มหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่อง พระบูชา และเหรียญคณาจารย์ ทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ณ ศาลาการเปรียญ วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีการประกวดพระเครื่องทั้งหมด ๔๖ โต๊ะ ๑,๖๔๓ รายการ คนทั่วๆ ไปที่อยู่นอกวงการพระเครื่องอาจจะคิดว่าไม่มีอะไรที่น่าสนใจเป็นพิเศษ แต่ในวงการพระเครื่องถือว่าเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร และยังคงเป็นข้อถกเถียงที่ไม่มีวันสิ้นสุดของวงการพระเครื่อง โดยเฉพาะเซียนพระเมืองสุพรรณบุรี

  ข้อถกเถียงที่ว่า คือ การจัดประกวดพระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก ที่ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็กเยาวชนและสตรี (ปดส.) หรือที่รู้จักกันในนาม "ผู้การแจ๊ด" เป็นอีกผู้หนึ่งที่พยายามค้นหาข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว และเปิดแถลงข่าว "เปิดตำนาน...พระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก" เพื่อเผยแพร่เรื่องราวความเป็นมาและข้อเท็จจริงของพระกรุดังกล่าว เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๙ แต่ก็ไม่เป็นที่ยอมรับของวงการพระเครื่อง โดยเฉพาะเซียนพระ จ.สุพรรณบุรี ถึงกับตั้งชื่อพระถ้ำเสือกรุดังกล่าวใหม่อย่างสนุกปากว่า "พระถ้ำเสือ กรุคำรณวิทย์" และ "พระถ้ำเสือ กรุผู้การแจ๊ด" ขณะเดียกันก็มีข่าวออกมาว่า มีความพยายามจะนำพระถ้ำเสือกรุ ผู้การแจ๊ดไปรวมเป็นโต๊ะเดียวกับพระถ้ำเสือที่มีการค้นพบมาก่อนหน้านี้ หรือที่เรียกว่า พระถ้ำเสือ กรุเก่า ข้อถกเถียงดังกล่าวสร้างความนักใจให้แก่ นายเสมอ งิ้วงาม เลขานุการสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ในฐานะนายกสมาคมพระเครื่อง พระบูชา สุพรรณบุรี เป็นอย่างยิ่ง

 เมื่อไม่สามารถหาข้อยุติของพระถ้ำเสือทั้ง ๒ กรุได้ ในงานครั้งนี้จึงแบ่งออกเป็น ๒ โต๊ะ คือ โต๊ะที่ ๑๑ เป็นการประกวดพระเนื้อดินทั่วไป ใน ๓ รายการสุดท้าย คือ รายการที่ ๔๑๕ พระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก พิมพ์ใหญ่ พ.ศ.๒๕๔๒ รายการที่ ๔๑๖ พระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก พิมพ์กลาง พ.ศ.๒๕๔๒ และรายการที่ ๔๑๗ พระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก พิมพ์เล็ก พ.ศ.๒๕๔๒ ขณะเดียวกันโต๊ะที่ ๓๙ ก็มีการประกวดพระถ้ำเสือเช่นกัน แต่เป็นโต๊ะของพระกรุเนื้อดิน ยอมนิยม จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีการประกวดพระถ้ำเสือ ๕ รายการ คือ รายการที่ ๑,๓๙๓ พระถ้ำเสือ พิมพ์ใหญ่ กรุเก่า รายการที่ ๑,๓๙๔ พระถ้ำเสือ  พิมพ์กลาง กรุเก่า รายการที่ ๑,๓๙๕ พระถ้ำเสือ พิมพ์เล็ก กรุเก่า รายการที่ ๑,๓๙๖ พระถ้ำเสือ พิมพ์หน้าแก่ กรุเก่า รายการที่ ๑,๓๙๗ พระถ้ำเสือ พิมพ์สังฆาฏิ กรุเก่า และรายการที่ ๑,๓๙๘ พระถ้ำเสือ  พิมพ์ต้อจิ๋ว กรุเก่า 

อย่างไรก็ตาม "คม ชัด ลึก" ได้รวบรวมข้อมูลการประกวดพระหลังจากการแถลงข่าวเปิดตัว พระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก ของ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ เมื่อสิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๙ ไม่ปรากฏว่าไม่มีงานใดจัดให้มีกรุดังกล่าวเลยสักงานเดียว ขณะเดียวกันจากการสอบถามผู้จัดงานประกวดหลังจากวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ไปจนถึงงานประกวดพระที่มีคิวจองยาวถึงต้นปี ๒๕๕๒ ก็ไม่มีใครที่บรรจุรายการประกวดพระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก ของ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ แม้แต่งานเดียวเช่นกัน โดยมีเหตุผลในทำนองเดียวกันว่า "พระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก ไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่อง" นอกจากนี้แล้ว อีกเหตุผลหนึ่ง คือ ความสับสนเรื่องพระถ้ำเสือ ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันมีพระถ้ำเสือที่มีลักษณะเดียวกันออกมาอีกหลายวัด โดยเฉพาะการโหมโฆษณา พระถ้ำเสือกรุด วัดหลวง จ.สุพรรณบุรี ที่ออกจำหน่ายโดยวัดแก้วฟ้า ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี นอกจากนี้ ปัญหาหนึ่งที่เป็นข้อถกเถียงระหว่างกรรมการตัดสินพระถ้ำเสือในวันจัดงาน คือ ใครจะเป็นกรรมการตัดสิน พระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก ของ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ซึ่งในการประกวดครั้งนี้มีการพิมพ์รายชื่อคณะกรรมการตัดสินพระ รับพระชุดเกจิอาจารย์ จ.สุพรรณบุรี ไส้ ๗ ชุด โดยกรรมการที่จะตัดสินพระถ้ำเสือมอยู่ ๒ ชุด คือ กรรมการชุด อ.เมือง และ อ.อู่ทอง ซึ่งมี ออด วัดพระรูป เป็นประธาน ส่วนอีกชุดหนึ่งคือ กรรมการพระกรุยอดนิยม จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมี อาจารย์อยู่กิม บางลี่อาท เป็นประธาน

       ในใจเจ้าของกรุ

"การเปิดพระถ้ำเสือครั้งก่อนโน้น ผมไม่ได้เปิดตัวเพื่อเป็นพุทธพาณิชย์ ไม่ได้มุ่งหวังเรื่องยอดจำหน่าย แต่ก็มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้สอบถามกันมาอย่างต่อเนื่อง เพียงต้องการบอกบุญให้ผู้ศรัทธามาช่วยกันร่วมสร้างพระถ้ำเสือองค์ใหญ่ ผมต้องการให้คนได้รับรู้ว่า พระถ้ำเสือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรี ตั้งแต่ผมเป็น สวส.ที่เมืองสุพรรณ ตั้งแต่ปี ๒๕๓๑ ผมก็บูชาแขวนพระถ้ำเสือชุดมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ ท่านช่วยเหลือปกป้องและผมก็มีประสบการณ์กับพระถ้ำเสือชุดนี้มาตลอด โดยเฉพาะเมื่อครั้งลงปฏิบัติหน้าที่ใน จ.นราธิวาส" นี่คือเหตุผลของ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ยืนยันว่า พระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก แตกกรุออกมาในปี ๒๕๓๔ มานั้น ยังไม่มีการเผยแพร่ ผู้ที่นำมาให้นั้น จากคำบอกเล่าได้มาตั้งแต่ปี ๒๕๑๗ โดยมอบให้ตนเองเพียงคนเดียว ขณะเดียวกันก็ยังพาไปขุดด้วย ส่วนการพบพระถ้ำเสืออีกภายหลังจากที่พบนั้น ส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงพุทธพาณิชย์ มีการแอบอ้างว่าแตกกรุอีกหลาครั้ง และจากประสบการณ์ต่างๆ นานาของพระถ้ำเสือที่ทำให้มีวันนี้ จึงอยากสร้างพระถ้ำเสือขนาดใหญ่ เพื่อให้คนมากราบไหว้สักการบูชา ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ที่ได้รับพุทธคุณและบารมีจากพระถ้ำเสือมาสร้างศาสนสถาน และพัฒนาวัดไปกว่า ๕๐ ล้านบาทแล้ว

 ในกรณีมีผู้ตั้งชื่อพระถ้ำเสือว่า กรุผู้การแจ๊ส หรือ กรุคำรณวิทย์ นั้น พล.ต.ต.คำรณวิทย์ บอกว่า จะเรียกหรือจะตั้งชื่อพระกรุนี้อย่างไรก็ตาม ไม่ได้โกรธแค้นหรืออาฆาตใครทั้งสิ้น โดยส่วนตัวเชื่อว่าอีกไม่นานผลกรรมก็จะตามทันคนที่ลบหลู่พระถ้ำเสือกรุนี้ เอง ให้ดูว่าหลังจากพระประธานสร้างเสร็จจะมีคนอันเป็นไป ใครก็ตามที่ออกมาโจมพระชุดนี้ เมื่อเขาหมดบุญกรรมที่เขาเคยก่อไว้จะเริ่มปรากฏ ใครที่ใช้มือเขียนโจมตีก็จะพิการที่มือ ใช้ปากลบหลู่ก็จะเป็นอัมพาต อัมพฤกษ์ปากเบี้ยว ส่วนคนที่ใช้สายตาลบหลู่ตาก็จะมีอันเป็นไป ตาฝ้า ตัวมัว และก็จะบอดไปในที่สุด พระอาจารย์ที่ผมนิมนต์นั้น ท่านแนะนำว่า ไม่ต้องไปอาฆาตแค้นใครทั้งสิ้น
ที่มา...คมชัดลึก เรื่อง - ภาพ "ไตรเทพ ไกรงู"