพ และทรงรับสั่งว่า ทุกวันนี้หาพระที่เทศน์แล้วให้ประชาชนเข้าใจง่ายนั้นก็มีน้อยมาก และห่วงคุณภาพของพระภิกษุสามเณร จึงทรงอุปถัมภ์โรงเรียนพระปริยัติธรรมในจังหวัดเชียงรายไว้ถึง 20 แห่ง อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงห่วงใย พระราชทานทุนเล่าเรียนหลวง จำนวน 72 ล้านบาท ให้แก่พระภิกษุสามเณรทุกปี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งว่าจะทรงเข้ามาช่วยพัฒนาพระและสามเณร พร้อมทั้งทรงรับสั่งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานทุนเล่าเรียนหลวงทุกปี พระองค์ท่านอยากจะเห็นพระที่ดี ฉะนั้นพระองค์ท่านเหมือนมาทำงานแทนในหลวง "อาตมาในฐานะที่เป็นประธานโครงการฟื้นฟูการศึกษาของคณะสงฆ์แห่งอนุภูมิภาค ลุ่มแม่น้ำโขง ครอบคลุม จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน ตลอดจนประเทศพม่า ลาว และสิบสองปันนา จะมีโอกาสเข้ามาศึกษาเล่าเรียน ก็จะมีความรู้ทางธรรมที่ลึกซึ้ง มีความแม่นยำในพระธรรมวินัย และเข้าใจความเป็นไปของโลก มีศีลาจารวัตรที่น่าเคารพนับถือ และสำคัญที่สุดมีศักยภาพในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา" "สมเด็จพระเทพฯ รับสั่งอีกว่า หากพระเณรมีความรู้ทางธรรมที่ดีก็จะสามารถเป็นที่พึ่งให้กับสังคมไทยได้ และหากมีความรู้ในสังคมโลกเมื่อลาสิกขาออกไปก็จะเป็นพลเมืองที่ดีที่รัฐ สามารถพึ่งพาอาศัยได้ พร้อมกันนี้ทรงรับสั่งให้ช่วยรื้อฟื้นการศึกษาธรรมะกับบาลี เพราะ 2 วิชานี้เป็นหัวใจของการส่งเสริมพระพุทธศาสนา" หากวันนี้ประเทศไทยไม่มีโรงเรียนเตรียมสามเณรจะหาพระชั้นนำจากที่ไหนให้กับ ประเทศ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การเทศน์ แต่เป็นการที่พระสงฆ์สามารถบำเพ็ญตน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่เข้าวัดศึกษาหลักธรรมได้ เมื่อพระเป็นแรงดลใจให้กับคนรุ่นใหม่ได้เด็กก็จะเกิดความศรัทธา เข้าวัดเอง พระมหาวุฒิชัยกล่าวต่อว่า เวลานี้สิ่งที่พระอาจารย์ได้ทำและได้รับการอุปถัมภ์จากสมเด็จพระเทพฯ คือ การย้อนกลับมารื้อฟื้นให้วัดเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำ และเมื่อวัดสามารถยกระดับตนเองเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำได้แล้ว คนก็จะเข้ามาแสวงหาความรู้ภูมิปัญญาจากธรรม จากพระ และวัด เช่นที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มหาวิทยาลัยเยลล์ ล้วนแล้วแต่เคยเป็นศาสนสถานเก่าทั้งนั้น แต่ในระยะหลังคนชั้นนำของไทยไม่ไปศึกษาที่วัด เพราะวัดได้สูญเสียบทบาทการเป็นผู้นำทางปัญญา ดังนั้น พระอาจารย์ก็จะกลับไปรื้อฟื้นวัดให้เป็นศูนย์กลางทางการศึกษา โดยเริ่มจากวัดครึ่งใต้ อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานชื่อให้ว่า "โรงเรียนเตรียมสามเณร" เพราะทรงเห็นว่าถ้าสามเณรมีคุณภาพเราก็จะมีพระที่มีคุณภาพ คนรุ่นใหม่ก็จะหันหน้าเข้าวัด เนื่องจากสามเณรได้รับการศึกษาที่ดี เมื่อการศึกษาของรัฐขยายตัวเด็กรุ่นใหม่ก็ไม่นิยมบวชเณรมากนัก ฉะนั้นศาสนทายาทในเวลานี้ และในอนาคต จะมีจากชาวเขาร้อยละ 90 และหากสังคมไทย ไม่ตื่นตัวในอนาคตอันใกล้เราก็จะไม่มีสามเณรที่ได้เปรียญธรรม 9 ประโยคตั้งแต่เป็นสามเณรก็ได้ เพราะฉะนั้นนี่คือวิกฤตศาสนาครั้งใหญ่ของสังคมไทย เนื่องจากค่านิยมในการบวชเรียนน้อยลง สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป และวัดสูญเสียการเป็นผู้นำด้านสติปัญญา ถ้าเราไม่หันกลับมาฟื้นฟูวัดให้เป็นสถาบันทางการศึกษาชั้นนำ คนส่วนมากก็จะมุ่งไปที่สถาบันการศึกษาของรัฐและเอกชน และต่อยอดไปยังประเทศตะวันตก เช่น อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และประเทศในแถบยุโรป โดยที่ไม่ได้มุ่งไปวัดเหมือนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าวัดและพระสงฆ์ และสำนักงานพระพุทธศาสนา มหาเถรสมาคม ยังไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้ ในอนาคตวัดจะกลายเป็นที่เก็บอัฐิของบรรพบุรุษ และมีบทบาทสำคัญในการทำพิธีกรรม เช่น งานศพ งานประจำปี แต่แทบจะไม่มีความสำคัญในชีวิตของคนรุ่นใหม่อีกต่อไป ณ ปัจจุบันสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในประเทศตะวันตก โบสถ์ในประเทศอเมริกา ฝรั่งเศส ถูกขายทอดตลาด อีกทั้งในประเทศญี่ปุ่นพระต้องทำมาหากินด้วยตนเอง สถานการณ์ศาสนาทั่วโลกเป็นเช่นนี้ ถ้าพระสงฆ์ไทยไม่ปรับตัว ไม่พลิกฟื้นวัดเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา วัดจะเหลือปราการด่านสุดท้ายแค่พิธีกรรม สำหรับการพัฒนาคุณภาพสามเณรนั้น คงต้องมีการบูรณาการการเรียนการสอน พระภิกษุสามเณรต้องมีความรู้ทางธรรมคู่กับความรู้ทางโลก มีศักยภาพในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โรงเรียนนำร่องวัดครึ่งใต้เปิดสอนตั้งแต่นักธรรมชั้นตรี จนถึงเปรียญธรรม 9 ประโยค ส่วนการศึกษาสามัญมีหน่วยงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เป็นองค์กรอุปถัมภ์ ตั้งแต่ปริญญาตรีจนถึงระดับปริญญาโท และในปี 2552 จะมีการขยายไปจนถึงระดับปริญญาเอก เพราะฉะนั้นถือได้ว่าวัดครึ่งใต้เปิดสอนระดับอนุบาลจนถึงปริญญาเอก | ||||
ผู้ตั้งกระทู้ News :: วันที่ลงประกาศ 2009-01-25 08:17:57 |