พระเครื่อง คมชัดลึก คมเลนส์ส่องพระ *** เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๓ นสพ. "คม ชัด ลึก" ฉบับปฐมฤกษ์ ได้ออกวางตลาดจำหน่ายทั่วเมืองไทย ทำเอาวงการหนังสือพิมพ์สั่นสะเทือนไปทั่ว เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าในภาวะเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในยุค "ฟองสบู่แตก"  ทำไม เครือเนชั่น จึงกล้าหาญชาญชัยออก หนังสือพิมพ์หัวสี สู่วงการสื่อสิ่งพิมพ์ได้อย่างไร...เวลาผ่านไปไม่กี่เดือน ด้วยคุณภาพของ  "คม ชัด ลึก"  ทำให้สามารถยืนผงาดอยู่บนแถวหน้าของหนังสือพิมพ์รายวันในเมืองไทยได้อย่าง สง่าผ่าเผย จนทุกวันนี้...มียอดจำหน่ายสูงเป็นอันดับ ๓ ของ หนังสือพิมพ์หัวสี รายวันในเมืองไทย...ทั้งหมดนี้ก็ด้วยความอุปการคุณจากท่านผู้อ่านทั้งหลาย โดยแท้ ที่ได้กรุณาอุดหนุนและให้กำลังใจมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ หน้าพระเครื่อง ที่ได้รับความนิยมชมชอบจากท่านผู้อ่านทุกเพศทุกวัย หลายท่านได้กรุณาส่งจดหมายสอบถามเรื่องพระเครื่อง และปัญหาต่างๆ ที่ต้องการคำตอบ ... อย่างไรก็ตาม ณ วันนี้ ยังมีอะไรที่ท่านผู้อ่านต้องการเสนอแนะ หรือติชม ดีไม่ดี ชอบไม่ชอบอะไร คอลัมน์อะไรบน หน้าพระเครื่อง "คม ชัด ลึก" ขอให้ส่งจดหมายไปได้ที่ แล่ม จันท์พิศาโล นสพ."คม ชัด ลึก" ถนนบางนา-ตราด เขตบางนา กทม.๑๐๒๖๐...ขอขอบพระคุณอย่างสูง

 ** "คมเลนส์ส่องพระ" วันนี้ขอเริ่มกันที่ พระพิมพ์สมเด็จ เนื้อผงขมิ้น ขนาดเท่ากับพระพิมพ์สมเด็จทั่วไป ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทรฯ ได้เมตตาอธิษฐานจิตให้เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๑๓ จำนวนสร้างประมาณ ๒๐๐ องค์ พร้อมกับ พระพิมพ์สมเด็จ หลังงู ที่เรียกกันว่า รุ่น "จงอางศึก" โดยใช้แม่พิมพ์ด้านหน้าอันเดียวกัน แตกต่างกันที่ด้านหลัง รุ่น "จงอางศึก" มีรูปงู และตัวหนังสือ "พ" ส่วน พระพิมพ์สมเด็จ เนื้อผงขมิ้น ด้านหลังเรียบ ไม่มีตัวอักขระเลขยันต์ และตัวหนังสือใดๆ อาศัยดูพิมพ์ดูเนื้อพระ นักสะสมสายตรงพระเจ้าคุณนรฯ ก็บอกได้ทันทีว่า เป็น พระแท้ หรือ ปลอม ** เนื้อผงขมิ้น ที่ว่านี้ เป็นส่วนผสมของผงพุทธคุณที่ใช้กดพิมพ์เป็นองค์พระ จากนั้นได้ชุบน้ำผงขมิ้นและสีเหลืองส้ม ทับอีกชั้นหนึ่ง ทำให้เนื้อพระออกสีเหลืองส้ม มิใช่เป็น พระเนื้อผงขมิ้นล้วนๆ แต่ประการใด ** พระพิมพ์สมเด็จ เนื้อผงขมิ้น และ พระพิมพ์สมเด็จ หลังงู (รุ่น "จงอางศึก") เป็นการสร้างขึ้นของ  ท่านเจ้าคุณอุดมฯ เพื่อนำไปแจกเป็นของที่ระลึกในงานศพคุณแม่ของผู้จัดการธนาคารกรุงเทพท่าน หนึ่ง ในปีนั้น ** ส่วน พระพิมพ์สมเด็จ เนื้อผงขมิ้น แจกทั่วไป ทุกวันนี้เช่าหากันถึงองค์ละ ๒-๓ หมื่นบาทขึ้นไป องค์ในภาพนี้เป็นพระของ คิง สุพรรณ หลานชายสุดที่รักของ ป๋อง สุพรรณ นับเป็นคนหนุ่มที่ เล่นพระดี มีพระสวย และ รวยพระแท้ อีกคนหนึ่ง ที่น่าคบหาสมาคมเป็นอย่างยิ่ง โทรไปคุยได้ที่ ๐๘-๑๗๕๘-๐๙๑๗ ขอกระซิบว่า แล่ม จันท์พิศาโล ได้พระดีๆ จาก หนุ่มคิง คนนี้มาหลายองค์แล้ว เพราะอย่างที่ว่า เขารับประกันความแท้ตลอดชีวิต

** พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี พิมพ์พลายคู่ หน้าเทวดา (พิมพ์เล็ก) องค์นี้ เต๋อ สมิหลา สงขลา ก็ได้มาจาก คิง สุพรรณ เหมือนกัน    โดยวันก่อนเดินผ่านไปที่ร้านของ ป๋อง สุพรรณ ซึ่งมี หนุ่มคิง เฝ้าหน้าร้านอยู่ ได้เห็น พระขุนแผน พลายคู่ องค์นี้วางโชว์ในตู้ หยิบขึ้นมาดูแวบเดียวก็ตัดสินเช่าทันที เพราะเป็น พระแท้ตาเปล่า (ไม่ต้องส่งผ่านแว่นขยาย) ดูง่ายมาก ผ่านตาลูกค้าคนอื่นๆ ไปได้อย่างไร พระสวยคมชัดขนาดนี้ ราคาก็ไม่แพง เต๋อ เลยโชคดี นิมนต์ขึ้นคอ กลับบ้านที่สงขลาไปหลายวันแล้ว หยิบออกมาอวดใครๆ มีแต่คนเช่าต่อทั้งน้าน...เยี่ยมแจ่มแจ๋ว...จริงๆ

 ** พระเครื่องใดๆ ก็ตาม ที่มีรูปพระพุทธองค์เล็กๆ อีกองค์หนึ่งติดอยู่บนพระเศียรของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ วงการพระจะเรียกกันแบบชาวบ้านว่า พระปางซ่อนหา ที่โด่งดังมากจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป คือ พระปางซ่อนหา เนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม ธนบุรี ที่มีการเช่าหากันองค์ละเป็นแสนขึ้นไป** พระปางซ่อนหา ตามตำนานเล่าว่า เป็นการซ่อนหา ระหว่าง พระพุทธเจ้า กับ ท้าวผกาพรหม ผู้มีศักดานุภาพมาก บังอาจท้าประลองฤทธิ์กับพระพุทธเจ้า ด้วยการซ่อนหากัน ท้าวผกาพรหมเป็นฝ่ายซ่อนก่อน โดยเนรมิตกายเป็นละอองธุลีที่เล็กที่สุด แล้วหลบลงไปซ่อนอยู่ท่ามกลางก้นเกษียรสมุทร ที่ดำมืด แต่พระพุทธเจ้าก็ค้นหาจนพบ ครั้นถึงคราวที่พระพุทธเจ้าทรงเป็นฝ่ายซ่อนบ้าง ทรงเนรมิตพระวรกายให้ย่อเล็กลงเท่าละอองธุลี แล้วเสด็จขึ้นไปเดินจงกรมอยู่ในมุ่นมวยผมบนเศียรของท้าวผกาพรหม  ท้าวผกาพรหมใช้ทิพยเนตร มองหาพระพุทธเจ้า จนตลอดทั่วทั้งไตรภพ ก็ไม่พบ จึงขอยอมแพ้ พระพุทธเจ้าจึงแสดงพระองค์ให้ท้าวผกาพรหมรู้ว่า ทรงประทับอยู่บนมวยผมของท้าวผกาพรหมนั่นเอง พระพุทธเจ้าให้ท้าวผกาพรหมยื่นมือขึ้นไปบนเศียร ก็จับถูกข้อพระบาทของพระพุทธเจ้า  ทำให้ท้าวผกาพรหมหมดทิฐิอหังการตั้งแต่บัดนั้น อันเป็นที่มาของ พระปางโปรดผกาพรหม ที่วงการพระเรียกกันว่า พระปางซ่อนหา นั่นเอง

** พระปางซ่อนหา นอกจากของ หลวงปู่ทับ วัดอนงคฯ แล้วก็ยังมีของ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม อีกด้วย เป็นพระเนื้อผงยาจินดามณี (หรือผงยาวาสนา) ที่ค่อนจะหายากว่าพระพิมพ์อื่นๆ ในชุดนี้ ราคาเช่าหาหลักหมื่นกลางถึงหมื่นปลาย องค์ในภาพนี้เป็นพระของ เพชร ท่าพระจันทร์ ผู้ได้ชื่อว่า เป็นเอตทัคคะทางด้านเหรียญพระฯ แต่ความเป็นจริงแล้ว เพชร เป็นผู้เชี่ยวชาญในพระเครื่องทุกประเภท ที่ แล่ม จันท์พิศาโล ได้พึ่งพาอาศัยข้อมูลมาโดยตลอด

 ** ช่วงนี้พูดถึง เมืองชัยนาท บ่อยๆ ว่าเป็นเมืองหน้าด่าน ยามใดที่สุโขทัยเป็นใหญ่ ก็เอาเมืองชัยนาทเป็นหน้าด่าน ยามใจที่กรุงศรีอยุธยาเป็นใหญ่ ก็เอาเมืองชัยนาทเป็นหน้าด่านเช่นกัน สมัยที่ไทยทำศึกสงครามกับพม่า นักรบจากเมืองชัยนาทได้แสดงวีรกรรมไว้มาก โดยไม่หวั่นเกรงพม่าแต่อย่างใด สิ่งที่เป็นกำลังใจแก่นักรบเมืองชัยนาท ก็คือ พระเครื่อง ของเมืองนี้ ที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันภยันตรายในทุกด้าน  มีความเหนียว (คงกระพันชาตรี) เป็นยอด ที่ได้รับการกล่าวถึงเสมอ คือ พระสกุลสรรค์ (เมืองสรรคบุรี) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระสรรค์นั่งไหล่ยก พระสรรค์นั่งไหล่ตรง เนื้อดินอย่างละเอียด ขนาดกะทัดรัด น่าพกติดตัว อย่างที่เห็นในภาพนี้เป็น พระสรรค์นั่งไหล่ยก พิมพ์นิยม ของ อำนาจ ปัญญาดิลกพงศ์ นักธุรกิจจิวเวลรีส่งนอก ที่เรียกว่า ไหล่ยก คือ ไหล่ซ้ายขององค์พระยกขึ้นเล็กน้อย (แต่ในองค์นี้อาจจะเห็นได้ไม่ชัดนัก)

 ** หมอ ท่าแซะ มิใช่นายแพทย์ หรือหมอแผนโบราณ รวมทั้งไม่ใช่หมอดูคู่หมอเดา หรือหมอนวดแต่ประการใด ที่มาของชื่อนี้เป็นเพราะสมัยเด็กๆ หมอ เป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดมาก รู้เรื่องไปหมดทุกอย่าง จนชาวบ้านเล่าลือกันว่า บ่าวหนุ่ยคนนี้เก่งยังกะ หมอ แพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อนบ้านเรียกกันจนกลายเป็นชื่อเล่นในเวลาต่อมาก โดยที่ หมอ เป็นชาวอำเภอ ท่าแซะ จ.ชุมพร ฉายาที่คนในวงการพระเรียกกันจึงเป็น หมอ ท่าแซะ เป็นคนเก่งในการดูพระสายใต้ทั้งหมด โดยเฉพาะ พระหลวงพ่อทวด ดูได้ไม่มีพลาดผิด องค์ในภาพนี้เป็น พิมพ์พระรอด หน้าใหญ่ ๒๔๙๗ สวยคมชัดลึกดีนักหนา  เนื้อว่านด้านหลังดูง่าย จนถือเป็นพระเนื้อครู ส่วนด้านหน้าที่เห็นสีส้ม มีสาเหตุมาจากเดิมทีพระองค์นี้เลี่ยมอัดกรอบพลาสติกกันน้ำ องค์พระได้รับความร้อนอบตลอดเวลา ทำให้เนื้อว่านเปลี่ยนสีไปบ้าง แต่โดยภาพรวมแล้วยังเป็นเนื้อว่านที่ดูง่าย ความสวยระดับนี้เฉียดล้านเข้าไปแล้ว...จากปรากฏการณ์ที่พบเห็นจากภาพ พระหลวงพ่อทวด องค์นี้  อยากจะขอแนะนำท่านผู้อ่านได้ทราบว่า พระเนื้อดิน พระเนื้อผง หรือ พระเนื้อว่าน ไม่ควรเลี่ยมแบบ อัดกรอบพลาสติกกันน้ำ อย่างเด็ดขาด เพราะผลเสียมีมากกว่าผลดี ที่อัดกรอบกันน้ำได้ มีเฉพาะ พระเนื้อโลหะ เท่านั้น

** พระครูสังฆรักษ์ (เงิน อินทสโร) วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า พระครูสังฆ์ฯ เป็นผู้สร้างพระเนื้อผงต่อจาก หลวงปู่ภู โดยมีพระบางพิมพ์เอาแม่พิมพ์เก่าของ หลวงปู่ภู มาสร้างใหม่ บางพิมพ์แกะแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ อาทิ พระพิมพ์สมเด็จ พิมพ์พระประธาน พระสมเด็จ พิมพ์ทรงเจดีย์ พระปางรำพึง ฯลฯ ด้านหลังองค์พระ มีทั้งแบบ ปั้มตรา (รูปดอกจัน ๖/ยันต์ห้า) และไม่ปั๊มตรา ทั้งนี้ก็เพื่อให้แตกต่างกับ พระหลวงปู่ภู อาจารย์ของท่านนั่นเอง องค์ในภาพนี้เป็น พระปางประทานพร หลังดอกจัน ของ เล็ก อโศก ผู้ชำนาญพระทุกประเภท พระชุดนี้มีผงเก่า พระสมเด็จ กรุบางขุนพรหม เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย จึงน่าสนใจยิ่ง** พระครูสังฆรักษ์ (เงิน) เกิดปี ๒๔๓๑ มรณภาพปี ๒๕๑๘ ข้อมูลจากเว็บไซต์ "เซียนพระ" (chienpra.com) แหล่งความรู้เรื่องพระอย่างจะแจ้ง ** จ.ชลบุรี หรือ เมืองพระรถเมรี เป็นเมืองเก่ามาแต่โบราณกาล โดยเฉพาะที่ อ.พนัสนิคม มีวัดเก่าสมัยโบราณหลายแห่ง พร้อมกับพระเครื่องยุคทวารวดี ทั้งเนื้อดิน เนื้อชิน และเนื้อผง ที่รู้จักกันดีในวงการพระ คือ พระร่วงหน้าพระธาตุ เนื้อชิน ซึ่งหายากยิ่ง จนมีการสร้างถอดพิมพ์ขึ้นมาในยุคหลัง โดยประกอบพิธีเททองหล่อองค์พระเมื่อวันอังคารที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๑๗ พิธีเดียวกับ พระพนัสบดี พระประจำเมืองพนัสนิคม จากนั้นได้ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ภายในอุโบสถวัดหน้าพระธาตุ อ.พนัสนิคม เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๑๗ โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังนั่งปรกปลุกเสกหลายท่าน อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงปู่เหมือน วัดกำแพง  หลวงปู่โต วัดบ้านกล้วย อ.พิมาย พระปรมาจารย์ผ่อง จินดา วัดสามปลื้ม หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว  หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก หลวงพ่อแร่ วัดเซิดสำราญ ฯลฯ เพียงรายชื่อเท่านี้ก็เหลือล้นแล้วสำหรับ คุณภาพ ของพระพิมพ์นี้ ซึ่งมีขนาดองค์พระ ๕x๒ ซม. เนื้อชินตะกั่ว สนใจสอบถามได้ที่ เปิ้ล ปรกโพธิ์ โทร.๐๘-๑๘๐๔-๒๒๘๖ เป็นพระเก่าเก็บของนักสะสมในท้องถิ่น จึงมั่นได้ว่าเป็น พระแท้ อย่างแน่นอน

** ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี หาทุนสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเพื่อแม่ ณ วัดคลองเกวียนลอย (ทุ่งจันดำ) ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ในวันอาทิตย์ที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๑ ผู้ร่วมบริจาค ๒,๐๐๐ บาท จะได้รับ กระบุงเงินกระบุงทอง พระสิวลี พวงประคำ ตะกรุดมหารอด ธงชัยนำโชค รวมเป็น ๑ ชุด อันเป็นวัตถุมงคลสำหรับการค้าขายนำโชคเพิ่มลาภโดยเฉพาะ ผู้บริจาค ๕๐๐ บาทจะได้รับ พระรูปเหมือนสมเด็จฯโต เนื้อผงใบลานเก่า ผสมมวลสาร ๑๐๘ ชนิด ติดต่อสอบถามโทร.๐๘-๑๙๐๔-๕๐๗๐, ๐๘-๔๓๔๕-๘๖๒๑, ๐๘-๙๒๒๙-๑๙๑๗ วัตถุมงคลชุดนี้ หลวงพ่อมนัส มนฺตชาโต เจ้าอาวาสวัดคลองเกวียนลอย เป็นผู้อธิษฐานจิตด้วยความตั้งใจเป็นพิเศษ เพื่อเป็นของขวัญสำหรับศรัทธาญาติโยมที่มีจิตเป็นกุศล ร่วมการทอดกฐินสามัคคีครั้งนี้ หลวงพ่อมนัส เป็นพระอาจารย์ผู้มีความรอบรู้ในทุกด้าน มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รศ.เพ็ญแสง ปุตตะ ได้กล่าวยกย่อง หลวงพ่อมนัส ว่าเป็นพระที่มีประวัติไม่ธรรมดา อีกทั้งยังมีปฏิปทาอันน่าเคารพศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง รศ.เพ็ญแสง ถึงกับได้แต่งบทร้อยกรอง ที่กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของ หลวงพ่อมนัส ไว้อย่างน่าสนใจ แม้ว่า รศ.เพ็ญแสง จะจบมาทางวิทยาศาสตร์ (ชีววิทยา) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ตาม แต่บทร้อยกรองของท่านดูช่างงดงามไพเราะยิ่งกว่าบัณฑิตทางอักษรศาสตร์ด้วยซ้ำไป

** จากบทร้อยกรองอันทรงคุณค่านี้ ทำให้ได้ทราบว่า หลวงพ่อมนัส เป็นพระบริสุทธิสงฆ์ ผู้ไม่ธรรมดา จริงๆ ** พบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้...นะมัสเต ***  ข่าวพระเครื่อง

"แล่ม จันท์พิศาโล"