คอลัมน์ สดจากหน้าพระ
พระวินยาธิการ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ตำรวจพระ" เป็นพระภิกษุที่ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าคณะจังหวัดหรือ เจ้าคณะผู้ปกครอง ให้เป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนการปกครองของเจ้าอาวาสและเจ้าคณะผู้ปกครอง เพื่อความเรียบร้อยถูกต้องและความดีงามตามหลักพระธรรม วินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช และคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน

พระวินยาธิการมี 2 ประเภท ประเภทแรก พระวินยาธิการประจำเขต หมายถึง พระวินยาธิการมีอำนาจตรวจตราดูแลเฉพาะเขตนั้นๆ
ประเภทที่สอง พระวินยาธิการส่วนกลาง ขึ้นตรงกับเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เป็นผู้แต่งตั้งโดยตรง พระวินยาธิการส่วนกลางนี้สามารถออกตรวจได้ทั่ว กทม. ทั้งสองประเภทนี้ จะต้องทำหน้าที่ตรวจตรา ชี้แจง แนะนำพระภิกษุ สามเณรให้ปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย และนำพาพระภิกษุสามเณรผู้ประพฤติฝ่าฝืน มอบให้ผู้ปกครองสงฆ์ในเขตนั้นๆ แล้วแต่กรณีพิจารณา

ตำแหน่งนี้ไม่มีการเปิดรับสมัคร แต่จะเป็นการคัดเลือก โดยดูจากคุณสมบัติของพระภิกษุที่สามารถจะเป็นพระวินยาธิการได้นั้น ต้องมีพรรษาพ้น 5 พรรษา มี ความรู้นักธรรมชั้นเอก มีร่างกายสมบูรณ์ ไม่ทุพพลภาพ และจะต้องได้รับการคัดเลือกจากเจ้าอาวาส เจ้าคณะแขวง เจ้าคณะเขต จนมาถึงระดับเจ้าคณะจังหวัด พระที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระวินยาธิการ จะได้รับบัตรประจำตัว ซึ่งมีวาระ 1 ปี เมื่อสิ้นสภาพการเป็นพระวินยาธิการ ตามวาระ แต่มีผลงานจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระวินยาธิการใหม่ได้อีก โดยต่ออายุบัตรให้ นอกจากพ้นตามวาระปกติแล้ว ยังพ้นสภาพต่อเมื่อพ้นจากการเป็นพระภิกษุ ลาออก มรณภาพ และเจ้าคณะผู้แต่งตั้งสั่งให้ออก

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดสัมมนา "พระวินยาธิการ" หรือ "ตำรวจพระ" เพื่อหาทางป้องกันพระภิกษุแตกแถว ณ วัดเสมียนนารี เขตจตุจักร กรุงเทพฯ มีพระวินยาธิการในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 200 รูป และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องหรือที่มีหน้าที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการคุ้มครองพระพุทธศาสนา เข้าร่วมประชุม โดยมี พระธรรมสุธี เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ในฐานะหัวหน้าพระวินยาธิการ เป็นประธานการประชุม พระธรรมสุธี กล่าวให้โอวาทเปิดการประชุมตอนหนึ่ง ว่า สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้เกิดปัญหาปลอมบวชมากขึ้น เพราะคนมองว่าการเป็นพระสงฆ์สามารถหาเงินได้ง่ายที่สุด แค่ยอมโกนหัว และห่มจีวร ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ พระวินยาธิการในเขต กทม. ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการจับกุมกลุ่มคนที่มาปลอมบวชกลุ่มหนึ่ง พบว่าคนกลุ่มนี้มาจากตำบลหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ มีอาชีพทำนา แต่พอหมดช่วงทำนาก็จะรวมกลุ่มปลอมบวชเป็นพระเข้ามาเรี่ยไรเงินในกทม. เรียกว่า ทำกันทั้งตำบล

"พระธรรมสุธี" กล่าวต่อว่า พระวินยาธิการยังได้รับการร้องเรียนจากทางโรงพยาบาลสงฆ์ด้วยว่า พระสงฆ์บางรูปเข้าไปหาผลประโยชน์ที่โรงพยาบาล เพราะจะมีประชาชนไปทำบุญอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะเตียงที่อยู่ใกล้ประตู ทำให้พระบางรูปพยายามจะวิ่งเต้น เพื่อให้ได้นอนเตียงใกล้ประตู และจะทำทุกวิถีทางให้ได้อยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์ต่อ โดยใช้วิธีการฉันน้ำตาลทำให้น้ำตาลในเลือดสูง เพื่อให้ได้อยู่ที่โรงพยาบาลต่อ ทางโรงพยาบาลจึงต้องแจ้งมายังพระวินยาธิการ เพื่อให้เจ้าคณะผู้ปกครองดำเนินการ นอกจากนี้ ยังมีคนร้องเรียนด้วยว่า ย่านบางซื่อ มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ยอมโกนหัว ในช่วงกลางวันแต่งกายเลียนแบบแม่ชี เพื่อออกไปเรี่ยไรเงิน แต่พอตกกลางคืนผู้หญิงกลุ่มนี้ก็จะนำวิกผมมาใส่แล้วขายบริการทางเพศ ซึ่งกรณีนี้พระวินยาธิการไม่สามารถที่จะไปดำเนินการได้ จึงจะต้องนำข้อมูลไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เพื่อดำเนินการต่อไป จะเห็นได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับความมั่นคงของพระพุทธศาสนามีอยู่มาก จึงอยากให้พระวินยาธิการเข้มแข็ง เพื่อรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของพระพุทธศาสนา

ด้าน"นายอำนาจ บัวศิริ" ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า กรณีของกลุ่มผู้หญิงที่ปลอมเป็นแม่ชีตอนกลางวัน และพอตกกลางคืนจะนำวิกผมมาใส่แล้วขายบริการทางเพศ แถวย่านบางซื่อ นั้น ขณะนี้สำนักพุทธฯ เตรียมประสานไปยัง กทม. เพื่อขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตามพื้นที่ต่างๆ คอยเป็นสายให้ เมื่อพบเห็นพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย ขอให้แจ้งมาที่สำนักพุทธฯ ทันที โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะเป็นฝ่ายที่ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องค่าโทรศัพท์ให้ อย่างไรก็ตาม ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพื่อให้ช่วยแจ้งเบาะแส และบริเวณที่พบพวกที่ใช้ผ้าเหลืองหากิน และแม่ชีปลอม โดยจะให้แจ้งมาที่ส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และทางส่วนคุ้มครองจะส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการในทันที

"รศ.ดร.สุภาพรรณ ณ บางช้าง" (แม่ชีวิมุตติยา) ประธานหอพระไตรปิฎกนานาชาติ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ(กวช.) กล่าวว่า กรณีมีกลุ่มคนปลอมบวชเป็นแม่ชีในตอนกลางวัน แล้วตอนกลางคืน ใส่วิกผมไปขายบริการทางเพศนั้น ถ้าพบกลุ่มคนประเภทนี้ ที่ไหนต้องดำเนินการจับกุม และนำมาลงโทษอย่างหนักหน่วง รวมทั้งทำให้ประชาชนเห็นการลงโทษอย่างชัดเจนด้วย "คนในยุคนี้ ทำอะไรได้ทุกอย่าง แม้แต่ปลอมบวชเป็นแม่ชี เป็นพระ เพื่อประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่เลวมาก มีอย่างที่ไหนเช้าเป็นแม่ชี กลางคืนใส่วิกไปขายบริการ อย่างไรก็ตาม ดิฉันคิดว่า เรื่องนี้ไม่น่ากระทบต่อภาพลักษณ์ของแม่ชีไทย ที่มีอยู่ประมาณ 2 หมื่นคน เพราะบุคคลที่ทำนั้น เป็นกลุ่มคนปลอมบวช ไม่ใช่แม่ชีจริงๆ และคิดว่า พุทธศาสนิกชนมีวิจารณญาณแยกแยะว่า กลุ่มไหนกระทำผิด" แม่ชีวิมุตติยา กล่าว

"พระรัตนเมธี" วัดแก้วฟ้าจุฬามณี ในฐานะหัวหน้าพระวินยาธิการ หรือตร.พระ ในเขตกทม. กล่าวว่า ได้สั่งการให้พระวินยาธิการทุกเขตในกรุงเทพฯ ตรวจสอบตามแหล่งชุมชน ตลาดทุกแห่ง พร้อมทั้งประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบหากลุ่มผู้หญิงที่ในช่วงกลางวันปลอมเป็นแม่ชีออกเรี่ยไรเงิน แต่พอตกกลางคืนนำวิกผมมาใส่แล้วขายบริการทางเพศ เนื่องจากภายหลังที่สั่งการให้พระวินยาธิการ เขตบางซื่อ ตรวจสอบแล้วไม่พบกลุ่มผู้หญิงที่มีพฤติกรรมดังกล่าว จึงเชื่อได้ว่าจะมีการย้ายแหล่งหากินไปแล้ว เพราะตามธรรมชาติของพวกที่ปลอมบวชทั้งเป็นแม่ชีและพระสงฆ์ จะหากินในบริเวณเดิมไม่นาน จะย้ายแหล่งหากินไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นที่น่าสงสัย ทั้งนี้ ยอมรับว่าปัจจุบันพระวินยาธิการ ทำงานลำบากมากขึ้น เพราะกลุ่มมารศาสนาจะเปลี่ยนวิธีการหากินไปตลอด จึงอยากขอความร่วมมือไปยังประชาชนด้วย หากพบเห็นพระสงฆ์ หรือแม่ชี ที่มีพฤติกรรมผิดสังเกต ก็ไม่ควรไปทำบุญ เช่น กรณีที่พระสงฆ์บิณฑบาตอยู่กับที่ เพราะการบิณฑบาตอยู่กับที่เป็นการทำผิดพระวินัย หรือหากเป็นการเรี่ยไรเงิน ก็ควรมีการขอดูใบอนุญาตจากพระที่มาขอเรี่ยไรก่อน หากเป็นการเรี่ยไรภายในจังหวัดเดียวกันต้องมีใบอนุญาตจากเจ้าคณะจังหวัด หากเป็นการเรี่ยไรข้ามจังหวัดต้องมีใบอนุญาตจากมหาเถรสมาคม (มส.) แต่ถ้าพบว่าพระสงฆ์ที่มาเรี่ยไรเงินนำใบอนุญาตจากทางวัดมาก็อย่าไปบริจาคเงินเด็ดขาด "บางทีพบพระที่นั่งบิณฑบาตอยู่กับแม่ค้าขายกับข้าวถุง เมื่อเข้าไปตักเตือน กลับโดนแม่ค้าต่อว่าส่งเสียงดังกลับมาอีก ว่าทำไมไม่ไปทำอย่างอื่น คนจะทำมาหากิน ทำให้คนบริเวณนั้นมามุงดู พระวินยาธิการก็ทำงานได้ลำบาก ซึ่งบริเวณที่มีปัญหามากที่สุด คือ ตลาดวังหิน ตรงสี่แยกวังหิน ตลาดดินแดง และตลาดสดย่านบางขุนเทียน โดยเฉพาะตลาดวังหินพระวินยาธิการ จะถูกแม่ค้าที่หากินกับพระต่อว่าบ่อยครั้งที่สุด" พระรัตนเมธีกล่าวอย่างไรก็ตาม หากพบเห็นพระภิกษุที่มีความประพฤติไม่เหมาะกับสมณสารูป แจ้งได้ที่ โทร.0-2243-7715