โครงการตวันธรรม โดยองค์การเผยแผ่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร สำนักงานเขตบางรัก และโรงแรมตวันนา ร่วมกันจัดโครงการตวันธรรม ครั้งที่ ๓๙ โดยจัดการบรรยายธรรมนัดพิเศษ เป็นภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรก โดยได้รับเกียรติจาก สมเด็จพักชก ริมโปเช สมเด็จพระสังฆราชแห่งกาฐมาณฑุประเทศเนปาล ทรงแสดงธรรมเรื่องตัวตนที่ยิ่งใหญ่ พร้อมกันนี้พระราชปฏิภาณมุนีประธานองค์การเผยแผ่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหารร่วมเจริญสมาธิภาวนา เรื่อง ทางดับทุกข์โดยมีกลินท์สุรวงศ์ บุนนาค กรรมการ บริษัท ตวันนาโฮเต็ล จำกัด และผู้ก่อตั้งโครงการตวันธรรม ถวายการต้อน รับ ที่ห้องศรีสุริยวงศ์บอลรูม โรงแรมตวันนา ถนนสุรวงศ์  ทั้งนี้มีผู้สนใจ ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเข้าร่วมรับฟังการบรรยายธรรมกว่า ๔๐๐ ท่าน ในการบรรยายธรรมวันนั้นมีนักแปลผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาศาสตร์ และ รอบรู้เรื่องราวขนบธรรมเนียมประเพณีของทิเบต/เนปาล เป็นอย่างดี อาทิ รศ.ดร.โสรัจจ์หงศ์ลดารมภ์, รศ.ดร.กฤษดาวรรณหงศ์ลดารมภ์, อาจารย์ทวีศักดิ์คุรุจิตธรรม และมร.โจเอลโฮ ร่วมแปลการบรรยายธรรมครั้งนี้เป็นภาษาไทยเพื่อให้เกิดความเข้าใจง่ายขึ้น การฟังธรรมต้องฟังเป็นโดยคำนึงถึงหลัก ๓ ประการคือ ฟังอย่างระมัด ระวัง ฟังอย่างตั้งใจ มีสติ-สมาธิ ทำตัวเสมือนภาชนะที่เปิด เพื่อการรับรู้ สิ่งต่างๆ ได้  เลือก "จำ" ในสิ่งที่สำคัญสำคัญมาก  และการฟังธรรมที่ดีต้อง มีทัศนคติที่ถูกต้อง คือ ฟังธรรมไม่ใช่เพื่อประโยชน์ต่อตนเองผู้เดียว แต่ ต้องทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น และสัตว์อื่นด้วย"

สมเด็จพักชก ริมโปเช กล่าวว่า "การบรรยาย "ตัวตนที่ยิ่งใหญ่" ในวันนี้มองจากประสบการณ์ของตนเอง เพราะ เมื่อสมัยอายุน้อยกว่านี้ มีทุกข์ อันเกิดจากตำแหน่งริมโปเช ซึ่งทำให้มีผู้ คาดหวังสูง ถูกวางตัวให้เป็นพระอาจารย์ในอนาคต ทำให้เกิดความกดดัน เป็นความ โกรธที่ยิ่งใหญ่ จนกลายเป็นคนขี้โมโห...ครั้นพออยู่ได้๑๖ ปี เข้า มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาพระพุทธศาสนา และเดินทางบ่อยๆ ได้เห็นโลกกว้าง มองเห็น อะไรมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็มีทุกข์ทั้งนั้น และทุกข์ก็มีหลายรูปแบบ ทั้ง พระอาจารย์สั่งสอนและฝึกเรื่อง "ความกรุณา" ซึ่งเป็นคนละแบบกับความเมตตา เพราะถ้าเห็นผู้อื่นเจ็บป่วย เราเห็นตรงนั้นเกิดความสงสาร นี่คือเมตตา แต่ ความกรุณา คือความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำอะไรเพื่อช่วยเหลือเขา ได้ฝึก ตรงนี้ เห็นชัดเลยว่าความโกรธลดลงจริงๆ ความอิจฉาริษยาความหึงหวง อารมณ์หยิ่งยโส คิดว่าตนเองดีกว่าคน อื่น และความโกรธล้วนเป็นทุกข์ ครั้งหนึ่งเคยโกรธ แต่เป็นพระภิกษุตีใครไม่ ได้ เลยปานาฬิกาจนพังไปเลย รู้สึกดีขึ้น แต่เป็นช่วงระยะสั้นๆ พอนึกจะดู เวลาขึ้นมา ไม่มีเวลาให้ดูแล้ว ก็รู้สึกเสียดาย นาฬิกาเรือนนั้นแพงมากด้วย  ฉะนั้นการปล่อยอารมณ์โกรธแบบนี้ ทำครั้งแรกก็โอเค ทำครั้ง ๒ ครั้ง ๓ จะกลาย เป็นนิสัย อย่างนี้ไม่ดี 

แต่...หากเก็บความโกรธเอาไว้ก็ไม่ดีอีกไม่มีผลดีต่อสุขภาพ เคย มีคนแนะนำให้กลืนความโกรธไว้ที่คอตรงนี้เป็นอันตราย อาจเป็นสาเหตุของการ เกิดมะเร็งได้ ฉะนั้น จะโพล่งออกมาก็ไม่ได้ จะเก็บไว้ก็ไม่ดี จะทำอย่างไร ฉะนั้นอารมณ์ความโกรธเป็นตัวบ่อนทำลายเป็นทุกข์หากปล่อย ทิ้งไว้จะเป็นปัญหาหมักหมม  กว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว ให้หาต้นตอของปัญหา และหาวิธีจัดการ ให้หาความเป็นตัวตน ยิ่งติดยึดก็ยิ่งทุกข์ ปลดปล่อยได้ก็ ทุกข์น้อย แล้วให้ค่อยๆ ละตัวตนที่ยิ่งใหญ่ อย่าปล่อยทั้งหมด เพราะตัวตนที่ ยิ่งใหญ่ยังแอบแฝงอยู่ หากวันใดถูกทดสอบขึ้นมามีสภาวะใหม่เข้ามาอารมณ์โกรธ ก็จะเกิดขึ้นได้อีก หากเกิดอารมณ์โกรธให้ปล่อยวาง ท้ายสุดมันก็จะดับตัวของมัน เอง ฝึกลดทอนอารมณ์ และฝึกจิตซึ่งเป็นสาระสำคัญของการบรรยายวันนี้ โดยมอง อะไรให้ว่าง ปลดปล่อย ไม่มีความคิดปรุงแต่ง ไม่เลือกข้าง คือ ไม่มีสูง-ต่ำ/ไม่มีดำ-ขาวแต่ให้วางตัวเป็นกลาง และมองอะไรอย่าคาดหวัง ทั้งไม่กลัวอะไรที่จะเกิดขึ้น...หากปฏิบัติได้อย่างนี้ใจก็บริสุทธิ์ผ่องใส

จบการศึกษาระดับเคนโป"ซึ่งเทียบเท่าปริญญาเอก ทางศาสนาวิทยา จาก องค์สมเด็จทะไลลามะที่ ๑๔ และจากจงซาร์ เคียนเซ ริมโปเช และจบการศึกษาหลัก สูตรพุทธปรัชญาที่สถาบันการศึกษาพุทธศาสนาชั้นสูงจงซาร์ ประเทศอินเดีย ท่านเดินทางเผยแผ่พุทธศาสนาในหลายๆ ประเทศ อาทิ เดนมาร์ก เยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม สหรัฐ อเมริกา แคนาดา นำหลักธรรมในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยถ่ายทอดคำสอนคำบรรยาย ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา ทันสมัย และทันเหตุการณ์ ทำให้ได้หลักข้อ คิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

ตำแหน่งปัจจุบันผู้ครองบัลลังก์สายการปฏิบัติตักลุง การ์จู แห่งวัด รีโวเช วัชราจารย์ของวัดกาญิง เชดรุป ที่โพธนาถ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศ เนปาล เจ้าอาวาสวัดโดงัก ญีดา ซุงเทรล เชดรุป รัลตรี ประเทศเนปาล เจ้าอาวา สวัดปัล การ์จู เชดรุป ตาชี ทาเกย์ พุนสก ประเทศเนปาล ประธานของ รังจุง ยี ชี เช็นเปน อันเป็นองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาส ด้านการศึกษาและสาธารณสุขในประเทศเนปาล นอกจากนี้ท่านยังมีตำแหน่ง ศาสตราจารย์วิชาพุทธปรัชญาจากสถาบันรัง จุง ยีชี ศูนย์พุทธศาสน ศึกษา มหาวิทยาลัยกาฐมาณฑุ ท่านสอนพุทธปรัชญาทั่วไป โดยเฉพาะอย่าง ยิ่ง ปรัชญามาธยมิกะ 

การศึกษาได้รับวุฒิทางการศึกษาระดับเคนโป เทียบเท่าปริญญา เอก (Ph.D.) ทางศาสนาวิทยาจากองค์สมเด็จทะไลลามะที่ ๑๔ และจาก จงซาร์เคียน เซ ริมโปเช จบการศึกษาหลักสูตรพุทธปรัชญาที่สถาบันการศึกษาพุทธศาสนาชั้นสูง จงซาร์ จากเมืองบีร์ มณฑลหิมาจัล ประเทศอินเดีย ซึ่งเน้นการศึกษาด้านคำสอน ของ สายสาเกียปะ กับ เคนเชน กุงกา วังชุก ริมโปเช และ จงซาร์ เตียนเซ ริมโป เช ซึ่งท่านใช้เวลาในการศึกษาเพียง ๗ ปี จากเวลาปกติ ๙ ปี งานเผยแผ่วิทยากรรับเชิญบรรยายธรรม ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมหลายประเทศ ทั่วโลก อาทิ เดนมาร์ก เยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม สหรัฐ อเมริกา แคนาดา อเมริกาใต้ และ ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฯลฯ นอกจาก นี้ยังเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมหลายแห่งในประเทศมาเลเซีย อีกด้วย

  โครงการตวันธรรม จัดโดยโรงแรมตวันนา ฯลฯ จะมีการนิมนต์พระ เถระทั้งชาวไทยและต่างชาติมาบรรยายธรรมะในโอกาสต่อไปอีก เพื่อเป็นการเพิ่ม ความรู้ทางพระพุทธศาสนาในมุมมองต่างๆ กันผู้สนใจโดยทั่วกัน สอบถามได้ที่โทร .๐-๒๒๓๖-๐๓๖๑

0 บุญนำพา 0