"หลวงพ่อจันทรา จันโชโต" อดีตเจ้าอาวาสวัดแวงชัย ต.แคน อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าอีกรูปหนึ่งที่เรืองวิทยาคม มีชื่อเสียงโด่งดังในพื้นที่อำเภอวาปีปทุม เป็นพระที่มีวิทยาคมแก่กล้าสืบทอดปฏิปทาจากหลวงปู่ทวง วัดบ้านยาง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบูรพาจารย์รุ่นเก่าผู้ทรงอภิญญา

ประวัติหลวงพ่อจันทรา จันทโชโต วัดแวงชัย จ.มหาสารคาม
อัตโนประวัติ เกิดในสกุล วันเว เมื่อปี พ.ศ.2456 ณ บ้านแวงชัย ต.แคน อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เป็นบุตรของแม่มูล วันเว ส่วนชื่อบิดาสืบค้นไม่ได้ ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา ในวัยเยาว์เรียนหนังสือจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนในหมู่บ้าน จากนั้นได้ออกมาช่วยงานครอบครัว แต่ด้วยความที่เป็นผู้มีจิตใจเอนเอียงเข้าหาพระธรรม เมื่ออายุได้ 14 ปี โยมบิดา-มารดา ได้นำบุตรชายไปบรรพชาที่วัดแวงชัย กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเข้าพิธีอุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดบ้านยาง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม โดยมีหลวงปู่ทวง วัดบ้านยาง พระเกจิชื่อดัง เป็นพระอุปัชฌาย์

ภายหลังอุปสมบท ได้จำพรรษาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ณ สำนักเรียนวัดบ้านแวงชัย มุมานะศึกษาเล่าเรียนจนสอบได้นักธรรมชั้นโท นอกจากนี้ ท่านยังให้ความสนใจด้านวิทยาคม ในยุคนั้นชื่อเสียงของหลวงปู่ทวง พระอุปัชฌาย์ของท่านมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว ท่านจึงขอฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิทยาคมกับหลวงปู่ทวง ซึ่งหลวงปู่ทวง ได้เมตตาถ่ายทอดวิทยาคมให้จนหมดสิ้น ควบคู่กับการศึกษามูลกัจจายน์ บาลี อักษรขอม ไทยน้อย อักษรลาว ท่านจึงมีความรู้ความชำนาญ ด้านอักขระโบราณอีกแขนงหนึ่ง นอกจากนี้ ท่านยังชมชอบออกธุดงควัตรไปตามป่าเขาในภาคอีสาน ตามคำชี้แนะของหลวงปู่ทวง ภายหลังจำพรรษาอยู่วัดบ้านแวงชัย ได้ประมาณ 7 พรรษา ในพื้นที่ตำบลแคน เกิดความแห้งแล้งฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลติดต่อกันหลายปี ครอบครัวของท่านได้ย้ายไปทำมาหากินที่บ้านบง จ.นครราชสีมา ท่านได้ติดตามไปดูแลมารดาที่แก่ชรามากแล้ว

ต่อมา วัดบ้านแวงชัย ขาดแคลนพระผู้ใหญ่บรรดาญาติโยม จึงมีมตินิมนต์ท่านให้กลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านเกิด หลังกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านแวงชัย ท่านได้กำหนดกฎระเบียบเข้มไว้ปกครองเป็นแนวปฏิบัติ เช่น ห้ามดูมหรสพ ห้ามอยู่กับญาติโยมผู้หญิงในที่ลับตา หากฝ่าฝืน จะถูกลงโทษทางพระธรรมวินัย ในแต่ละวันจะมีญาติโยมจากทั่วสารทิศ เดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรมและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่เข้มขลัง รวมทั้งปรารถนาวัตถุมงคลตะกรุดที่เข้มขลังจากหลวงพ่อกันอย่างล้นหลาม ซึ่งวัตถุมงคลของหลวงพ่อ จะเด่นด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม

หลวงพ่อจันทรา พร่ำสอนญาติโยมอยู่เสมอ ว่า อย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท เมื่อมีเกิดแล้วก็มีแก่ เจ็บ ตาย จงอย่ายึดมั่นถือมั่น ขณะยังมีชีวิตขอให้ทุกคนหมั่นประกอบแต่กรรมดี มีกตัญญูรู้คุณคน จะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุขและประสบผลสำเร็จตลอดไป สำหรับตำแหน่งทางปกครอง พ.ศ.2482 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดแวงชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อจันทรา ยังได้ชื่อว่าเป็นพระนักพัฒนา นักการศึกษา เนื่องเพราะทราบดีว่าพระภิกษุสามเณรที่มาบวชเรียน ล้วนมาจากครอบครัวที่ยากจน ท่านจึงเปิดสำนักเรียนพระปริยัติธรรม เพื่อไม่ให้พระภิกษุ-สามเณร ต้องเดินทางเข้าไปเรียนถึงในตัวอำเภอ อีกทั้ง ยังนำปัจจัยที่ได้จากการบริจาคมาสนับสนุนการเรียนของพระภิกษุ สามเณร

หลวงพ่อจันทรา ยังพยายามจัดหาครู อาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ มาประจำสำนักเรียน ทำให้ยุคนั้นสำนักเรียนวัดแวงชัย มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ละปีสอบนักธรรมได้เป็นจำนวนมาก มีพระภิกษุ-สามเณรจากทั่วสารทิศ เดินทางมาจำพรรษานับร้อยรูป หลวพ่อจันทรา ตรากตรำงานหนัก ทำให้สังขารท่านร่วงโรยก่อนวัยอันควร ถึงแม้ท่านจะพรรษาน้อย แต่ก็อาพาธบ่อยครั้ง

สุดท้ายหลวงพ่อจันทรา ได้ถึงแก่มรณภาพอย่างสงบ พ.ศ.2508 สิริอายุ 52 พรรษา 32 ณ วันนี้ถึงแม้หลวงพ่อ จะละสังขารไปนานแล้ว แต่คุณงามความดีของท่านยังคงปรากฏอยู่ในใจของชาวมหาสารคามไปตลอดกาลนาน

ข่าวพระเครื่องคอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
เชิด ขันตี ณ พล