ป๋อง สุพรรณ แชมป์แฟนพันธุ์แท้พระเครื่อง

      ผู้ที่เป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งของงานประกวดพระในวันนี้ก็คือ เสมอ งิ้วงาม หรือที่คนในวงการพระรู้จักกันดีในนาม "ป๋อง สุพรรณ" เลขานุการสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย, นายกสมาคมพระเครื่องเมืองสุพรรณ, สุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระเครื่อง ๒ ปีซ้อน (๒๕๔๕/๒๕๔๖) สุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระเครื่องแห่งปี ๒๕๔๖, เจ้าของนิตยสาร "อมตพระเครื่อง" และนิตยสาร "พุทธคยา" ฯลฯ ทุกวันนี้ ป๋อง สุพรรณ มีเว็บไซต์เกี่ยวกับพระเครื่องพระบูชาเป็นของตัวเอง ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางของคนในวงการพระขณะนี้ อนาคตบนเส้นทางสายนี้ของ ป๋อง สุพรรณ ยังคงสดใสต่อไปอีกนานเท่านาน เพราะเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์และจริงใจกับทุกคน มีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก รวมทั้งได้รับความเมตตาจากผู้หลักผู้ใหญ่ในทุกวงการด้วยดีเสมอมา

ประวัติป๋อง สุพรรณ บนเส้นทางที่ลำบากกว่าจะมาเป็น สุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระเครื่อง
 "ป๋อง สุพรรณ" เป็นคนสุพรรณโดยกำเนิด เกิดปี ๒๕๐๘ ตอนเด็กๆ ฐานะทางครอบครัวค่อนข้างลำบากมาก มีพี่น้องหลายคน จึงมีโอกาสได้เรียนหนังสือแค่ชั้น ป.๖ ก็ต้องออกมาทำงานหาเงินช่วยพ่อแม่ สารพัดงานที่รับจ้างทำ พอไม่มีงานอื่นทำก็ถีบสามล้อรับจ้างในตลาดสุพรรณ ต่อมาเป็นเด็กรถเมล์สายสุพรรณฯ-กรุงเทพฯ ต้องนอนกินบนรถ ชีวิตลำบากมาก จากนั้นไปทำงานเป็น "คนเก็บศพ" กับมูลนิธิร่วมบุญสุพรรณบุรี ป๋องบอกว่างานที่ทำนี้ชอบมาก เพราะได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยไม่มีความรังเกียจ หรือเบื่อหน่ายท้อแท้แต่ประการใด แม้ว่าเงินเดือนที่ได้รับก็เพียงน้อยนิด พอกินพอใช้ไปวันๆ เท่านั้นเอง ประมาณปี ๒๕๒๙ ขณะที่ป๋องอายุได้ ๒๑ ปี อนุศักดิ์ นาถกุลพัฒน์ (อ้า สุพรรณ) เซียนพระชื่อดังของเมืองสุพรรณ เห็นป๋องทำงานขับรถอยู่กับมูลนิธิ ก็เลยชวนให้ไปทำงานด้วย โดยให้เป็นคนขับรถให้ เพราะเฮียอ้าเดินทางต่างจังหวัดบ่อย โดยเสนอเงินมากกว่าที่เคยได้รับหลายเท่า เลยตัดสินใจไปอยู่กับเฮียอ้า เนื่องจากเฮียอ้าเป็นเซียนพระรุ่นใหญ่ มีการติดต่อซื้อขายพระอยู่เป็นประจำ พระที่มีอยู่ล้วนเป็นพระแท้ ทำให้ป๋องมีโอกาสได้เรียนรู้ไปด้วย

 อาศัยว่าคุณพ่อก็เป็นนักสะสมพระเครื่องเมืองสุพรรณมาก่อน ตอนเด็กๆ ป๋องจึงได้เห็นพระของคุณพ่อเป็นประจำ แต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก พอมาอยู่กับเฮียอ้า ได้พบเห็นพระเครื่องมากมาย โดยเฉพาะพระเมืองสุพรรณ ทำให้เกิดความสนใจขึ้นมาอย่างจริงจัง จึงได้เรียนรู้โดยดูจากพระของจริงอยู่เสมอ ทำให้จดจำพระพิมพ์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำพอสมควร 'ความซื่อสัตย์จริงใจเป็นสิ่งสำคัญสุด'

ป๋อง สุพรรณ แชมป์แฟนพันธุ์แท้พระเครื่อง ป๋อง บอกว่า"ผมติดตามเฮียอ้าไปดูพระตามที่ต่างๆ อยู่เป็นประจำ เพื่อหาซื้อพระ ทำให้มีโอกาสได้ดูพระทุกประเภท ทั้งพระราคาถูกราคาแพง พระแท้พระปลอม พระเก่าพระใหม่ ได้เรียนรู้วิชาการดูพระ วิธีเล่นพระ รู้ราคาพระ ต้องมีความรู้มีไหวพริบดี ที่สำคัญต้องมีความละเอียดอ่อนในการดูพระแต่ละองค์ นอกจากดูว่าเป็นพระแท้หรือไม่ ยังต้องดูว่าเป็นพระชำรุดอุดซ่อมหรือเปล่า หากซื้อผิดราคาก็ต้องขาดทุน ต้องระวังให้มากๆ สิ่งเหล่านี้เฮียอ้าสอนผมอยู่เสมอ พร้อมกับบอกผมว่า อย่าเล่นพระเก๊ รับรองว่าเงินในกระเป๋าจะมีเงินใช้ตลอดเวลา ผมจดจำคำพูดนี้ได้อย่างแม่นยำ จึงถือเป็นคติประจำใจในทุกวันนี้ และกลายเป็นโลโก้ของผมด้วยว่า เคยซื้อพระเก๊ แต่ไม่เคยขายพระปลอม เฮียอ้าถือเป็นครูคนแรกของผม ที่สอนให้ผมดูพระเป็นเล่นพระแท้ เฮียอ้าจึงเป็นคนสำคัญที่ผมต้องจดจำไปชั่วชีวิต" อยู่กับเฮียอ้า ๓ ปี จนสามารถเรียนรู้เรื่องพระได้มากพอสมควร ป๋องเห็นว่าอาชีพซื้อขายพระเป็นอาชีพที่สุจริต ที่ทำรายได้ดี ในบางครั้งถ้าสายตาแม่นยำจริงๆ ซื้อพระองค์ละไม่กี่พันบาทก็สามารถขายได้เป็นเงินหมื่นเงินแสน จึงขอกราบลาเฮียอ้าออกมาซื้อขายพระด้วยตนเองบ้าง ตอนแรกเฮียอ้ายังไม่อยากให้ออกไป บอกว่ายังไม่ถึงเวลา แต่เมื่อเห็นความตั้งใจจริงของผม ก็จำต้องยอม พร้อมกับอวยพรให้ประสบความสำเร็จ และยังบอกด้วยว่า หากทำแล้วไม่ไหว ก็ให้กลับมาใหม่ได้เสมอ

ป๋องบอกว่า "ตอนอยู่กับเฮียอ้า ผมเริ่มเก็บเงินได้บ้าง พอรายจ่ายไม่ค่อยมีมากนัก เพราะเฮียอ้าเลี้ยงผมดี พอออกมาแล้ว ผมก็เอาเงินทุนเล็กๆ น้อยๆ นั้นตั้งตัว โดยออกหาซื้อพระตามบ้านคนรู้จักกัน โดยเฉพาะเมืองสุพรรณ มีพระกรุพระเก่ามากมาย และผมก็พรรคพวกเยอะ จึงมีโอกาสได้ซื้อพระแท้ๆ เอาไว้พอสมควร เมื่อนำไปขายต่อก็ได้ราคา พอมีกำไรบ้าง ข้อสำคัญคือต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตและจริงใจกับทุกคน อันนี้ถือว่าเป็นจุดขาย ที่จะทำให้คนเชื่อถือเราได้ตลอดไป" หลังจากตระเวนหาซื้อพระไปตามจังหวัดต่างๆ มานานพอสมควร ได้เพื่อนน้องพี่ในวงการพระเป็นพวกมากมาย ทำให้มีโอกาสเปิดร้านพระเป็นของตัวเองบนห้างบางลำภู งามวงศ์วาน (ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ในทุกวันนี้) ด้วยความเมตตาของ พี่พยัพ คำพันธุ์ และ พี่ต้อย เมืองนนท์ เป็นคนชักชวนมาให้เปิดร้านบนนี้ ชื่อร้าน "ป๋อง สุพรรณ" จนถึงทุกวันนี้ และด้วยความรู้ความสามารถรอบด้านในเรื่องเกี่ยวกับพระเครื่อง ทำให้ ป๋อง สุพรรณ ได้รับรางวัล

จากจุดนี้ทำให้ชื่อเสียง ป๋อง สุพรรณ โด่งดังไปทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะแต่ในแวดวงพระเครื่องเท่านั้น และยังเป็นบุคคลตัวอย่างที่คนหนุ่มรุ่นใหม่ ใฝ่ฝันอยากจะเป็นอย่าง ป๋องสุพรรณ ให้ได้เหมือนกัน บนเส้นทางสายนี้ ยังมีอีกยาวไกล อาชีพซื้อขายพระยังมีอนาคตสดใสไปอีกนาน เพราะคนรุ่นใหม่สมัยนี้หันมาให้ความสนใจในการสะสมพระเครื่องกันมากขึ้น นักธุรกิจใหญ่ๆ ข้าราชการทุกระดับ รัฐมนตรี นักการเมือง ฯลฯ ล้วนสนใจสะสมพระเครื่องกันมากขึ้น ไม่ว่าจะสะสมด้วยเห็นว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ของเก่า หรือจะสะสมเป็นหลักทรัพย์เพื่อเก็งกำไรก็ตาม วงการพระจะไม่มีวันซบเซาอย่างแน่นอน ที่สำคัญสุดๆ คือ ความซื่อสัตย์สุจริตและจริงใจต่อกันจะทำให้สามารถยืนอยู่ในวงการนี้ได้ตลอดไป" ป๋องกล่าวในตอนท้าย

 
 ป๋อง สุพรรณ แขวนพระเครื่อง ติดตัวนับร้อยองค์

ป๋อง สุพรรณ สุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระเครื่อง
ป๋อง สุพรรณ เป็นฉายาของ นายเสมอ งิ้วงาม สุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระเครื่อง ในฐานะเลขานุการสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ก่อนออกจากบ้านไปทำงานจะต้องปลุกเสกท่องคาถาต่างๆ ให้เรียบร้อยเสียก่อน ใครเลยจะรู้ว่าเขาแขวนพระเครื่องในคอนับสิบองค์ บริเวณใต้ราวนมทั้งสองข้างยังมีถุงพระเครื่องอีกหลายสิบองค์ ขณะเดียวกันยังมีเครื่องรางอยู่ในกระเป๋ากางเกงอีกนับสิบ เมื่อมาถึงร้าน ป๋อง สุพรรณ จะต้องไหว้ปู่ฤาษี พ่อแก่ พระอุปคุต ที่ถือเป็นครูบาอาจารย์ ป๋อง สุพรรณ บอกว่าพระเครื่องที่แขวนติดอยู่นี้มีมากมายเป็นร้อยองค์ ถ้ารวมเครื่องรางต่างๆ แล้วก็เป็นร้อยองค์เหมือนกันใครว่าองค์ไหนดีก็จะเอามาแขวนติดตัว พระเครื่องที่อยากให้เห็นวันนี้เป็น พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ที่อยู่ในชุดเบญจภาคีโด่งดัง องค์นี้พบตอนเปิดกรุเมื่อปี ๒๔๕๖ มีใบลานทองจารึกไว้เลยว่า ลายนิ้วมือที่ประทับเอาไว้ด้านหลังพระจากผู้ที่สร้างคือ พระมหาเถระปิยทัสสะสีศรีสารีบุตร ในรัชกาลของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ ที่เขียนเอาไว้ว่า ใช้อย่างไง ต้องสวดพาหุงกี่จบ

ป๋อง สุพรรณ พระองค์นี้เป็นพระศิลปะอู่ทอง สร้างจากเนื้อดินผสมว่านเกสรดอกไม้ เป็นพระเครื่องอันดับหนึ่งของกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี จัดอยู่หนึ่งในห้าของชุดเบญจภาคี ขอบข้างของพระผงสุพรรณทุกองค์มีรอยตอกตัด แทบทุกองค์จะมีราดำจับที่เรียกว่า "รารัก" และมีว่านดอกมะขามเป็นส่วนใหญ่ ส่วนด้านพุทธคุณนั้น เป็นยอดทางอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด มหาอุด เมตตามหานิยม และอีกองค์เป็นองค์พ่อจตุคามรามเทพทองคำ วัดพุทไธศวรรย์ รุ่น "เหนือดวง" ถือเป็นเทพที่มีบุญบารมี ใครคิดร้าย เพียงแค่คิดก็แพ้หมด พอเรานำมาแขวนติดตัว บางครั้งเราขออะไรก็จะได้ตามความปรารถนาของเรา ตรงนี้ก็เป็นความเชื่ออย่างหนึ่ง เพราะตั้งแต่ได้ลองอาราธนาองค์ท่านขึ้นคอ ก็สังเกตว่า ชีวิตเราดีขึ้น เรียกได้ว่าตั้งแต่แขวนพระมามีแต่ไขเขียวทำอะไรก็ราบรื่นมาตลอด

"สิ่งสำคัญอย่างมาก เราแขวนพระเราต้องศรัทธาในองค์พระเสียก่อน ถ้าศรัทธาแล้ว เรื่องอุบัติร้ายแรงก็จะไม่เกิดขึ้น คนที่แขวนพระแล้วเป็นคนดี กลับไปเจออุบัติเหตุร้ายแรงแบบนั้น อาจมาจากกรรมเก่า เป็นเวรเป็นกรรมที่เขาเคยทำเอาไว้ไม่ดีส่งผลควบคู่ด้วย แต่ถ้าเราทำบุญอย่างต่อเนื่อง บุญนั้นก็จะนำมาหนุนเรา กฎแห่งกรรมจึงเชื่อว่ามีอยู่จริง ใครทำอะไรไว้จะต้องได้รับกรรมตรงนั้นแน่นอน" นี่เป็นความเชื่อเรื่องกรรมของป๋อง สุพรรณ

ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาสมัยเป็นเจ้าหน้าที่เก็บศพอยู่มูลนิธิ โดยคนนี้เป็นคนขายปลาช่อนเค็มอยู่ในตลาดสุพรรณบุรี วันๆ หนึ่งจะต้องตัดหัวปลาเป็นหมื่นๆ ตัว วันหนึ่งเขาขับรถบรรทุกปลาช่อนเค็มเหล่านี้ไปชนรถที่จอดอยู่ข้างทาง เชื่อไหมว่าตอนไปเก็บศพเขาคนนี้ เห็นทันทีว่าคอขาด เมียนั่งกอดสามีร้องไห้ นี่อาจเป็นผลจากที่บ้านเขาตัดหัวปลาทุกวัน มันจึงเป็นกรรมอย่างหนึ่ง เพราะชีวิตใครชีวิตมัน "ผมคิดว่าอาจเป็นไปได้ว่าคนนี้ไม่ได้ไถ่บุญ ไม่เคยทำทาน หรือทำบุญเพื่อขมาอะไรเป็นแน่ ถึงมาเสียชีวิตในลักษณะที่เหมือนกับปลาถูกตัดคอ การขอขมาคือการทำสังฆทานให้เจ้ากรรมนายเวร หนักจะกลายเป็นเบา ทำให้ทุกวันนี้ไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอีกเลย ทุกวันนี้ไปกินอาหารกุ้ง ปลา ว่ายอยู่ในตู้ แล้วนำไปฆ่าทำอาหารให้เรากิน เรากินไปก็ยังนึกอยู่เลยว่ามันบาปหรือเปล่า จึงกลัวมากในเรื่องกรรม ชีวิตผมเองก็เริ่มมาตั้งแต่ศูนย์และชีวิตเราจะดีได้เราต้องรู้จักเป็นผู้ให้ด้วย" นี่เป็นความเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม

ร้านป๋อง สุพรรณ ย้อนไปสมัยเริ่มสนใจพระเครื่องตั้งแต่เป็นเด็ก พอไปวัดหรือไปเจอพระธุดงค์ ก็จะขอพระเครื่องกับท่าน บางครั้งก็ได้ตะกรุด แล้วก็ได้เห็นปู่ย่าตายายเราสวดมนต์ไหว้พระ ตรงนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราสนใจพระเครื่อง จะว่าไปแล้วพระเครื่องในปัจจุบันถือว่าเป็นปัจจัย ๕ เป็นวัตถุมงคลที่ล้ำค่า ซึ่งอยากให้ชาวพุทธแขวนพระ อย่างมีสติ แต่ไม่ใช่แขวนเพื่อเป็นแฟชั่น ที่สำคัญเราแขวนพระแล้วตั้งศรัทธาและนับถือถึงจะเกิดผล วัตถุมงคลที่เราใช้จะเป็นพระเก่าหรือเป็นพระใหม่ก็ตาม เราก็ควรช่วยกันอนุรักษ์กันไว้ ยิ่งเป็นพระผงสุพรรณเราก็ควรรักษาเอาไว้ เพราะเป็นพุทธศิลปะสามารถทำให้เรารู้ว่าเป็นศิลปะสุโขทัย อยุธยา หรือเชียงแสน เป็นอย่างไร ว่าสมัยนั้นมีการปกครองกันมาแบบไหน แล้วบรรพบุรุษเราสร้างพระเครื่องขึ้นมายังไง เราก็ควรค่าแก่การอนุรักษ์เอาไว้

พระเครื่องที่เราแขวนเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราสบายใจ ไปไหนมาไหนก็จะมีพระคุ้มครองตามโบราณที่ท่านว่าเอาไว้ แต่จะคุ้มครองหรือเปล่าเราไม่รู้ จริงๆ แขวนพระถ้าเราเป็นคนดี ผมมั่นใจว่าพระเครื่องที่เราแขวนติดตัวจะต้องช่วยคุ้มครองเราให้แคล้วคลาด จากภัยอันตรายต่างๆ เราทำมาหากินค้าขายก็จะมีความเจริญรุ่งเรือง จึงเป็นที่มาให้ทุกคนแขวนพระ แขวนเทพ หรือแม้แต่เจ้าแม่กวนอิม "คนเราจะเริ่มทำความดีวันนี้ก็ยังไม่เสียหาย ธรรมะตามคำโบราณที่เขาให้เราส่องกระจกชะโงกดูเงา ก่อนที่เราจะไปว่าหรือนินทาคนอื่นก่อนว่าเขาเลว เราก็ต้องดูตัวเองว่าเราดีไหม ถ้าเราคิดว่าเราดี แล้วถึงจะไปสอนคนอื่นได้" ข่าวพระเครื่อง
ที่มา...หนังสือพิมพ์คมชัดลึก