พระปิดตามหาอุด หลวงปู่จัน วัดโมลี อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

พระปิดตามหาอุดแร่บางไผ่ หลวงปู่จัน วัดโมลี ที่บริเวณคลองบางคูรัด ตำบลบ้านใหม่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เป็นสถานที่ซึ่งหลวงปู่จัน แห่งวัดโมลี ตำบลบางรักใหญ่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ได้พบแร่เหล็กลักษณะคล้ายก้อนหินกรวด สีแดงอมน้ำตาล ต่อมาได้เรียกขานกันว่า "แร่บางไผ่" โดยหลวงปู่จันเริ่มนำแร่บางไผ่มาสร้างพระปิดตาเมื่อปี พ.ศ. 2445

พุทธคุณพระปิดตาแร่บางไผ่นี้คนโบราณเชื่อว่าเป็นแร่ที่มีคุณวิเศษอยู่ในตัวเอง เคยมีผู้นำก้อนแร่บางไผ่ถักหุ้มด้วยลวดทองแดงมาแขวนคอ บางคนก็ใช้ผ้าขาวห่อพกติดตัว เชื่อว่าทำให้อยู่ยงคงกระพันแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวงได้ แร่บางไผ่เปรียบเสมือนขี้ของเหล็กไหล บางคนก็ว่าเป็นคด เล่าสืบกันมาว่า เมื่อหลวงปู่จันได้แร่บางไผ่มาสร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ ท่านได้นำมาใส่ตุ่มแช่น้ำเพื่อไม่ให้แร่เหล็กซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญอยู่ในก้อนแร่บางไผ่หนีไป เลี้ยงด้วยน้ำคาวปลา (น้ำล้างปลา) เพื่อให้แร่เจริญเติบโต โดยมีความเชื่อว่าแร่บางไผ่นั้นเสมือนสิ่งมีชีวิตสามารถกินอาหาร (น้ำคาวปลา เศษเนื้อ เศษหมู) ได้เลี้ยงไว้ได้และตายได้ ถ้านำก้อนแร่บางไผ่แช่น้ำไว้ แร่จะยังมีเนื้อแร่เหล็กอยู่ แต่ถ้านำไปผึ่งแดด แร่บางไผ่ก็จะตาย แร่เหล็กที่อยู่ในเนื้อแร่จะหายไป ก้อนแร่ที่เหลือจะเหมือนกับก้อนอิฐก้อนหินธรรมดา นำไปสร้างพระปิดตามหาอุดหรือพระปิดทวารทั้ง 9 พระแร่บางไผ่ไม่ได้ การหลอมแร่ถ้าหลอมนานเกินไป หรือใช้ไฟแรงเกินไป แร่เหล็กจะหายไปหมด คงเหลือแต่ขี้แร่ มีลักษณะเหมือนขี้เหล็กอ๊อก ซึ่งแม่เหล็กไม่สามารถดูดได้ ถ้าหลอมต่อไปนานมากขึ้น แร่จะติดไฟได้เหมือนน้ำมันแล้วระเบิดหายไปในอากาศ ไม่มีอะไรเหลือแม้แต่ขี้แร่

พระปิดตาแร่บางไผ่ สำหรับวัดโมลีถิ่นกำเนิด "แร่บางไผ่" จากหนังสือ "ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร" เล่มที่ 2 ที่กองพุทธศาสนสถาน กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ได้ตีพิมพ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2526 ให้ข้อมูลไว้ว่า วัดโมลี ตั้งอยู่เลขที่ 1 คลองอ้อมนนท์ หมู่ที่ 14 ตำบลบางรักใหญ่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ประมาณ 12 ไร่ อาณาเขตทิศเหนือยาว 80 วา ติดต่อกับที่ดินนายเหว่า ทิศใต้ยาว 75 วา ติดต่อกับที่ธรณีสงฆ์วัดโมลี ทิศตะวันออกยาว 65 วา ติดต่อกับคลองอ้อมนนท์ ทิศตะวันตกยาว 80 วา ติดต่อกับที่นายไพศาล เทียนทอง ที่ธรณีสงฆ์จำนวน 6 แปลง รวมเนื้อที่ 118 ไร่ 2 งาน 35 ตารางวา โฉนดเลขที่ 6779, 1788, 6681, 4852 พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบต่ำมีอาคารเสนาสนะดังนี้ อุโบสถกว้าง 9.13 เมตร ยาว 24 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2468 ลักษณะทรงไทย หลังคาสองชั้น มุงกระเบื้องเคลือบ บานประตูหน้าต่างแกะสลักลายไทยปิดทองล่องชาด มีภาพวาดภายในอุโบสถเรื่อง พระเวสสันดรชาดก อายุประมาณ 60 ปี ศาลาการเปรียญกว้าง 13.60 เมตร ยาว 32 เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ทรงไทย มีช่อฟ้าใบระกา หน้าบันปิดทองประดับกระจกสี หอสวดมนต์เป็นอาคารไม้ทรงไทย กุฎีสงฆ์จำนวน 12 หลัง เป็นเรือนทรงไทยโบราณ ฝาไม้สัก 6 หลัง อาคารไม้ทรงปั้นหยา 2 ชั้น 1 หลัง นอกจากนี้ยังมีพุทธวิหาร ฌาปนสถาน และหอเรียนพระปริยัติธรรม สำหรับปูชนียวัตถุ มีพระประธานนามว่า "หลวงพ่อพุทธวิหาร" บุทองทั้งองค์

วัดโมลีสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ ประมาณ พ.ศ. 2375 เดิมชื่อ "วัดใหม่สุวรรณโมลี" สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จตรวจการณ์คณะสงฆ์มาในถิ่นนี้ ทรงเห็นว่าชื่อยาวเกินไปจึงทรงประทานเปลี่ยนให้ใหม่ว่า "วัดโมลี" ข่าวพระเครื่อง ประวัติพระปิดตา พระปิดตาแร่บางไผ่ตอนจบ
คอลัมน์ มุมพระเก่า สรพล โศภิตกุลหนังสือพิมพ์ :