หลวงพ่อเอิบ วัดหนองหม้อแกง

ตะกรุดขุนแผนสะกดทัพ หลวงพ่อเอิบ วัดหนองหม้อแกง

ส่วนผู้ที่เราปรารถนาผูกมิตรด้วยเป็นตะกรุดดอกที่มีผงสีขาว การม้วนตะกรุดแฝดก็มีอุปเท่ห์ที่จะทำให้ขลังยิ่งขึ้น หลวงพ่อเอิบรู้ดีจึงต้องม้วนตะกรุด 2 ดอก ให้เข้าหากันโดยไม่มีรูป ไม่มีรอยให้เห็น ม้วนตะกรุด 2 ดอก ให้กินกัน ให้กลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งด้านในและด้านนอก คล้ายม้วนใจ ม้วนกายผู้ที่เราปรารถนาให้กินกัน กลืนกันกับเรา เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเรา ทั้งกายและใจ

เรื่องแปลกแต่จริงแค่ หลวงพ่อเอิบยกตะกรุดขุนแผนสะกดทัพที่จารแล้ว ม้วนแล้ว และอุดผงแล้วมาไว้ที่หน้าท่าน โดยที่ท่านจะต้องปลุกเสกอัดพลังอีกครั้งหนึ่ง ตามตำรา "โยมปะขาว" จากกาญจนบุรี มือซน คนจริง เอื้อมมือมาหยิบตะกรุดในพานดูถึงกับสะดุ้ง เพราะมีอาการคล้ายไฟชอร์ตชาตั้งแต่ปลายนิ้วจนถึงต้นแขน สะดุ้งสุดตัวถึงกับตกเก้าอี้ มีอาการแน่นหน้าอก ดีที่ญาติรีบพยุงลุกขึ้นได้ทัน

ตะกรุดขุนแผนสะกดทัพ เป็นตะกรุดแฝด ดอกหนึ่งคือผู้ใช้ ซึ่งเป็นดอกที่มีผงสีดำอุดอยู่ด้านในอยู่ติดกับตลอด อยู่เคียงกันทุกเวลา อยู่คู่กันตราบนานเท่านาน กับตะกรุดอีกดอกหนึ่งซึ่งมีผงสีขาวอุดอยู่ด้านใน หลวงพ่อเอิบท่านลงยันต์ไว้ในตะกรุดทั้งสองดอก และจะอุดผงไว้ในตะกรุด

วิธีใช้ตะกรุดขุนแผนสะกดทัพ
เคล็ดวิธีการใช้ตะกรุดขุนแผนสะกดทัพ มีอยู่ จะบอกให้รู้ในถุงตะกรุด และตราบใดที่ตะกรุด 2 ดอกอยู่คู่เคียงกันไปอย่างนี้ ทั้งเวลากิน และเวลานอน ทั้งเวลาตื่นและเวลาหลับ ในทุกทิวาและราตรี ตะกรุดไม่มีเสื่อม ไม่มีลดความขลัง จะใช้ในทางใดอธิษฐานดังๆ ในใจแล้วใช้ทันที โชคดีจะเป็นของคนที่เชื่อมั่น ไม่มีหวั่นไหว ไม่มีลังเล เพราะตะกรุดดีเหมือนหม้อแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟจนเต็ม

หลวงพ่อเอิบ จะนำปัจจัยที่ได้จากการบูชา "ตะกรุดขุนแผนสะกดทัพ" ไปเปลี่ยนเป็นค่าเหล็ก ค่าช่าง ค่าอุปกรณ์ก่อสร้างซึ่งกำลังขาดอยู่ เพราะตอนนี้วัดหนองหม้อแกง ได้รื้อส่วนบนหลังคาปฏิบัติธรรมหลังเก่าที่เป็นเครื่องไม้ และสังกะสีออกแล้ว และใช้โครงสร้างเหล็ก และกระเบื้องปูแทน ปัจจัยที่ได้รับ ตั้งแต่รุ่นหัวชะมด พระลักษมณ์หน้าทอง และปลาชะโด ท่านเอาไปใช้สร้างวัดจนหมดสิ้น

"ตะกรุดขุนแผนสะกดทัพรุ่นแรก" หลวงพ่อเอิบทำอย่างดี ร่วมทำบุญบูชาตะกรุดคู่ละ 300 บาท ติดต่อบูชาได้ที่วัดหนองหม้อแกง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เดินทางสายเอเชีย ข้ามสะพานแม่น้ำเจ้าพระยา สะดวกที่สุด
ที่มา...หนังสือพิมพ์ข่าวสด  คอลัมน์ หลังเลนส์ส่องพระ เอกอุ