"พระบรมสารีริกธาตุ" คือ พระธาตุส่วนย่อยที่บังเกิดแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยเฉพาะ มิได้เป็นคำที่ใช้เรียก พระธาตุของพระอรหันตสาวก หรือพระธาตุเจดีย์ต่างๆ (บางทีอาจใช้คำว่า "พระบรมธาตุ" หรือ "พระสารีริกธาตุ" แทนได้)

"พระธาตุ" คือ กระดูก หรือ ส่วนของร่างกายต่างๆ เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง โลหิต ฯลฯ ที่มีคุณลักษณะเป็นที่แตกต่างจากสามัญชนทั่วไป โดยมีลักษณะคล้าย ' ธาตุ ' ซึ่งหากมองโดย ไม่สังเกตให้ดีแล้ว ก็คล้าย กรวด หิน แก้ว เพชร ฯลฯ

คำว่า พระบรมธาตุ และ พระธาตุ ยังอาจใช้หมายถึงพระสถูปเจดีย์ต่างๆได้อีกด้วย เช่น พระบรมธาตุไชยา พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุพนม ฯลฯ

พระบรมสารีริกธาตุ คือพระธาตุส่วนย่อยที่บังเกิดแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยเฉพาะ มิได้เป็นคำที่ใช้เรียก พระธาตุของพระอรหันตสาวก หรือพระธาตุเจดีย์ต่างๆ บางทีอาจใช้คำว่า พระบรมธาตุ หรือพระสารีริกธาตุ แทนได้ คุณลักษณะของพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุ ที่พบเห็นได้ทั่วไปใน ปัจจุบัน และได้รับการยอมรับจากพุทธศาสนิกชน และพระภิกษุสงฆ์โดยทั่วไป พบ ว่ามีลักษณะดังนี้ เช่น มีด้วยกันหลายสีตั้งแต่ใสดั่งแก้ว จนกระทั่งขุ่น สี ขาวดุจสีสังข์ สีทอง สีดำ สีชมพู สีแดง ฯลฯ 

มีหลากหลายรูปแบบได้แก่ ลักษณะเมล็ดข้าวสาร พันธุ์ผักกาด เมล็ดถั่วแตก แก้วใส ฯลฯ 

หากมีขนาดเล็กมักลอยน้ำได้ เมื่อลอยด้วยกันจะสามารถดึงดูดเข้าหากัน ได้ และลอยติดกันเป็นแพ สามารถมาเพิ่มจำนวนขึ้น หรือลดลงได้เอง ซึ่งเป็น ลักษณะเฉพาะของพระธาตุ เปลี่ยนขนาดและสีสันเองได้ เป็นต้น

ส่วน พระธาตุ คือกระดูก หรือส่วนของร่างกาย ต่างๆ เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง โลหิต ฯลฯ ที่มีคุณลักษณะเป็นที่แตกต่างจาก สามัญชนทั่วไป โดยมีลักษณะคล้าย ธาตุหากมองโดยไม่สังเกตให้ดีแล้วก็คล้ายกรวด หิน แก้ว เพชร ฯลฯ

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของคำอธิบาย เรื่อง พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของนายทองดีหรรษคุณารมณ์ ประธาน มูลนิธิพระบรมธาตุในพระสังฆราชูปถัมภ์ ผู้ซึ่งรักษาศีล ๕ จนมีพระบรม สารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ เสด็จมาเองที่บ้านมากมายมหาศาล โดยเขาได้นำไป ถวาย สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อประทานแก่ผู้ศรัทธาอัญเชิญไปบรรจุตามเจดีย์ต่างๆแล้ว ๒๒๘ เจดีย์ และพระพุทธรูปกว่า ๕๐๐ องค์ ทั่วประเทศ

"พระธาตุจะเสด็จมาให้เห็นได้ บุคคลผู้นั้นต้องถือศีลพอสมควร ในค่ำ คืนที่พระธาตุเสด็จมานั้น ประมาณห้าทุ่ม ระหว่างสมาธิได้ยินเสียงพระสวดมนต์ แว่วๆ มา ในใจคิดว่าคงเป็นวัดหนึ่งวัดใดมีงานบุญ คงมีพระเป็นพันรูปสวด มนต์ รุ่งเช้าได้มาเปลี่ยนน้ำที่ถวายพระ ปรากฏว่าที่โถแก้ว และเจดีย์ที่ บูชา พบว่ามีพระบรมธาตุเสด็จมาเต็มโถ ผมดีใจยิ่งกว่าได้อะไรเสียอีก ผมเลย คิดได้ว่า จริงๆ การที่ท่านไม่เสด็จ เพราะว่าผมยังไม่มีศีล" นี่คืออานิสงส์ ของการถือศีล ๕ จากคำยืนยันของนายทองดี

อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมาถือศีล ๕ และปฏิบัติธรรมนั้น นายทองดียอม รับว่า มุ่งแต่ทำงานหาเงินอย่างเดียว ศีล ๕ ศีล ๘ ได้แต่รับ และทิ้งไว้ที่ บันไดวัดแล้ว ส่วนเรื่องการฟังเทศและปฏิบัติธรรมนั้น ไม่ต้องพูดถึง หากเข้า วัดไหว้พระเพื่อที่จะขอให้รวย ขอให้เฮงเฮง ขอให้ทำมาค้าขึ้นอย่างเดียวเท่า นั้น ทั้งนี้ จะเดินทางไปไหว้หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรี อยุธยา ทุกๆ ปี 

มี อยู่วันหนึ่งขึ้นรถตั้งใจจะฟังเพลงของเติ้ง ลี่ จิน เป็นนักร้องที่ชอบ มาก บังเอิญเทปที่หยิบเป็นเทปธรรมะ พอได้ฟังธรรมะท่านสอนดีมาก จากนั้นก็ฟัง ทุกวัน จนมีความศรัทธาในคำสอน 

ประมาณปี๒๕๒๐ ชวนภรรยาไปทัวร์ประเทศอินเดีย-เนปาล ซึ่งเป็นสถานที่ ประสูติของพระพุทธเจ้า โดยไปกราบสังเวชนียสถาน ๔ ได้แก่ สถานที่ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน

"ระหว่างเดินทางไปตามสถานที่ที่มีพระธาตุนั้น ผมจะได้ยินเสียง คล้ายคลื่นวิทยุอยู่ในหูตลอดเวลา ความรู้สึกคิดว่า ด้านในเจดีย์ต้องมีพระ ธาตุ แต่ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่รู้นั้น เป็นพระธาตุจริงหรือไม่ เพราะไม่เคยรู้ มาก่อน จากการศึกษาพบว่า พระธาตุต่างๆ เหล่านี้ จมดินจมทรายหมด สมัยพระเจ้า อโศกมหาราช ได้อัญเชิญพระธาตุออกมาบรรจุสร้างเจดีย์ ๘๔,๐๐๐ องค์ ทุกครั้งผม จะยกมือไหว้ จนคนที่ไปเที่ยวนั้นกล่าวหาว่าผมบ้า หรือเพี้ยนไปแล้ว" นายทอง ดีกล่าว 

พร้อม กันนี้นายทองดียังเล่าให้ฟังด้วยว่าวันหนึ่งได้เดินทางไปทำธุระที่เชียงใหม่ ระหว่างทางได้แวะกินข้าวที่กำแพงเพชร เลยเข้าไปดูเจดีย์ช้างล้อม ปรากฏ ว่า สภาพเจดีย์มีความทรุดโทรมอย่างมาก ทั้งๆ ที่ศาสนาพุทธในเมืองไทยถือว่า รุ่งเรือง แต่เจดีย์ช้างล้อมอายุประมาณ ๗๐๐ ปี กลับไม่มีการบูรณะ จึงก้มลง กราบพร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานว่า 

"พระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ ที่อยู่ในที่ไม่อันควรทั้ง หลาย ขอให้ไปอยู่ที่บ้านลูก ลูกจะอัญเชิญไปประดิษฐานยังที่อันควรให้เอง ลูก จะทำงานชิ้นนี้ให้"

เมื่อขับรถถึงเชียงใหม่ในคืนนั้นนอนแล้วฝันว่า พระธาตุ มาที่บ้านเยอะมาก แม้จะเป็นเพียงความฝัน แต่กลับรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ฝัน นั้นต้องเป็นเรื่องจริง ดังนั้นเมื่อกลับถึงบ้านที่คลองสาน จึงไปซื้อโถ และ เจดีย์มาวางบนผ้าขาวตั้งบูชาอยู่เป็นแรมเดือน ไม่มีวี่แววว่าพระบรมธาตุจะ เสด็จมา กระทั่งวันวิสาขบูชามาถึง ได้ชวนกันไปถือศีลกินเจ นั่งสมาธิ คุยกับ ภรรยา ถ้าวันนี้เราตายไป ยมบาลถามว่า ทองดีมีศีล ๕ กี่วัน เชื่อไหมว่า เกิด มาจนเข้าวัยกลางคนแล้ว คงไม่กล้าที่จะตอบยมบาลเป็นแน่แล้ว เพราะจะให้ ตอบอย่างไรว่า เคยถือศีล ๕ กี่วัน ตรงนี้จึงตัดสินใจต้องถือศีล ๕ ให้เคร่ง สักวันหนึ่ง พรุ่งนี้ตายไปยมบาลถามเรา ถึงจะกล้าตอบได้มีศีล ๕ มา แล้ว ๑ วัน แต่ถ้าวันนี้ต้องตายไป ผมก็กล้าที่จะตอบยมบาลว่า ถือศีล ๕ และ ปฏิบัติธรรมานับวันไม่ถ้วนแล้วครับท่าน

จากนั้นพระบรมธาตุก็เสด็จมาทุกวัน ทั้งนี้ ได้ไปซื้อโถแก้ว และเจดีย์มาเพิ่มเรื่อยๆ ต่อมามีโอกาสเข้ากราบสักการะ สมเด็จพระญาณสังวร(ตอน นั้นยังไม่ได้สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช) ได้กราบนมัสการถึงประวัติของพระ ธาตุองค์ต่างๆ พร้อมทั้งกราบนมัสการท่านว่า พระธาตุเหล่านี้ได้เสด็จมาที่ บ้าน เจ้าประคุณสมเด็จมีความสนใจมาก จึงเสด็จมาทอดพระเนตรพระธาตุที่ บ้าน จึงขอพระอนุญาตปรึกษากับท่านว่า อยากจะนำพระธาตุเหล่านี้ไปบรรจุใน เจดีย์ หลังจากนั้นเจ้าประคุณสมเด็จได้ประทานพระธาตุแก่ผู้ศรัทธาอัญเชิญไป บรรจุตามเจดีย์ต่างๆ กว่า ๒๐ ปี บรรจุพระบรมธาตุไปแล้ว ๒๒๘ เจดีย์ พระพุทธ รูปกว่า ๕๐๐ องค์ ทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะถือศีล ๕ และปฏิบัติธรรมมาอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่นายทองดีบอกว่า ไม่อาจลบล้างได้ คือ กรรมพร้อม กับเล่าว่าครั้งหนึ่งได้ขับรถไปเพื่อจะนำพระพุทธรูปไปถวายเป็นพระประธานใน โบสถ์แท้ๆ ที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่มิวายต้องประสบอุบัติเหตุ เสียก่อน ระหว่างทางรถเกิดอุบัติเหตุหมุนไปกระแทกกับรถสิบล้อขาหัก ส่งผลให้ เดินขาเป๋มาถึงทุกวันนี้ เหตุที่รอดตายมาได้นั้น เชื่อว่าส่วนหนึ่งเกิดจาก พระเครื่อง ๓ องค์ ที่แขวนติดตัว ทุกครั้งที่เดินทางออกต่างจังหวัด อีกส่วน หนึ่งน่าจะสำคัญยิ่งกว่า คือ การถือศีล๕ และปฏิบัติธรรม

เรื่อง / ภาพ ไตรเทพไกรงู
ที่มา... http://www.komchadluek.net/