โหรฟันธง ปีเสือ พยากรณ์เศรษฐกิจไทย วิกฤติกว่าปี
40 นักวิชาการสวนสัญญาณดีเศรษฐกิจฟื้น สุดท้ายขอย้ำว่า การพยากรณ์เศรษฐกิจเป็นการคาดคะเนล่วงหน้า
อาจเกิดขึ้นจริง หรือไม่จริงก็ได้

ต้อนรับสู่ศักราชใหม่ หลังปิดฉาก ปีฉลู
สุดหดหู่ด้านเศรษฐกิจ ทั้งเจอพิษ การเมืองในประเทศ ซ้ำด้วยเศรษฐกิจนอกประเทศ
แถมส่งท้ายปลายปีด้วยกรณีมาบตาพุดเข้าไปดอกใหญ่ ๆ เลยกลายเป็นเศรษฐกิจปีวัวจุก
ต่างมึบตึ้บไปตาม ๆ กัน เรื่องร้าย ๆ ที่ผ่านมาก็ขอให้ผ่านไป ส่วนเรื่องดี ๆ
อยากให้เก็บไว้ให้ชุ่มชื่นหัวใจ เตรียมตัวเตรียมใจรับศึกปีขาล
เช่นเคยเหมือนทุกปี ณ พื้นที่นี้ทุกคนจะได้เต็มอิ่มกับการพยากรณ์เศรษฐกิจไว้เป็นคู่มือนำทางในการ
ใช้ชีวิตทั้งจากสารพัดโหร ที่เคยฟันธงตรงเผงหลายเหตุการณ์จนน่าขนลุก
ควบคู่มุมมองฝ่ายวิชาการ จากหน่วยงานเสาหลักเศรษฐกิจของประเทศว่า จะมองภาพ
รวมเศรษฐกิจปีขาล จะเป็นเสือดาวรุ่งพุ่งทะยาน หรือเสือหัวหกก้นขวิดหลงทิศ
หลงทางอย่างไรต้องติดตาม
ประเดิมด้วยโหรชื่อดัง โสรัจจะ
นวลอยู่ ขึ้นชื่อเรื่องฟันธงสุดโต่ง หลายคนฟังคำพยากรณ์ได้แต่ออกอาการเซ็งในอารมณ์
ไม่อยากฟังต่อ เพราะมีแต่เรื่องร้าย ๆ แต่ พอวันเวลาผ่านไปเป็นต้องสะดุ้งโหยง
รีบกลับมาดูใหม่ อย่างที่ผ่านมาทำนายปีวัวดุ ถูกตั้งแต่เหตุจลาจลเม.ย. แดงเดือด
กระทบชิ่งภาวะเศรษฐกิจตกวูบ กลางปีบริษัทใหญ่ปลดพนักงาน ก็ตรงกับเคส
ไทรอัมพ์ปลดพนักงานลอตใหญ่ ต่อมาก็หุ้นหล่นวูบ ตลาดเกือบหยุดการซื้อขายชั่วคราว
อุบัติ ทางเครื่องบิน ก็ตรงกับเครื่องบินบางกอกแอร์เวย์สชนเปรี้ยงที่เกาะสมุย
และที่สำคัญมีปัญหากับ ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเขมร จะลุกลามบานไม่หุบมาถึงปี
53
กลิ่นปฏิวัติมาแรง
โหรโสรัจจะ พยากรณ์เศรษฐกิจปีขาลผ่านดวงดาว เป็นเสือดุสุดหฤโหด
เหตุการณ์ซ้ำร้ายแย่ยิ่งกว่าปี 52 และแย่ยิ่งกว่าปี 40 วิกฤติต้มยำกุ้ง
ซึ่งเกิดจากดาวเสาร์ ซึ่งเป็นดาวเกี่ยวเนื่องกับภาวะเศรษฐกิจโดยตรง
มาอยู่ในราศีกันย์ เป็น อริกับดวงเมือง และเล็งกับมฤตยู ทำให้เศรษฐกิจไทย
และทั่วโลกตกต่ำถึงขีดสุดในรอบ 20 ปี
ปี 52 เหมือนปี เผาหลอก
แต่ปี 53 นี่แหละ เผาจริง อย่างแน่นอน
เนื่องจากเศรษฐกิจไทยจะถูกกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ประเทศมหาอำนาจทั้ง สหรัฐ
อเมริกา จีน อังกฤษ หรือแม้กระทั่งอินเดียจะอยู่ห้วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
แต่ไทยยังถูกแรงกระแทกจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในประเทศรุมซ้ำเติมอีกด้วย
เดือนที่หนักหนาสาหัสที่สุดคือ เดือนเม.ย. ที่ดาวพฤหัสบดี
ของไทยกำลังโคจรร่วมกับพระพุธ และดาวมฤตยู เหมือนเป็นเดือนอาถรรพณ์ ที่ต้องจับตา
เพราะจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำเดิมคือ เหตุจลาจล ยุบสภา แล้วอาจเกิดรัฐประหาร
ครั้งนี้รุนแรง และจะสำเร็จไประยะนึง แล้วต่อมาเดือน ต.ค. ถึงเดือน พ.ย.
ฝ่ายเดิมจะกลับมาทวงคืน ถึงขั้นจลาจลนองเลือด อาจมีรัฐประหารอีกครั้ง
และเหตุการณ์รุนแรงจะลากยาวถึงปี 54 ทำให้เกิดการว่างงานเยอะมาก ข้าวของแพง
อาจถึงขั้นแบ่งปันแย่งชิงกัน หุ้นตกต่ำด่ำดิ่ง แล้วกลับมาเฟื่องฟูสลับปรับเปลี่ยน
กันไป
ครั้งนี้โหรโสรัจจะ ยังได้พยากรณ์เศรษฐกิจ
ผสมกับเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่จะเกิดกับไทยและทั่วโลก ไล่ตั้งเดือน ม.ค.-ธ.ค. ดังนี้
เดือน ม.ค. ภาวะทางการเงินตึงตัว เศรษฐกิจของประเทศเริ่มตกต่ำอีก
คนงานถูกปลดออกจากงานเป็นจำนวนมาก หุ้นตกวินาศ สันตะโร
สถาบันทางการเงินซวนเซ
เดือน ก.พ.
บ้านเมืองจะมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะถอยหลังกู่ไม่กลับ
คนงานในบริษัทใหญ่โตของประเทศ และข้าราชการบางส่วนต้องถูกปลดออกจากงาน
เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ ธนาคารซวนเซ ประเทศญี่ปุ่นตึงเครียด
จะถูกบีบคั้นบางอย่างทางเศรษฐกิจ มีการกระทบกระทั่งกับเขมร เดือน มี.ค.
หุ้นจะตกอย่างแรง อาจมีธนาคารบางแห่งปิดตัว หรือควบรวมกันเกิดขึ้น
โรงงานผลิตสินค้าจำหน่ายในประเทศจะประสบปัญหาทางการตลาด คนงานอาจได้รับผลกระทบ
เนื่องจากลดกำลังการผลิต บางโรงงานถึงขนาดต้องปิดตัวลง เกิดปัญหาการว่างงาน
ดาวมฤตยู ซึ่งเป็นดวงดาวแห่งการปฏิวัติเริ่มลอยอยู่เหนือฟ้ากรุงเทพฯ
ปลายเดือนเริ่มขัดแย้งรุนแรงกับสหรัฐอเมริกา
เป็นผลมาจากข้อตกลงทางเศรษฐกิจ
เดือน เม.ย. ดาวแห่งไทยสยาม
โคจรเข้ามุมฉากกับดาวบาปเคราะห์ที่ทำมุมจตุโกณ เป็นเดือนที่หนักสาหัสที่สุดในรอบปี
รัฐบาลจะต้องเผชิญปัญหาสำคัญใหญ่หลวง จะเกิดปฏิวัติรัฐประหารครั้งใหญ่
เลือดนองทั่วแผ่นดิน โลกจะเกิดวิบัติ เศรษฐกิจทั่วโลกจะตกต่ำทั่วทุกมุมโลก
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดโลกจะผันผวน กระเทือนมาถึงค่าเงินบาทไทย ธุรกิจสับสน
เศรษฐกิจไทยจะตกต่ำถึงขีดสุด และจะเกิดเหตุเครื่องบินภายในประเทศตก
เดือน พ.ค. เศรษฐกิจจะตกต่ำต่อเนื่อง หุ้นจะตกรุนแรง ธนาคารขนาดใหญ่จะซวนเซ
กำลังซื้อลดลง มีการปลดคนงานทั่วประเทศ ไข้หวัดนกกลับมาระบาดอีกครั้ง เดือน มิ.ย.
เศรษฐกิจยังตกต่ำ หุ้นตกอย่างรุนแรง ไทยจะเสียเปรียบทางการค้ากับต่างประเทศ
เป็นหนี้สินจำนวนมาก รัฐบาลจะต้องเผชิญปัญหารัฐวิสาหกิจก่อหวอดเป็นจำนวนมาก
เรือโดยสารล่ม ตายหมู่เป็นจำนวนมาก เดือน ก.ค. มีเครื่องบินตกในประเทศ
ชาวนากรรมกรมีหนี้สินจำนวนมาก ธุรกิจสับสน กระแสเงินตรามีจุดตึงเครียด
ค่าเงินบาทลดลงอย่างรุนแรง ธนาคารมีปัญหา
หุ้นตก
ไทยเหนื่อยเปิดสงครามเขมร
เดือน ส.ค. เขมรบุกประเทศ
ส่งกำลังเข้าโจมตี กลายเป็นสงครามที่ไม่เคยมีกับประเทศเพื่อนบ้านมานานแล้ว
ธนาคารระส่ำหนัก มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารครั้งใหญ่ รัฐบาลประกาศขึ้นภาษี
เงินบาทลอยตัวสูง บุคคลที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศล้มละลายจะถูกลงโทษ เดือน ก.ย.
เศรษฐกิจยังคงย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง เดือน ต.ค. บุคคล
ในเครื่องแบบจะกลับมามีบทบาท เกิดการ จลาจล รัฐประหารครั้งใหญ่
เกิดการนองเลือดอีกครั้ง
ยิ่งเป็นการซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำเข้าไปอีก
เดือน พ.ย.
อาจเกิดการจลาจลอีกครั้ง อาจเกิดรัฐประหารอีกครั้ง หุ้นตกอย่างรุนแรง
ถึงขนาดตลาดหลักทรัพย์ต้องปิดตัวลงเป็นครั้งคราว และจะเกิดภัยธรรมชาติครั้งรุนแรง
น้ำทะลักท่วมหลายจังหวัด เดือน ธ.ค. ระยะนี้ ดาวเคราะห์เบียดหนัก
เกิดการแตกแยกความสามัคคี มีการลอบวางระเบิด เขื่อนยักษ์แตก น้ำทะลักหลายจังหวัด
หุ้นตกอย่างรุนแรงมาก กว่าปีก่อน ๆ หลายเหตุการณ์ทำให้เศรษฐกิจล้มเหลว
เกิดหิมะตกในกรุงเทพฯ
โหรโสรัจจะ ย้ำตอนท้าย ดูดวง ดวง ทำนายฝันทุกอย่างเป็นการพยากรณ์
ตามดวงดาวที่อาจจะสุดโต่ง บางเหตุการณ์อาจไม่ได้เกิดขนาดนั้น
แต่จะเป็นเค้าโครงเรื่องที่จะเกิดขึ้น ไม่อยากให้งมงายกัน
แต่ก็อยากเตือนสติไม่ให้คนประมาท บางครั้งผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ
ประมาทแล้วเตรียมตัวกันไม่ทัน แต่ปีขาลครั้งนี้ มีโอกาสสุดโต่งค่อนข้างสูง
ที่คาดการณ์ไว้ อาจเกิดขึ้นทั้งหมดในปี 53 และลากยาวถึงปี 54
แต่ไทยโชคดีที่มีพระสยามเทวาธิราช คอยปกปักรักษา ทุกอย่างจะค่อย ๆ ฟื้นตัวได้
ภายหลังมรสุมผ่านไป และจะผ่านพ้นไปได้ทุกที และจะกลับมาตั้งหลักได้ในปี 56-57
ครั้งนี้ไทยจะรุ่งเรืองถึงขีดสุดมากกว่าครั้งอดีต โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ
และจะเจอแร่ทองคำ และน้ำมันเยอะมาก จนหลาย ๆ ประเทศจะพากันอิจฉา
ทุก 10 ปีวิกฤติตามมาหลอน
หลังจากพยากรณ์ผ่านดวงดาว ลองมาเปลี่ยนอารมณ์ดูฟากฮวงจุ้ยดูดวงปี 2553 ฟันธงเศรษฐกิจปี 53 กันบ้าง
อะไรจะรุ่ง อะไรจะริ่ง ได้ผู้เชี่ยวชาญอย่าง อ.มาศ เคหาสน์ธรรม
ประธานสถาบันค้นคว้าวิชาการฮวงจุ้ยแห่งประเทศไทย แถมเป็นซินแสชื่อดังติด 1 ใน 3
ของโลก ปีก่อน อ.มาศ พยากรณ์ตรงเผงทั้งปัญหามาบตาพุด
การขึ้นลงของราคาหุ้นและราคาทอง
โดยเฉพาะราคาทองคำที่ทำลายสถิติสูงสุดเป็นว่าเล่น
ปีขาลครั้งนี้ อ.มาศ มองเป็นปีแห่งพลังธาตุไม้ ที่มาพร้อมกับธาตุทอง
โดยไม้กับทองเป็นคู่พิฆาต เรียกว่า...ปีเสือบาดเจ็บ ขวานปักอก
ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งไปทั่วโลกแทบทุกเดือนโดยปีขาลใน 3 ครั้งที่ผ่านมาทั้งในปี
2490 2539 และ 2541 ได้เห็นถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจที่พังลง
และปีขาลครั้งล่าสุด
จะเกิดผลพวงที่เกิดจากสึนามิทางการเงิน...โรคต้มยำกุ้งที่กระจายระบาดไปทั่ว โลก
ซึ่งจะเกิดหนึ่งครั้งต่อศตวรรษ
ในคัมภีร์อี้จิงนั้น...ปีนี้ได้ฉกลักษณ์ เคี้ยง/จิ้ง
ซึ่งบ่งบอกว่า ผู้นำอาจถูกยึดอำนาจ และหลายประเทศจะพบกับความไม่มั่นคงทางการเมือง
การให้รางวัลแก่ผู้ดำรง ความเป็นธรรม พลังงานประจำปีเป็นดาว 8
ซึ่งปราณมงคลทับซ้อนกับพลังงานประจำยุค
ส่งผลให้ใครที่ดวงดีจะยิ่งเจริญรุ่งเรืองหลายเท่า ในขณะที่ใครกำลังดวงตกเคยร้าย
ก็จะยิ่งดำดิ่งเลวร้ายจมลึก
เศรษฐกิจในยุโรป
และอเมริกาจะไปได้ดีช่วงเวลาสั้น ๆ ราคาน้ำมันจะเริ่มขยับขึ้น
การเก็งกำไรกลับมาคึกคัก ทำให้การฟื้นตัวมีอุปสรรคช่วงครึ่งปีหลัง จะ
มีการเดินขบวนประท้วงขนาดใหญ่และการนัด หยุดงานเกิดขึ้นในหลายประเทศ
ซึ่งจะหนักหน่วงมากในอเมริกาและอังกฤษ แถมมีการฟาดฟันขัดแย้งกัน ทำให้ตลาดหุ้น
ตลาดค้า และค่าเงินมีความผกผันรุนแรง
ดังนั้นต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะยังอ่อนลงต่อเนื่องอีก 2-3 ปี
ทำให้ราคาทองจะพุ่งขึ้นไปถึง บาทละ 22,000-24,000 บาท
มีทิศทางเป็นขาขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดที่ปีมะโรง พ.ศ. 2555
หลังจากนั้นจะเริ่มถดถอยตกต่ำลงโดยในภาพรวมนั้น...สภาวะเศรษฐกิจของเอเชีย
และออสเตรเลียจะยังไปได้ดีโดยเฉพาะในประเทศจีนที่รุ่งเรืองเป็นพิเศษ
ฮวงจุ้ยปี 53 จะเป็นปีแห่งความแตกแยกอย่างรุนแรง
สถานการณ์จะสุกงอมไปถึงจุดแห่งความเปลี่ยนแปลง เหมือนฝีใหญ่ที่กำลังจะระเบิด
ดวงนายกฯ อภิสิทธิ์ตกต่ำที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
อาจต้องระวังอุบัติเหตุที่รุนแรงและการถูกทำร้าย
การเดินทางจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสูง
ขณะที่คนแดนไกลเริ่มดวงขึ้นฟ้าเปิดหลังตกต่ำมา 3 ปี จะเป็นจังหวะให้ขยับรุกฆาต
ซึ่งบอกเท่านี้ก็คงพอจินตนาการออกว่าปีเสือเจ็บเที่ยวนี้จะน่าประหวั่นพรั่น
พรึงสักเพียงใด
ทุกคนคงจะต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
ปีนี้พลังจักรวาลส่งผลดีด้านการค้าและอาชีพที่เกี่ยวกับธาตุน้ำ
อาชีพที่ดีในปีนี้ ปิโตรเลียม การเงิน การธนาคาร ประกันภัย เทคโนโลยี ของทะเล
ผลิตภัณฑ์จากทะเล การขนส่งทางทะเล เครื่องไฟฟ้า ลอตเตอรี่ ฮวงจุ้ย การให้คำปรึกษา
ยาที่มีส่วนประกอบทางชีวภาพ ข้อมูล เครื่องดื่มเย็น การแพทย์ อาชีพปานกลาง สื่อสาร
ไฟฟ้า พลังงาน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องดื่ม โหราศาสตร์ การโฆษณา ผลิตภัณฑ์แร่ธาตุ
ศิลปะ รถยนต์ การบิน การพิมพ์ ความบันเทิง ของขวัญ การประมง ผลิตภัณฑ์อาหาร
อาชีพไม่ดี เกษตรกรรม การท่องเที่ยว การขนส่งทางอากาศ ก่อสร้าง ดอกไม้ เครื่องเรือน
โลหะภัณฑ์ สิ่งทอ ความงาม อัญมณี สิ่งพิมพ์
อ.มาศ
ยังได้ฟันธงภาวะตลาดหุ้น และราคาทองคำปีขาลจะพุ่งปรี๊ดถึงขีดสุดอีกหรือไม่
บอกกันเดือนต่อเดือนให้เห็นให้เก็งกำไรกันชัด ๆ จะจะกันไปเลย ... ม.ค. ทองดี หุ้นตก
ก.พ. หุ้นเริ่มขยับ มี.ค. หุ้นคึก เม.ย. ทองโดด พ.ค. ไฮเทคร่วง ทองขึ้นติดพัน มิ.ย.
หุ้นเด่น ก.ค. หุ้นพุ่ง ส.ค. เล่นทอง ก.ย. ทอง ทอง ทองเท่านั้น ต.ค.
หาจังหวะเข้าตลาด พ.ย. หุ้นโกยแล้วจร ธ.ค. หุ้นขยับแล้ววูบ
ทิศทางฮวงจุ้ยปี 53 ทิศตะวันออกและตะวันตก จะเปล่งพลังโชคลาภเข้ามาแบบจัง ๆ
ส่วนทิศร้ายคือทางทิศเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้
ซึ่งเป็นพลังเกี่ยวกับความวิบัติเลวร้ายมาให้ผู้อยู่อาศัย
แนะทิศเสริมธุรกิจรุ่ง
และตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.
เป็นต้นไปใครที่บ้านหันไปทางทิศตะวันออกหรือนั่งทำงานในบริเวณทิศตะวันออก
ของสำนักงาน...มีโอกาสจะได้รับการเลื่อนขั้น
ถ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันตกจะโชคดีได้เงิน แต่เดินทางบ่อย
ส่วนดาราหรือคนที่อยากเด่นดังแนะนำว่าให้นั่งในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ซึ่งทิศนี้ใครที่ทำงานด้านตรวจสอบหรือขายไอเดีย ก็จะสมองแจ่มใสมีความคิดดี ๆ
แวบเข้ามาบ่อย ๆ
ปีนี้ห้ามตกแต่งใหม่
หรือทำการต่อเติมทางทิศเหนือ และ ทิศตะวันตกเฉียงใต้
ของบ้านและที่ทำงานจะนำมาซึ่งการเกิดภัยพิบัติขึ้นได้โดยไม่คาดฝัน
อาจถึงสูญเสียหนักถึงแก่ชีวิตได้ง่าย ๆ ควรเลี่ยงการตกแต่ง บ้าน
ขุดดินปลูกต้นไม้หรือทำสวนในทิศนี้ด้วย ถ้าจำเป็นก็ต้องเลือกวันมงคลซึ่งมีพลังที่ดี
และให้วางโคมไฟแดงทางทิศเหนือ และโลหะวาว ๆ ในทิศตะวันตกเฉียงใต้
หากเริ่มที่กระทำทางทิศตะวันออกหรือตะวันตกซึ่งเป็นทิศที่เป็นมงคล
จะก่อเกิดโชคลาภ นำมาซึ่งความกลมเกลียวและอำนาจ ส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือ...
จะนำมาซึ่งความเจ็บป่วย ให้นำของตกแต่งที่เป็นโลหะวาว ๆ
หรือน้ำเต้ามาประดับไว้ทางทิศนี้ เพื่อป้องกันดาวโรคภัยมิให้รุกราน
หากหันทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะต้องระวังเรื่องไฟ
และการใช้ความรุนแรง
ทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศใต้
...มีพลังร้ายทำให้เกิดการวิวาทบ่อยครั้งทางบ้านและที่ทำงานซึ่งหันหน้าไป ทางทิศใต้
ให้จัดวางโคมไฟแดงไว้จะช่วยปรับปรุงธุรกิจและก่อเกิดความสามัคคีที่บ้านและ ที่ทำงาน
จะต้องให้ความใส่ใจกับบริเวณท่าเรือเนื่องจากอาจบังเกิดวิบัติภัยแบบไม่คาด
ฝันจากมนุษย์ได้
สศช.ชี้เศรษฐกิจเริ่มสร่างไข้
ได้ยินได้ฟังสารพัดโหรฟันธง เชื่อว่า หลายคนคงรู้สึกหดหู่ไม่น้อย แต่การพยากรณ์
ผ่านตำราโหราศาสตร์ ถือเป็นทฤษฎีที่กำหนด ขึ้น
เพื่อใช้เป็นหลักในการพยากรณ์เท่านั้น อาจเกิดขึ้น หรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ และให้ครอบ
คลุมในการพยากรณ์เศรษฐกิจปีขาล ต้องฟังเสาหลักสำคัญเศรษฐกิจของประเทศ อย่าง
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ออกมาหักธงโหรว่า
เศรษฐกิจปีเสือจะฟื้นตัวจนสามารถขยายตัวได้มากถึงระดับ 3-4% แน่นอน
เพราะอย่างแรกในปี 52 ตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังคงหดตัวติดลบที่ไม่เกิน 3%
ซึ่งเป็นฐานที่ต่ำเมื่อนำมาคำนวณทางตัวเลขแล้วในปี 53 เศรษฐกิจไทยต้องขยายตัวแน่
ๆ
ขณะเดียวกันยังได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัว
ขณะที่รัฐบาลได้ใช้นโยบายกระตุ้นการลงทุนจากแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเป็น
แรงจูงใจเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนของเอกชนมาก
ขึ้นและนำไปสู่การบริโภคในประเทศโดยรวมขยับตามขึ้นไปด้วย ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวได้
2.5% จากที่ยังหดตัวในปี 52 ที่ติดลบ 0.2% ส่วนการลงทุนโดยรวมน่าจะขยายตัวได้ที่
3.8% จากที่ติดลบมากถึง 8.6% การส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐเพิ่ม 10% การนำเข้าขยายตัว
18.5% ทำให้เกินดุลการค้าประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ
2.5-3.5%
แต่ไม่ว่า สศช. จะประมาณการภาวะเศรษฐกิจในปีหน้าว่าเติบโตได้สวยหรูเพียงใด
แต่ก็มีเงื่อนไขสำคัญว่านโยบายเศรษฐกิจต้องมีความต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการลงทุน 8
แสนล้านบาท ของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่และมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ
จนถึงขนาดที่ อำพน กิตติอำ พน เลขาธิการ สศช.
ต้องออกมาเปรยว่า
เราไม่มีเวลาพอให้กับการเปลี่ยนแปลงหรือความขัดแย้งทางนโยบายเศรษฐกิจอีก แล้ว
นั่นหมายความว่าเหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศต้องสงบ ไม่มีความวุ่นวายร้ายแรง
ไม่เช่นนั้นเราจะสูญเสียโอกาสจากการที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวจนทำให้
เศรษฐกิจไทยไม่มีโอกาสขยายตัวได้อีกต่อไป ดังนั้นรัฐบาลต้องเป็นแกนนำในการลงทุน
เพื่อก่อให้เกิดความเชื่อมั่นหลังจากนั้นเอกชนก็จะลงทุนตามมาเอง
รวมทั้งรัฐบาลต้องเร่งเคลียร์ปัญหาในมาบตาพุดให้จบโดย
เร็วด้วย
เปิดโผธุรกิจรุ่ง-ร่วง
สำหรับอุตสาหกรรมดาวรุ่ง
และดาวร่วงที่ สำนักงานรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สำรวจไว้
โดยแบ่งออกเป็น กลุ่มเอ เขตเติบโต เป็นธุรกิจที่ไปโลด เพราะมีรายได้ดี ผลตอบแทนสูง
และมีความสามารถชำระหนี้ได้ เช่น เยื่อกระดาษ กระดาษ และผลิตภัณฑ์
สิ่งพิมพ์เคมีภัณฑ์ เครื่องดื่ม บริการทางการเงิน ส่วน กลุ่มบี เป็นกลุ่มที่มีอนาคต
อยู่ในภาวะฟื้นตัวเข้ามาอยู่ในระดับปกติแล้ว เช่น เหล็ก โลหะ เครื่องจักรกล
เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์
ขนมอบกรอบ ผลิตภัณฑ์น้ำตาล ยาสูบ ยาสมุนไพร บริการโลจิสติกส์ บริการไปรษณีย์
และโทรคมนาคม บริการที่ปรึกษา บริการอำนวยการ บริการวัฒนธรรม บันเทิง กีฬา
ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง กลุ่มซี เขตเฝ้าระวัง สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม หนัง
ผลิตภัณฑ์พลาสติก แป้ง บริการก่อสร้าง โรงแรม ภัตตาคาร บริการให้เช่าสินทรัพย์
บริการเสริมสร้างสุขภาพ สปา
กลุ่มดี เขตเฝ้าระวังพิเศษ
ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องผลตอบแทนต่ำ และมีการแข่งขันรุนแรง
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ แก้ว และเซรามิก
เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุด
สุดท้ายขอย้ำว่า การพยากรณ์เศรษฐ กิจเป็นการคาดคะเนล่วงหน้า
อาจเกิดขึ้นจริง หรือไม่จริงก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าหลงเชื่องมงายจนเกินเหตุ
ในทางกลับกัน การทำนายทายทักล่วงหน้า ก็เพื่อให้ทุกคนเดินหน้าอย่างระมัดระวัง
ที่สำคัญต้องตั้งสติรับมือแก้ปัญหา ขอให้ปีขาลครั้งนี้ เป็นปีเสือทองร่ำรวย
เงินทอง ร่ำรวยความสุขสำหรับทุกคน.
ดวงชะตาปี 2553 ดูดวงประจำวัน ดูดวงรายวัน
จิตวดี เพ็งมาก ที่มา www.dailynews.co.th