พระเครื่องหลวงพ่อฉาย วัดบางบำหรุ

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้เรามาคุยกันถึงพระเครื่องที่สนนราคาไม่แพงนักและเป็นพระที่เกจิอาจารย์รุ่นเก่าได้สร้างไว้เรื่องพุทธคุณนั้นยอดเยี่ยมนักนั่นก็คือ พระเครื่องของหลวงพ่อฉาย วัดบางบำหรุ อำเภอบางกอกน้อย กทม.นี่เองครับ วัดบางบำหรุ เป็นวัดเก่าแก่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เคยมีการขุดพบพระเครื่องจากเจดีย์ใกล้ๆ กับวิหารเก่า เป็นพระเครื่องเนื้อดินเผาศิลปะอยุธยาตอนปลาย ที่วัดบางบำหรุนี้อดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อนหลวงพ่อฉายก็คือหลวงปู่แขก วัดบางบำหรุ ซึ่งพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยนั้น และเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาทำเบี้ยแก้ให้แก่หลวงปู่รอด วัดนายโรงที่โด่งดัง

ประวัติหลวงพ่อฉาย วัดบางบำหรุ
หลวงพ่อฉาย วัดบางบำหรุ ท่านเป็นชาวจังหวัดลพบุรี เกิดประมาณปี พ.ศ.2422 ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้นรางเลือนไม่มีใครทราบว่าพระอุปัชฌาย์ของท่านเป็นใคร ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ชอบออกธุดงค์รุกขมูลไปตามป่าเขา เพื่อแสวงหาความวิเวกปฏิบัติภาวนา จนกระทั่งได้ธุดงค์มาถึงแถวบางบำหรุก็มีคนศรัทธาเลื่อมใสกันมาก มีคนเจ็บไข้ได้ป่วยมากมายมาให้ท่านช่วยรักษา ท่านก็เมตตาช่วยรักษาด้วยว่านสมุนไพร และเวทวิทยาคม ได้คลายหายได้ทุกรายไป ระหว่างที่ท่านได้ธุดงค์อยู่ที่บางบำหรุนั้น หลวงปู่แขกก็ได้มรณภาพลง ชาวบ้านในแถบนั้นจึงได้นิมนต์ขอให้ท่านจำพรรษาและเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา ผู้เฒ่าผู้แก่ที่เป็นลูกศิษย์ของท่านได้เล่าว่า ในสมัยที่หลวงพ่อฉายท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น ได้เคยติดตามท่านไปที่ลพบุรี เพื่อไปเยี่ยมญาติของท่าน เมื่อมีคนไปพบว่าท่านมาก็จะไปเอาเสลี่ยงมารับท่านด้วยความเคารพ และทุกครั้งที่ท่านธุดงค์มาที่ลพบุรีจะมีชาวบ้านมาขอตะกรุดของขลัง ผ้าประเจียดและขอน้ำมนต์กันเสมอ แสดงว่าท่านเป็นที่เคารพนับถือของชาวลพบุรีมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว และขณะที่ท่านธุดงค์ไปในที่แห่งใด และท่านเพ่งเห็นว่าที่ใต้ดินมีพระพุทธรูปอยู่ท่านก็จะบอกให้ลูกศิษย์ของท่าน ขุดขึ้นมา ทุกครั้งที่ท่านชี้ให้ขุดก็จะพบพระทุกครั้ง เป็นพระหักชำรุดบ้างสมบูรณ์บ้าง และท่านก็จะบอกให้นำเอาไปไว้ที่วัดใกล้ๆ กันนั้นทุกครั้ง ท่านบอกว่านี่แหละเป็นการทำบุญอันประเสริฐยิ่งนักได้นำพระพุทธรูปที่จมดินจม ทรายเอาขึ้นมาสืบอายุพระศาสนา

หลวงพ่อฉาย ท่านมีตาทิพย์ล่วงรู้สรรพสิ่งได้หมด เวลาที่คนมาหาท่านและทำผิดอะไรมาท่านก็จะบอกก่อนที่เจ้าตัวจะบอกเสียอีก ไม่มีใครโกหกท่านได้เลย ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านและลูกศิษย์ของท่านต่างก็กลัวเกรงท่านมาก หลวงพ่อฉายท่านเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ สายตาเป็นประกายกล้าแกร่ง ไม่มีใครกล้าสบตาท่าน ในการสร้างวัตถุมงคลนั้น หลวงพ่อฉายท่านได้สร้างตะกรุด ผ้าประเจียดและเบี้ยแก้แจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์ และทุกครั้งที่มีคนไปขอของขลังจากท่าน ท่านจะกำชับว่าให้รักษาศีลห้า จึงจะขลังคุ้มครองได้ อย่าเอาไปทำชั่วปล้นเขากิน มีบางรายมาขอท่านหลายครั้งท่านก็ไม่ให้ ท่านบอกว่ารายนี้ให้ไปก็ต้องไปทำชั่ว เหมือนกับท่านจะรู้ว่าคนไหนดีไม่ดีอย่างไร

หลวงพ่อฉาย ท่านได้สร้างพระเครื่องไว้ครั้งหนึ่ง โดยท่านได้รวบรวมพุทธคุณต่างๆ ไว้มากมาย และวัตถุมงคลต่างๆ ผสมกับเกสรดอกไม้ สร้างเป็นพระเครื่อง มี 3 พิมพ์ด้วยกัน คือ พิมพ์กลีบบัว พิมพ์พระสมเด็จและพิมพ์ปิดตา พระพิมพ์กลีบบัวกับพระพิมพ์สมเด็จ มีด้วยกันสามสีคือ สีดำ สีอมเหลืองๆ และสีขาวหม่นๆ ส่วนพระปิดตานั้นจะมีสีดำอมม่วง พระทั้งหมดของท่านนั้น หลวงพ่อฉายท่านปลุกเสกนานมาก หลังจากนั้นจึงได้แจกจ่ายให้แก่ ลูกศิษย์ลูกหาและชาวบ้านผู้เลื่อมใสศรัทธาท่านส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งท่านได้นำไปบรรจุไว้ในเจดีย์ใกล้กับวิหารเก่าประมาณ 2 บาตร และมีพระพิมพ์ปิดตาท่านได้เก็บไว้ในกุฏิของท่านจวบจนท่านมรณภาพ และทางวัดก็ได้นำออกมาแจกจ่ายในงานวันฌาปนกิจของท่านในปี พ.ศ.2481 ต่อมาในปี พ.ศ.2525 ทางวัดได้ทำการรื้อเจดีย์เก่าเพื่อปรับพื้นที่บริเวณวิหารเก่า ก็พบพระเครื่องของ หลวงพ่อฉายท่านบรรจุไว้ในบาตร และทางวัดก็ได้นำมาแจกจ่ายแก่ผู้ที่เคารพเลื่อมใสหลวงพ่อฉายจนหมด พระเครื่องหลวงพ่อฉาย วัดบางบำหรุ นี้มีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับเรื่องมหาอุดคงกระพัน ซึ่งเคยมีผู้ถูกยิงหลายครั้งแต่ยิงไม่ออก และก็มีผู้ที่ได้ข่าวนี้จึงนำพระเครื่องของ หลวงพ่อฉายท่านไปลองยิงดูบ้าง ก็ยิงไม่ออกเช่นกัน ปัจจุบันพระเครื่องของท่านก็ยังไม่แพงนักครับ สนนราคาอยู่ที่หลักพันเท่านั้นครับ วันนี้ก็ได้นำรูปพระพิมพ์สมเด็จ และพิมพ์กลีบบัว หลวงพ่อฉาย วัดบางบำหรุ มาให้ชมกันครับ

ด้วยความจริงใจ
ข่าวพระเครื่อง แทน ท่าพระจันทร์  ที่มา...หนังสือพิมพ์ข่าวสด