สถาบันพลังจิตตานุภาพ ก่อตั้งโดย พระเทพเจติยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) โดยมีจุดประสงค์ในการเผยแพร่การนั่งสมาธิ เพื่อเพิ่มพลังจิตแก่ประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ โดยคำนึงว่า ชาวโลกได้พัฒนาก้าวไปไกลถึงยุคโลกาภิวัตน์ ได้มีการลงทุนก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ทั้งแหล่งบันเทิงเริงรมย์ เครื่องอำนวยความสะดวกสบายทั้งหลาย  ที่อยู่อาศัย รถยนต์เรือยนต์ เครื่องบิน ยานอวกาศ จนสามารถร่นระยะทางไกลๆ ให้มาอยู่ใกล้ ไปมาได้ง่าย ทั้งโทรทัศน์ โทรสาร โทรศัพท์ ได้ช่วยให้การติดต่อสื่อสารกันได้อย่างง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินมากมายมหาศาล ก็ยังมีผู้ลงทุนทำกันได้ แล้วทำไมเราจะไม่สร้าง นครธรรม ให้ทันสมัยด้วยไฮเทคต่างๆ เพื่อร่นระยะการศึกษา และการปฏิบัติธรรมะ ขึ้นมาบ้างมิได้หรือ ? ด้วยเหตุนี้ หลวงพ่อวิริยังค์ จึงได้สร้าง นครธรรม ขึ้นมา เพื่อเปิดสอนสมาธิให้แก่ประชาชนทั่วๆ ไป เพื่อร่นระยะการศึกษา และการปฏิบัติธรรมะ โดยสร้างเป็น สถาบันพลังจิตตานุภาพ จัดทำหลักสูตร ครูสมาธิ ระยะเวลา ๖ เดือน เป็นหลักสูตรสอนสมาธิให้แก่ประชาชน เพื่อที่จะได้เป็น ครูสอนสมาธิ ต่อไป

โครงการสถาบันพลังจิตตานุภาพนี้ หลวงพ่อวิริยังค์ได้เริ่มเปิดดำเนินการอบรมมาตั้งแต่วันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๐ จนถึงทุกวันนี้ รวม ๒๒ รุ่น และกำลังเปิดรับสมัครรุ่นที่ ๒๓ อยู่ในขณะนี้ โดยมีพิธีเปิดปฐมนิเทศในวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๑ ผู้สนใจติดต่อสมัครได้ที่ สถาบันพลังจิตตานุภาพ นครธรรม วัดธรรมมงคล ๑๓๒ ซอยปุณณวิถี  ๒๐ ถนนสุขุมวิท ๑๐๑ แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ๑๐๒๖๐ โทร.๐-๒๓๑๑-๑๓๘๗, ๐-๒๓๑๑-๓๙๐๓ ,๐-๒๗๔๑-๓๕๕๑-๒  หรือที่ www.samathi.com / www.dhammamongkol.com

 หลักสูตร "ครูสอนสมาธิ" เป็นหลักสูตรที่เปิดสอนให้แก่บุคคลทั่วไป ในการเรียนการสอน นักศึกษาจะได้รับการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับสมาธิเบื้องต้น ตั้งแต่การเริ่มบริกรรม จนถึงสมาธิชั้นสูง ที่หลวงพ่อวิริยังค์ได้เรียนมาจากพระอาจารย์ใหญ่ เช่น พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์กงมา ฯลฯ และจากประสบการณ์ชีวิตจริงในการปฏิบัติสมาธิ   ของท่านมานานกว่า ๖๐ ปี นอกจากผู้เรียนจะเข้าใจการทำสมาธิ ทั้งสมถะ-วิปัสสนา อย่างถี่ถ้วนแล้ว ยังสามารถเป็นครูสอนสมาธิแก่บุคคลอื่นได้โดยถูกต้องด้วย

การอบรมนี้มีทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ โดยมีการนำไปฝึกภาคสนาม ณ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เป็นเวลา ๔ วัน ๓ คืน ถึงจะจบหลักสูตร และจัดพิธีมอบประกาศนียบัตรให้ต่อไป ในส่วนของ ภาคปกติ เปิดอบรมระหว่างวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา ๑๘.๐๐-๒๐.๓๐ น. สาขาที่เปิดสอน คือ วัดธรรมมงคล, บ้านปิยะธรรม สุขุมวิท ๘๑, บ้านอาจารย์อำนวย สุวรรณคีรี บางกะปิ ,ตึกไอทาวเวอร์ 

ภาคพิเศษ เปิดอบรมระหว่างวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๓๐ น. สาขาที่เปิดสอนคือ วัดธรรมมงคล, วัดพุทธบูชา, วัดใหม่เสนานิคม (วังหิน), วัดบางโฉลงใน, วัดผ่องพลอยวิริยาราม, วัดบุญเกิด จ.พะเยา, วัดป่าเจริญธรรม, บ้านบรรณรุจิ, มหาวิทยาลัยโยนก และศูนย์สมาธิวิริยานุภาพ จ.ภูเก็ต 

หลวงพ่อวิริยังค์ กล่าวถึงหลักเกณฑ์ในการอบรมว่า ๑.ผู้ที่เข้ามาเรียน ต้องทราบว่า เรากำลังจะเป็นครูบาอาจารย์ที่จะต้องเสียสละพร้อมความประพฤติเป็นตัวอย่าง ทั้งนี้ มิได้หมายความว่าจะต้องเสียสละทั้งหมด คือ เราก็ทำงานต่างๆ ตามปกติตามหน้าที่ พร้อมทั้งการมีครอบครัว ซึ่งมิได้แตกต่างจากบุคคลอื่นทั่วไป เพียงแต่ให้มีการเสียสละอยู่ภายในสำนึกเสมอ

 ๒.การปฏิบัติสมาธิ เป็นนามธรรม ความซึ้งและความหนักแน่น จึงเกิดขึ้นด้วยเหตุปรากฏการณ์ภายในหลายอย่างประการ อันเรียกได้ว่า เป็นไปตามนิสัยของแต่ละบุคคล ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจึงมีมาก สิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นมากน้อยแตกต่างกันไป ข้อนี้เน้นความจริงที่ว่า จะต้องบอกความจริงแก่อาจารย์ ห้ามปิดบัง ถ้าเป็นอย่างไรก็ให้แจ้งแก่อาจารย์ไปอย่างนั้น

 ๓.มีความเป็นไปได้ สำหรับผู้ที่เรียนรู้เร็ว และอาจจะเคยปฏิบัติมาก่อน หรือมีเชาวน์ ย่อมจะเข้าใจได้เกินกว่านักศึกษาอื่นๆ แม้จะรู้ดีเพียงใด ก็ต้องรับคำสอน และปฏิบัติตามหลักสูตรเช่นกันกับนักศึกษาทั้งหลาย

 ๔.วิธีการหลายๆ อย่างที่ทั่วไปทำกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหมู่คณะใดต้องยอมรับ และไม่ถือว่าผิด เพราะการทำสมาธินั้น มีวิธีการหลายอย่าง แตกต่างกันไป ส่วนจุดมุ่งหมายอันเดียวกัน เมื่อจะเข้ามาสู่สถาบันพลังจิตตานุภาพ ก็ให้นำเข้ามาประยุกต์เข้ากันได้  ยอมรับในหลักของครูสมาธิ ทั้งนี้เพื่อมิให้เสียเวลาในการปฏิบัติตน

 ๕.การเรียนสมาธิ ก็เช่นเดียวกันกับวิชาอื่นๆ คือ การเพิ่มพูนความรู้ แต่การเพิ่มพูนความรู้นั้นต้องอยู่ในขอบเขต เพราะหากออกนอกขอบเขตจะมีอันตราย ดังนั้นในข้อนี้จึงต้องอาศัยตำรา และครูอาจารย์ผู้มีประสบการณ์เป็นผู้นำ

 ๖.การทำความสงบให้แก่ชาวโลก หมายถึง การสร้างสันติภาพให้แก่ชาวโลก ซึ่งเราทั้งหลายควรจะได้ลงทุนเช่นเดียวกัน ดังชาวโลกได้ลงทุน อย่างอื่นๆ หมดเงินมากมายหลายพันล้าน  ยังทำกันได้ หากเราต้องการสันติภาพ เราต้องมาช่วยกันสนับสนุนนโยบายอันนี้ให้แพร่หลายเข้าสู่จิตใจของชาวโลก จะทำให้โลกใบนี้เย็นลงได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้และทั้งนั้นเรามิได้มุ่งตรงต่อศาสนาใดศาสนาหนึ่งโดยเฉพาะ 

การเรียนสมาธิย่อมมีเสรีภาพเชื่อตามศรัทธา ไม่ได้ขัดต่อความเป็นครูสอนสมาธิแต่อย่างใด และครูสมาธิต้องเป็นผู้มีความซื่อสัตย์ มีเมตตาธรรมต่อผู้อื่น และหมู่คณะ รวมทั้งต้องมีกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้มีพระคุณ

"บุญนำพา"