พระพุทธรูปปางประสูติ

พระพุทธปฏิมา ปฐมบรมศาสดาโลก (ปางประสูติ) พระปางประสูติ หรือ พระพุทธรูปปางประสูติ เป็นปางพระพุทธรูปที่เกิดขึ้นจากเมื่อครั้งที่พระบรมโพธิสัตว์สุติจากดุสิต เทวโลก ประสูติในอิริยาบถยืนหันพระพักตร์ไปทางเหนือ เสด็จย่างพระบาทไป ๗ ก้าว มีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ ๗ ดอก แล้วทรงกล่าว อาสภิวาจาว่า “เราเป็นผู้เลิศที่สุดในโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้การเกิดใหม่มิได้มี” หลังเสด็จปฏิสนธิในพระครรภ์ พระนางสิริมหามายา อัครมเหสีของ พระเจ้าสุทโธทนะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ และ พระนางสิริมหามายาทรงพระครรภ์แก่ ได้ให้ประสูติพระโอรส ณ โคนต้นสาละ ลุมพินีวัน ซึ่งอยู่ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์ และกรุงเทวทหะ ระหว่างเสด็จกลับไปคลอดที่กรุงเทวทหะ ซึ่งเป็นบ้านเกิด ในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ วันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีจอ ก่อนพระพุทธศักราช ๘๐ ปี ในเวลาใกล้เที่ยง พระพุทธปฏิมา ปฐมบรมศาสดาโลก (ปางประสูติ) หรือ พระพุทธรูปปางประสูติ จึงได้ถือกำเนิดเป็นรูปเคารพขึ้นเป็นครั้งแรก ณ ลุมพินีวัน (ทุกวันนี้อยู่ในอาณาเขตประเทศเนปาล) อันเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธองค์

ต่อมาพระพุทธรูปปางนี้ได้เผยแพร่เหลายเข้ามายังเมืองไทยเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ด้วยความเชื่อที่มีมานานแล้วว่า ผู้ที่ได้บูชา พระพุทธรูป ปางประสูติ จะเป็นผู้ได้เริ่มต้นชีวิตอันเจริญรุ่งเรือง เพราะปางประสูติ ถือเป็นอากัปกิริยาเริ่มแรกของพระพุทธเจ้านั่นเอง ด้วยเหตุนี้ ผู้บริหารตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ ดอนเมือง จึงได้จัดสร้าง พระพุทธรูปปางประสูติ ขึ้นมาเพื่อหาทุนร่วมสร้าง กุสินาราคลินิก สถานพยาบาลแห่งแรก ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ รัฐอุตระประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย พุทธสถานแดนปรินิพพานของพระพุทธองค์ อันเป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาในดินแดนพุทธภูมิมหามงคล ซึ่งเป็นสถานที่ก่อเกิดพระพุทธศาสนา  รวมทั้งยังเป็นการสนับสนุนกิจกรรมบำเพ็ญมหากุศลต่อสาธารณประโยชน์แก่ มนุษยชาติ และเป็นศูนย์กลางการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีงามของประเทศไทยและอินเดีย โดยมีกิจกรรมเพื่อการกุศลนี้เป็นสื่อกลางสืบไป

พระพุทธปฏิมาปฐมบรมศาสดาโลก (ปางประสูติ) สร้างขึ้นโดยใช้มวลสารจากเมืองเทวทหะ ๓ แห่ง ที่ซึ่งพบรอยพระพุทธบาท อันได้แก่ ดินสถานที่ประสูติ (ลุมพินี), ดินเมืองกบิลพัสด์ (วัดนิโครธาราม) เมืองพุทธบิดา และดินเมืองเทวทหะ (รามคามสถูป) เมืองพุทธมารดา โดยได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกมวลสาร ณ อุโบสถ วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล โดยสามเณร ๑๒ รูป ๑๒ ราศี ซึ่งเป็นผู้มีเชื้อสายศากยะ (เชื้อสายพระพุทธทเจ้า) เจริญพระพุทธมนต์ อัญเชิญมวลสาร ณ ชาตสถานอุทยานลุมพินีวัน ประเทศเนปาล โดยพระสงฆ์นานาชาติ ๙ ประเทศ ได้แก่ ไทย, เนปาล, ศรีลังกา, กัมพูชา, พม่า, เยอรมนี, จีน, เกาหลี, ทิเบต รวม ๑๙ รูป เจริญพระพุทธมนต์ ต่อมาได้มีพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปพระพุทธปฏิมาฯ โดยท่านเจ้าคุณ พระราชรัตนรังษี เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล เป็นประธาน ณ ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ ดอนเมือง และจัดประกอบพิธีเบิกเนตร พร้อมทั้งพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ใต้ฐานองค์ พระพุทธรูปปางประสูติ ได้บรรจุมวลสารจากเมืองเทวทหะ ๓ แห่งดังกล่าว พร้อมทั้งตอกโค้ดหมายเลขตามลำดับที่องค์พระทุกองค์ และพระทุกองค์จะมีใบประกาศนียบัตรกำกับให้ด้วย

พระพุททรูปปางประสูติ ที่จัดสร้างขึ้นนี้ ประกอบด้วย  ๑.ขนาดบูชา สูง ๑๙ นิ้ว เนื้อทองเหลืองรมสีเม็ดมะขาม จำนวนสร้าง ๑๑๙ องค์ บูชาองค์ละ ๑๗,๙๗๙ บาท  ๒.ขนาดบูชา สูง ๙ นิ้ว เนื้อทองเหลืองรมสีเม็ดมะขาม จำนวนสร้าง ๒๒๙ องค์ บูชาองค์ละ ๗,๙๗๙ บาท  ๓.ขนาดห้อยคอ สูง ๓ ซม. เนื้อทองคำ จำนวนสร้าง ๗๙ องค์ พร้อมกล่องไม้ และหนังสือประวัติการสร้าง บูชาองค์ละ ๓๗,๙๗๙ บาท  ๔. ขนาดห้อยคอ สูง ๓ ซม. เนื้อเงิน จำนวนสร้าง ๓,๐๙๙ องค์ พร้อมกล่องไม้ และหนังสือประวัติการสร้าง บูชาองค์ละ ๓,๙๗๙ บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ ดอนเมือง โทร.๐-๒๙๗๒-๓๔๐๕ -๗ ต่อ ๓๐๑๖ โทรสาร ๐-๒๙๗๒-๓๔๐๙  หรือโอนเงินทำบุญผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาสะพานใหม่ - ดอนเมือง บัญชีสะสมทรัพย์ เลขที่บัญชี ๑๓๔-๗๒๒-๖๕๕-๕  ชื่อบัญชี “ร่วมสร้างสถานพยาบาลกุสินาราเฉลิมราชย์”

"สถานพยาบาลกุสินารา" คลินิกเพื่อการกุศล สถานพยาบาลกุสินาราคลินิก ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ โดยการร่วมมือจากสถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงนิวเดลี มูลนิธิฮาร์นามซิงห์ ฮารบันส์ กอร์ และคณะกรรมการมูลนิธิวัดไทยกุสินารา โดยเริ่มจากมุมเล็กๆ ภายในวัด เปิดทำการมากว่า ๖ ปี โดยรักษาคนไข้เป็นการกุศล ทั้งชาวอินเดียท้องถิ่น ชาวพุทธไทยและนานาชาติ รวมแล้วกว่าสามแสนราย

ต่อมาเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๘  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ ทรงประกอบพิธีวางแผ่นศิลาฤกษ์ อาคารโรงพยาบาลหลังแรก ขนาด ๓๕ เตียง โดยได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ และเปิดทำการเรียบร้อยแล้ว  และในขณะนี้ กำลังก่อสร้างอาคารหลังที่ ๒  ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี ๒๕๕๒ นี้ ซึ่งจะได้ยกระดับขึ้นเป็น กุสินาราโพลีคลินิก แบบครบวงจร คือ มีอาคารพยาบาล ๒ ชั้น ๑๖ ห้องตรวจ ห้องจ่ายยา ห้องเอกซเรย์ ห้องตรวจเลือด ห้องสุขา ที่รอการตรวจ ศาลาไทย ที่ปฏิบัติวิปัสสนาบรรยายธรรมรักษาผู้ป่วยด้วยธรรมเภสัช อาคารที่พักรักษาผู้แสวงบุญ พระมหาเถระ และฆราวาส ๑๖ ห้อง รวมทั้งห้องจัดเตรียมภัตตาหาร และเครื่องอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ ที่สมบูรณ์ ซึ่งจะได้บริการผู้ป่วยไข้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างกว้างขวางขึ้นต่อไป ข่าวพระเครื่อง
ที่มา...http://www.komchadluek.net/ "บุญนำพา"