" พระหลวงพ่อคูณ รุ่นกูให้มึง (โดยหลวงพ่อคูณฝากมากับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง) หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ พระนเรศวร พระไพรีพินาศ (ใครมาถามก็จะบอกว่าเป็นพระไพรีขยาด เพราะใครเห็นก็จะกลัว แต่ถ้าเรียกไพรีพินาศข้าศึกตายหมด) พระสมเด็จปากน้ำ รุ่น ๑ (แต่ยังไม่กล้าเอาไปแช่น้ำกลัวจะละลายไปหมด) พระรอด ลำพูน และพระนางพญา" เป็นพระเครื่องที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แขวนติดตัวประจำ ซึ่งเคยให้สัมภาษณ์ "คม ชัด ลึก" ไว้เมื่อครั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนในวงการพระเครื่องให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายสมัครพกเครื่องรางอีก ๒ อย่างซึ่งได้รับมอบจากคนที่นับถือ คือ ๑.ตะกรุดชุด ๔ มหาอำนาจ หลวงปู่เทียม สิริปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราช จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงปู่ท่านเป็นศิษย์สายสำนักวัดประดู่ทรงธรรม ที่สืบทอดตำราพิชัยสงครามและตำราพระเวทมาช้านาน ท่านเป็นศิษย์ของก๋งจาบฆราวาสจอมขมังเวท และยังเป็นศิษย์ของหลวงพ่อต่างๆ อีกหลายรูปด้วยกัน ตะกรุดของท่านมีทั้งมหาปราบ มหาระงับ สี่สมิง สี่มหาอำนาจ และพิชัยสงคราม ส่วนมากจะเรียกกันว่ามหาปราบ มีพุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาดป้องกันภัยอันตราย เป็นที่เกรงกลัวของผีสางที่จะทำอันตรายเรา แม้กระทั่งกันไฟกันฟ้ากันลมพายุ ใครมีบูชาจะบังเกิดความร่มเย็นเป็นสุข และ ๒.ปะคำ ผงยาจินดามณี หุ้มทองคำ หลวงปู่บุญ ขนฺติธโชติ หรือพระพุทธวิถีนายกวัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม ซึ่งเดิมที่เป็นของพระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพยอาภา ผู้สำเร็จราชการแทนรัชกาลที่ ๘ มีการประเมิณค่าน่าจะเฉียดหลักล้านบาท ผงยาจินดามณีของสายวัดกลางบางแก้วนั้น เป็นที่ใฝ่ฝันของนักศึกษาและสะสมวัตถุมงคลมาอย่างช้านาน เพราะพิธีกรรมการสร้าง การรวบรวมมวลสาร การหาฤกษ์พานาที ฯลฯ นั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ครูบาอาจารย์เจ้าที่ทำการสร้างนั้นก็ต้องมีบุญบารมีถึงจะทำให้ผงยาจินดามณี นั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ตามตำรับโบราณ (คุณวิเศษดั่งฝอยท่วมหลังช้าง)

ในครั้งนั้นนายสมัครพูดถึงเหตุผลในการแขวนพระว่า "บางคนแขวนพระเครื่องแล้วเกิดแคล้วคลาดเป็นปาฏิหาริย์ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นปาฏิหาริย์ แต่เกิดขึ้นในใจของเรา ที่เป็นเหมือนพลังความศรัทธาในสิ่งนั้นๆ มากกว่าจะเป็นปาฏิหาริย์เหมือนที่หลายคนเชื่อ เนื่องจากถ้าคนเรารู้ว่ากำลังทำอะไร ดำเนินชีวิตกันอย่างมีสติสัมปชัญญะเพียงเท่านี้ ความประมาทที่อาจถึงชีวิตก็คงไม่เกิดขึ้น ถ้าทุกคนมีความระมัดระวังทุกการก้าวเดินก็ทำให้ชีวิตไม่ประมาท" นอกจากนี้แล้วนายสมัครยังมีความศรัทธาในครูเทพ หรือพ่อแก่ หรือฤๅษี อีกด้วย ทั้งนี้เขาจะไหว้พ่อแก่ด้วยผลไม้ ท่องนะโม ๓ จบ แล้วก็ไหว้เป็นประจำทุกวันพฤหัสบดี ด้วยเหตุที่ว่าการไหว้แบบนี้ก็เหมือนว่าเราเป็นศิษย์มีครู แม้เล่นดนตรีไทยไม่เป็นเลย แต่ก็ร้องเพลงไทยเดิมได้มากมาย ก่อนจะร้องอะไรหรือทำอะไรเกี่ยวกับการร้อง การไหว้ครูก็เป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น นอกเหนือจากนี้ก็จะไหว้พระพุทธรูปบูชาทุกวันจันทร์ เพื่อจะทำให้จิตใจสบายในการเริ่มต้นทำงาน ขณะเดียวกันนายสมัยยังมีความเชื่อเกี่ยวกับศาสตร์ฮวงจุ้ย ที่ถือเป็นส่วนประกอบของธรรมชาติ ซึ่งแบ่งเป็นอิม เอี๊ยง (หรือ อิน หยาง) อันเกิดจาก ๕ ธาตุ มีบทบาทเกื้อหนุนกัน และหักล้างกัน ฮวง เคลื่อนไหว แต่มองไม่เห็น เป็น อิม เสมือนไฟฟ้าขั้วลบ จุ้ย เคลื่อนไหว และมองเห็น เป็น เอี๊ยง เสมือนไฟฟ้าขั้วบวก และในอิม (ดำ) ก็มีเอี๊ยง (ขาว) ในเอี๊ยง (ขาว) ก็มีอิม (ดำ) พร้อมกับให้เหตุผลว่า "จริงๆ ผมก็รู้สึกเฉยๆ กับสิ่งเหล่านี้ แต่เมื่อเขามาดูให้แล้วปรับตามเขา ผมว่ามันก็ไม่เป็นอะไร อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจ ซินแซก็ยังบอกว่ากฎเกณฑ์ต่างๆ ในทางฮวงจุ้ยเป็นร้อยเป็นพันอาจไม่ใช่กฎเกณฑ์ตายตัวเสมอไป เพราะทุกข้อห้ามข้อบัญญัติ จะมีข้อยืดหยุ่นหรือข้อยกเว้นได้เช่นกัน เหตุผลก็เพราะสภาพแวดล้อมในแต่ละสถานที่ ย่อมมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกันเลย ร้อยบ้านก็ร้อยแบบ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับแบบ รูปทรง หรือทิศทางของมันด้วย" 

สวดนพเคราะห์สร้างบุญ  อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ เลขาธิการสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ หรือโหรฟันธง บอกว่า ก่อนและระหว่างเป็นนายกรัฐมนตรีนายสมัครพยายามแก้เคราะห์และพยายามสร้างแต่ กรรมดีโดยตลอด โดยเฉพาะในวันก่อนที่โหวตหานายกรัฐมนตรีท่านนิมนต์พระ ๙ รูป จาก ๙ วัด ที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เช่น เจ้าอาวาสวัดบ้านแหลม จ.สมุทรสงคราม เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เจ้าอาวาสวัดโสธร จ.ฉะเชิงเทรา และพระครูภาวนาโสภณ วัดป่าธรรมโสภณ ลพบุรี มาประกอบพิธีนพเคราะห์ ซึ่งเป็นการบูชาเทวดา ๙ หมู่ ตามคติความเชื่อว่าผู้ที่บูชานพเคราะห์จะได้รับความคุ้มครองจากเทวดาทั้ง ๙ ไปตลอดปี อย่างไรก็ตามในวันดังกล่าวนั้นพระพรหมเวที เจ้าอาวาสเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม และพระเทพภาวนาวิกรม หรือเจ้าคุณธงชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม ฝากโครงการก่อสร้างสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ) ของวัดให้นายสมัครเข้ามาดูแล โดยนายสมัครก็ตอบตกลงที่จะดูแลโครงการดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างบุญอันยิ่งใหญ่ และในวันเดียวกันนั้นเจ้าคุณธงชัยได้มอบพระกริ่งเสาร์ ๕ หรือพระกริ่งสมเด็จเจ้าพระยา ๒ ซึ่งสร้างไว้เมื่อปี ๒๕๕๐ จำนวน ๓๗๒ องค์ และพระกริ่งพฤหัสบดี หรือพระกริ่งสมเด็จเจ้าพระยา ๑ ซึ่งสร้างไว้เมื่อปี ๒๕๔๙ จำนวน ๑๒๘ องค์ รวม ๕๐๐ องค์ มอบให้นายสมัครเพื่อไว้แจกกับคณะรัฐมนตรีรวมทั้งคนที่นับถือใกล้ชิดเพื่อ เป็นการเสริมสร้างบุญบารมี

นอกจากนี้แล้วนายสมัครยังสร้างบุญบารมีด้วยการไปประธานฝ่ายฆราวาสในการเททอง หล่อพระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหู หรือ หลวงพ่อพระนอน ณ วัดไตรมิตร เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๕ เวลา ๑๘.๓๓ น. ตามตำราโหราศาตร์เป็นวันที่พระราหูจะโคจรโยกย้ายจากราศีกุมภ์ไปสู่ราศีมังกร ย้ายจากตำแหน่งเกษตราธิบดี ไปเป็นมหาจักร ซึ่ง ๑๘ ปี จึงจะมีตำแหน่งอย่างนี้ครั้งหนึ่ง พระราหูในมุมทางโหราศาสตร์ ถือเป็นฝ่ายบาปพระเคราะห์ มีตัวแทนคือเลข ๘ มีกำลังคือ ๑๒ เพราะราหูสร้างจากผีโขมด ๑๒ ตัว ตามหลักของเทวกำเนิด เพราะฉะนั้น ราหู จึงเป็นลักษณะของปีศาจ กินของคาวหวาน เป็นลักษณะของมาร คือ จอมมาร แต่ในชาติในภพหนึ่งนั้นก็เป็นผู้ที่ได้อธิษฐานตนและเป็นผู้ปฏิบัติธรรมในขณะ ที่เฝ้าพระพุทธองค์ จึงเป็นที่มาของปางสีหไสยาสน์ และนำไปสู่การบรรลุข้อธรรม แล้วก็ได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งชื่อว่า นารทะ ที่พระพุทธองค์มีพุทธพยากรณ์เอาไว้

 "การสร้างพระปางนี้ตามคติโหราศาสตร์เชื่อว่าเป็นการข่มอิทธิฤทธิ์ ร้ายๆ ของพระราหู ส่วนคติความเชื่อในทางพุทธศาสนาเป็นการดับชนวนเภทภัยของบ้านเมือง ในวันเดียวกันนั้นเจ้าคุณธงชัยยังจัดพิธีมหามงคล เพื่อตัดไม้ข่มนาม หรืออาศัยอำนาจพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ลดกำลังความร้ายกาจจากองค์พระราหูด้วย ขณะเดียวกันนายสมัครยังเททองหล่อพระกริ่งนายกอีกจำนวน ๕๐๐ องค์ โดยอาจารย์ถนอม สอนหุนะ (ตุ๊กแก) ศิษย์เอกของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร เป็นผู้ลงยันต์นะ ๑๐๘ ปถมัง ๑๔ พระกริ่งดังกล่าวเข้าพิธีเทวาภิเษก ณ ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร และพุทธาภิเษกในพิธีนพเคราะห์ที่วัดไตรมิตร ในวันที่ ๒๑ เมษายน ซึ่งเป็นวันเกิดของดวงเมือง เพื่อมอบเป็นที่ระลึกบริวาร" โหรฟันธง กล่าว เรื่องไตรเทพ ไกรงู/ภาพ ชาญณรงค์ พรดิลกรัตน์ ข่าวพระเครื่อง