พระเครื่อง อมูเลทตั้มศรีวิชัย ตลาดพระเครื่องรางของขลัง สวนไผ่สกลนคร หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล วันตรุษจีน2567
>...ตั้มศรีวิชัย TumAmulet ...< Thailand Amulet Charms |
คำแนะนำจากตำรวจเมื่อถูกโกง |
เงื่อนไขการรับประกัน การันตีพระเครื่อง |
สารบัญพระเครื่องเมืองนคร |
ทำเนียบพระกรุเมืองนคร |
ทำเนียบพระเครื่องเมืองนคร |
ชมรมพระเครื่อง |
บูชาพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง Amulets Charms Talismans |
ตลาดพระ amulet for you |
เช่า-บูชา เครื่องรางของขลัง |
พระหลวงปู่ทวด วัดต่างๆ |
จตุคาม-รามเทพ หลักเมืองนคร Jatukamramtep (Jatukarm) |
หลักเมืองนครศรีธรรมราช |
จตุคาม ของดีนำมาโชว์ |
บทความ น่ารู้องค์พ่อจตุคาม |
Jatukam Amulets |
บทความจตุคามรามเทพ |
ลิงค์น่าสนใจ |
หนังสือพิมพ์ |
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน |
เทศกาล วันสำคัญ |
ดวง ดูดวง หน้าหลัก |
บทความดีๆ |
นิทานสอนใจ |
วัฒนธรรมไทย ประเพณีไทย |
บทสวดมนต์ สำหรับชาวพุทธ |
พระเครื่อง นานาสาระ |
พระพุทธรูปสำคัญของไทย |
คาถา-อาคม พระคาถาอาคม |
พระพุทธรูปปางต่างๆ |
พุทธศาสนสุภาษิต |
ข่าวพระเครื่อง |
บทความพระเครื่อง |
Thai Buddha Amulets |
ข่าวพระพุทธศาสนา |
ข่าวเครื่องรางของขลัง |
สาระพระเครื่องไทย |
ประวัติพระวิปัสสนาจารย์ |
สวนไผ่ พันธุ์หญ้า ธนภัทรสกลนคร สินค้าเกษตรออนไลน์ ไผ่สายพันธุ์ต่างๆ ไผ่ข้าวหลามกาบแดง ไผ่ซางหม่น หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้านรกจักรพรรดิ์ หญ้าเนเปียร์ปากช่อง1 หญ้าเนเปียร์แคระ หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ สะสมพระเครื่อง แต่ใจรักเกษตรผสมผสาน
|
เล่นพระ...คนละมุม ในวงการพระเครื่อง
เล่นพระ...คนละมุม ในวงการพระเครื่องมีคำพูด (ภาษาเซียน) ซึ่งมีความหมายว่า "ปลอม" อยู่หลายคำ เช่น ชุกซัว ซาลูตู้ ดุ๊ย กระตู้ฮู้ พระไม่ถูกพิมพ์แต่เนื้อถึง พระไม่มีพุทธคุณ พระไม่มีพลัง ไม่ถึงยุค อายุไม่ถึง ไม่ถนัดพระเนื้อนี้ ผิดทาง และพระดูยาก (คำนี้อาจจะใช้ได้ทั้งเก๊ดูยากและแท้ดูยาก) หากใครได้ยินคำเหล่านี้เข้า ก็ขอให้ทำใจเผื่อไว้ล่วงหน้าด้วย เพราะการปลอมพระนั้นเป็นเรื่องที่จะประมาทไม่ได้ พระมีการพัฒนาและลงทุนมากขึ้นทุกขณะ มีมาตั้งแต่พระเครื่องเริ่มมีราคาเช่าหากัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พระบางองค์มีอายุปลอมเฉียดๆ ๑๐๐ ปี เพราะพระบางองค์เจ้าของได้รับการสืบทอดมาจากคนรุ่นทวด แต่เจ้าของพระลืมไปว่าการปลอมพระมีกันมาตั้งแต่คนรุ่นทวดเช่นกัน อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย จะพยายามสร้างมาตรฐานให้วงการพระเครื่องโดยมีการออกใบรับรองพระแท้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นที่ยอมรับเสมอไป โดยเฉพาะการไม่ยอมรับของ "ชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม" ซึ่งมี นายกล้า เกษสุรินทร์ชัย เป็นประธาน ถึงขนาดกับมีการเปิดฝึกอบรมส่องพระสมเด็จพร้อมมอบไปรษณียบัตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเกียรติว่าเป็นผู้รู้จริงๆ ไม่ใช่รู้เพียงแค่พื้นฐานเท่านั้น ขณะเดียวกันยังมีการจัดพิมพ์หนังสือ "พระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม จักรพรรดิแห่งพระเครื่องไทย" ความหนากว่า ๔๐๐ หน้า สี่สีทั้งเล่มเข้าเล่มเย็บกี่อย่างดี วางจำหน่ายตามแผงหนังสือชั้นนำ แม้ว่าเซียนพระของสมาคมพระเครื่องจะระบุว่าเป็นการเล่นพระผิดทาง รูปพระสมเด็จที่จัดพิมพ์ในหนังสือเป็นพระที่วงการไม่เล่นกัน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยสนใจการเล่นพระและซื้อหนังสือในแนวของชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม นายกล้าบอกว่า ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้เล่นพระมีมาอย่างต่อเนื่อง ข้อเท็จจริงในการจัดสร้างพระสมเด็จวัดระฆังของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ยังหาข้อยุติไม่ได้ว่าท่านลงมือสร้างเมื่อใด แต่ก็มีผู้สันนิษฐานที่แอบอ้างว่ามีการสร้างจำนวนน้อย เช่น อ้างว่ามี ๔ พิมพ์ทรง แต่ละพิมพ์ทรงมีเพียง ๔-๕ แบบบล็อกแม่พิมพ์เท่านั้น ซึ่งมีปัญหาว่าทั้งๆ ที่ผู้แอบอ้างว่ารู้ดีนั้นก็เกิดไม่ทันเหมือนกัน ทำไมจึงไม่คิดว่าแนนการเล่นของกลุ่มตนเป็นการเล่นในแนวที่คับแคบ หลงผิด หรือเล่นเพื่อผูกขาดตัดตอน เคยคิดบ้างไหมว่าแนวทางที่เล่นนั้นผิด ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการทำลายบล็อกแม่พิมพ์อื่นๆ ที่สมเด็จโตสร้างขึ้นมา อย่างไรก็ตามจากการรวบรวมของชมรม พิมพ์ทรงของพระสมเด็จ เฉพาะพิมพ์ทรงใหญ่เท่าที่รวบรวมมีบล็อกแม่พิมพ์มากถึง ๙๒ พิมพ์ พิมพ์ทรงเจดีย์มีบล็อกแม่พิมพ์ ๘ พิมพ์ พิมพ์เกศบัวตูมมีบล็อกแม่พิมพ์พิมพ์ 3 พิมพ์ พิมพ์ฐานแซมมีบล็อกแม่พิมพ์ ๖ พิมพ์ พิมพ์ทรงเส้นด้ายมีบล็อกแม่พิมพ์ ๓ พิมพ์ พิมพ์ทรงปรกโพธิ์เจดีย์มีบล็อกแม่พิมพ์ ๒ พิมพ์ และพิมพ์ทรงอกครุฑเศียรบาตรมีบล็อกแม่พิมพ์เพียง ๑ พิมพ์ ใครว่าพระสมเด็จที่สมาชิกทางชมเล่นเป็นของปลอม หากมีพระเหมือนรูปภาพตามรูปในหนังสือ โดยเฉพาะพระสมเด็จพิมพ์ทรงใหญ่ ตั้งแต่แม่พิมพ์ที่ ๑-๑๓ ที่บันทึกไว้ในหนังสือ เพียงนำพระมาให้ดูเฉยๆ เอาค่ารถค่าเสียเวลาไปเลย ๑ หมื่นบาท ไม่จำเป็นว่าจะต้องเช่าบูชา และหากเปิดราคาให้เช่าในราคาหลักล้านก็มีผู้ยินดีเช่าบูชา" ทั้งนี้นายกล้าพูดทิ้งท้ายไว้อย่าน่าคิดว่า "พระแท้ไม่แท้อยู่ที่องค์พระไม่ได้อยู่ที่คนดู ผู้ที่ได้รับพระเครื่องที่เป็นมรดกตกทอดจากปู่ ยา ตา ยาย รวมทั้งผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ หากนำพระที่ห้อยอยู่ไปให้เซียนพระดูแล้วบอกว่าเป็นพระไม่ถึงยุค ก็อย่าคิดถอดพระหรือไม่แขวนพระองค์นั้นเลย ให้คิดเสียว่าเซียนตาไม่ถึง หรือมีความรู้ไม่มากพอ และให้คิดเสียว่าพระองค์นั้นๆ เป็นของที่ระลึก ผู้ให้มีเจตนาดี พระทุกองค์สามารถใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจได้เสมอ" ทางใครทางมัน ในวงการพระเครื่องมีความขัดแย้งเรื่องพระเครื่องตลอดเวลา อย่างกรณี “พระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก” แบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย คือ "เซียนบางกลุ่มยอมรับว่าแท้ แต่อีกหนึ่งกลุ่มบอกว่าเก๊" เลยกลายเป็นพระมีปัญหา ถกเถียงกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่านายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการค้นหาความจริงพระถ้ำเสือกรุวัดเขาดีสลัก และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุพรรณบุรี เคยเปิดให้บูชาหาเงินสร้างกุศลมาแล้วองค์ละ ๕,๐๐๐-๖,๐๐๐ บาท เมื่อเกือบสิบปีที่ผ่านมา แต่เซียนพระยังไม่ยอมรับอยู่ดี "ความเห็นไม่ตรงกัน หรือความชอบไม่ตรงกันเป็นเรื่องธรรมดาของทุกวงการไม่เฉพาะแต่วงการพระ ข้อถกเถียงและข้อขัดแย้งของพระรุ่นหนึ่งรุ่นใดเกิดขึ้นกับวงการพระเครื่องมาตลอด ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ ในช่วงจตุคามรามเทพได้รับความนิยม บางคนเลือกเก็บเฉพาะที่หลวงหนุ่ยเป็นเจ้าพิธี ในขณะที่อีกกลุมหนึ่งเล่นของสายโกผ่อง รวมทั้งเลือกเก็บเฉพาะจตุคามฯ ที่จัดสร้างจาก จ.นครศรีธรรมราชเท่านั้น ใครชอบแนวไหนก็เล่นแนวนั้น การสะสมพระเครื่องเป็นความชอบส่วนบุคคล ที่สำคัญเราไม่ได้เป็นเจ้าของเงินอย่าไปเดือดร้อนแทนเขา" นี่เป็นความเห็นของนายวันชัย สอนมีทอง ประธานฝ่ายประสานงานสื่อมวลชนสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย ด้าน พ.อ.อ.โกวิท แย้มวงษ์ หรือที่รู้จักกันในนาม "จ่าโกวิท" บรรณาธิการนิตยสาร "พระเครื่องอภินิหาร" และเจ้าของ www.jarkowit.com ผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการพระเครื่องมากว่า ๓๐ ปี บอกว่า เรื่องของการเล่นพระเป็นเรื่องของนานาจิตตัง ชอบใครชอบมัน การที่จะบอกว่าเป็นการเล่นพระผิดทางนั้นเป็นเรื่องอยาก เพราะต่างฝ่ายก็ต่างบอกว่าแนวทางที่กลุ่มของตนเล่นนั้นถูกต้อง อย่าว่าแต่คนภายนอกสมาคมเลย แม้ในสมาคมจะรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันแต่ก็ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกรณีพระถ้ำเสือ กรุวัดเขาดีสลัก พระขุนแผน หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ กลุ่มเซียนพระในท้องถิ่นเล่นแบบหนึ่ง ส่วนเซียนพระในกรุงเทพฯ เล่นอีกแบบหนึ่ง อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบการเล่นพระระหว่างชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม กับสมาคมพระเครื่อง สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ ชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยามจะเน้นไปที่ลักษณะของวิชาการ พระเครื่องพิมพ์ทรงและรุ่นเดียวกัน นอกจากมวลสารเหมือนกันแล้วขนาดต้องเท่ากันทุกองค์ (กว้าง ยาว หนา) ส่วนสมาคมเล่นในลักษณะปฏิบัติ ความแท้จริงของพระอยู่ที่เซียนเป็นผู้ชี้ขาด ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ ใครที่บอกว่าชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยามเล่นพระเก๊ แต่ชมรมนี้ก็ประกาศเช่าพระที่เซียนบอกว่าเก๊มาตลอด โดยพร้อมที่จะเช่าซื้อในราคาหลักล้าน ที่สำคัญคือแค่เอาพระมาให้ดูก็ได้ค่าน้ำมันรถและค่าเสียเวลา ๑๐,๐๐๐ บาททันที แต่ปรากฏว่าไม่มีใครหาพระมาให้เช่าได้เลย ข่าวพระเครื่อง ที่มาหนังสือพิมพ์คมชัดลึก เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (151538) | |
ใช้หลักวิชาการ วิทยาศาสตร์จะถูกต้องกว่าครับ ใช้กลุ่มคนที่พรรคพวกกันเองยกย่องว่าเป็นเซียนมาตัดสินพระ แต่ไม่ได้ส่องนิสัยใจคอสันดานคนๆนั้นเลย บางคนไม่มีจริยธรรม ไม่มีคุณธรรม จักพรรดิ์แห่งพระเครื่องเมืองสยาม ของผู้อื่นที่ไม่ใช่ของตน ก็เห็นเป็นแค่เศษอิฐ เศษปูน ไร้ค่า ไร้ราคา สวดหน้่าตาเฉย ส่งประกวดก็ไม่มีทางผ่าน เพื่อให้เจ้าของพระไขว้เข้ว จำต้องเอาไปแห่เซียน ก็จะถูกกดราคา (บัดซบจริงๆ) หลายคนต้องยอม เมื่อตกไปอยู่ในมือกลุ่มพรรคพวกตัวเองแล้ว ราคาคุยกันไม่รู้เรื่องเลย โอ้อนิจจา ขบวนการอะไรเนี่ย รวยกันไม่พอจริงๆ เซียนบางคนก็ยังมาด่าว่าอีก ว่าเป็นพวกกะโหลกกะลาแต่มีพระสมเด็จ เซียนมันก็ลืมไป ว่าทีี่มันรวยได้ก็เพราะพวกกะโหลกกะลาไง ถ้าไม่มีพวกนี้ใครเขาจะเอาไปขายให้พวกท่านละครับ ดูถูกคนที่มีพระดีๆที่ทำให้ตัวเองรวย เออ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อ้า วันที่ตอบ 2013-02-15 17:03:01 |
ความคิดเห็นที่ 2 (153752) | |
เซียนพระนี่ อย่าได้เข้าใกล้เลย พระดีดีมันบอกแก๊ จะบอกว่า คนทั่วๆไปเนียก็สามารถเป็นเซียนได้ถ้ารู้จักศึกษาอย่างแท้จริงโดยไม่พึ่ง ตำราเซียน มีข้อมูลมากมาย และจะบอกอีกว่า พระสมเด็จแท้ๆมีตั้งหลายพิมพ์ หลายเนื้อ แต่วงการเค้าเล่นอยู่ไม่กี่พิมพ์เอง เพราะต้องการทำการตลาด ด้านราคาให้ขึ้นไวไว จำกัดให้เหลือน้อยชิ้น เพื่อให้ดูมีน้อยหายาก แล้วโจมตีพระนอกวงการว่า เก๊ตั้งแต่อดีต ซึ่งมันก็มีเก๊บ้าง แท้บ้าง แต่แท้ๆก็มีไม่ใช่น้อย ดังนั้นจงเชื่อที่มาที่ไปของพระองค์นั้น มวลสาร ความเก่าเนี่ยมันเก๊ไม่ได้ ลองดูครับเพื่อนๆ ถ้าจะปล่อย ปล่อยคนที่เค้าสนใจบูชาจริงๆดีกว่า เซียนก็แค่คำเรียกหรูๆติดปาก เชื่อใหมคนทั่วไปบางคนเก่งกว่าเซียนชื่อดังของเมืองไทยอีก แต่เค้าไม่เปิดตัวแค่นั้นเอง เหอะๆ คนในวงการนี้กบในกะลาแท้ๆ เชื่อเซียนได้ ป่ะติโถ่ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนเล่นพระ วันที่ตอบ 2014-11-02 00:45:08 |
ความคิดเห็นที่ 3 (154027) | |
พระเครื่องโดยเฉพาะเบญจภาคี ถึงวันนี้ราคาแพงมาก ควรมีวิธีพิสูจน์ที่ดีกว่าการให้เซียนซึ่งไม่รู้รู้จริงหรือเปล่ารับรอง ควรต้องมีการตรวจอายุเหมือนวัตถุโบราณทั่วไป จะแน่นอนกว่า | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ขอบพระ (chutipon3-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-11-22 16:20:25 |
ความคิดเห็นที่ 4 (154472) | |
สงสัยไอ้คนที่เล่นพระแล้วเที่ยวไปด่าเซียนจะเซียนไม่เซียนก็เรื่องของเขาอยู่ดีเดินเข้าไปหาเขาเองจะไปเอาเงินเขาเขาไม่ซื้อก็มาโมโหหิว 55555 แล้วถ้าเองศรัทธาพระสทเด็จจริงศรัทธาสมเด็จโตจริงๆจะมาร้องงองแงด่าชาวบ้านทำไมของเองแท้ก็บูชาไปซิคราบบบบอยู่ดีๆใครเขาจะมาตีพระในคอเองปลอมวะเดียวนี้ผวกมิฉาชีพชอบออกมาด่าวงการพระเพื่อหลอกขายพระปลอมชาวบ้านสร้างกระแสให้ชาวบ้านเกลียดวงการตัวเองจะได้ขายของ555 เล่นก็เล่นไปสิคราบบบเองเดินเข้าไปหาเขาเองเขาอยู่ดีๆนี่หว่าาแล้วจะมาร้องงองแงจะเอาเงินเขาไอ้ผวกยาจกสร้างภาพมีนะคราบบบมันชอบทำเป็นใจบุณแจกพระเลี่ยไรเงินอ้างว่าไปทำบุณทำเป็นถ่ายภาพโชว์ว่าไปทำบุณนิดหน่อย5555ที่ไหนได้แม่งเอาเงินไปร้านคาราโอเกะกลุ่มผวกนี้มีออกใบพระปลอมจัดงานคนไปประกวดพันคนแม่งได้ทุกคนพระปลอมทั้งนั้นตอนนี้รู้กันทั่วแล้วคราบบว่ามันหากินหลอกชาวบ้านมือใหม่มันพระที่มันจัดประกวดก็พระยัดกรุซื่อวัดกัลยาณมิตรและพระกรุคลองข่อยตอนนี้มาใหม่พระกรุวัดสะตือคนทั่โดนหลอกก็ผวกมือใหม่ทั้งน้านนนนไอ้คนที่ซื้อมันก็น่าจะยอมรับจริงว่าตัวเองมือใหม่ 5566666เป็นไงตอนนี้ลาโลงไปแล้วลิเกคณะนี้แต่มันก็พอกาหลอกผวกหน้าใหม่ได้อยู่55555 แล้วผวกที่จะเอาพระไปขายชาวบ้านพอเขาไม่รับเช่าก็อย่างองแงนะ อิๆ ตกลงจะศรัทธาหรือจะเอาเงินเขา 555555 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น งองแงเป็นเด็ก (ddsasd-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-12-22 21:20:33 |
ความคิดเห็นที่ 5 (154473) | |
ผวกมิฉาชีพโพล่มาโพสอีกแล้ว......ตรวจอายุทางวิทยาศาตร.....มันตรวจไม่ได้พระสมเด็จอายุไม่ถึง 200 ปีตรวจไม่ได้คราบบ สถาบันนิสเคลียออกมาเตื่อนผ่านหนังสือพิมพ์เดลินิวไปแล้วให้ระวังไอ้ผวกแสดงใบตรวจปลอม วัตุถุที่ตรวจำด้ต้อง 200 ปีขึ้นไป แมเขนาดนั่นยังคลาดเครื้อนไปนั้นสิบๆๆปีตรวจรังสงรังสีก็ไม่ได้พระอายุม้ายยถึง ระวังใส้นะคาบบบผวกมิฉาชีพมันชอบออกมาบอกว่าตรวจทางวิทยแบบนี้คราบบบบ ถ้าพระสมัยสุโขทัย อยุธยาตอนกลางขึ้นไปจะไม่เถียงเลยไอ้น้องงง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น นักบุณร้านคาราโอเกะ 555 (hgffthhd-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2014-12-22 21:30:18 |
ความคิดเห็นที่ 6 (155677) | |
เซียนเกิดทันไม่แหละเล่นหาปั่นกันในกลุ่มพวกพ้องตัวเอง พิมพ์ก็กำหนดพิมพ์ที่เล่นหากันในกลุ่มตัวเองไม่กี่พิมพ์เปิดใจหน่อยครับอย่ามองเป็นธุรกิจกันมากจนลืมเจตนารมณ์ของสมเด็จโตท่าน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น kaekung วันที่ตอบ 2015-05-06 21:24:12 |
ความคิดเห็นที่ 7 (161144) | |
พระกรุวัดสะตือ ทันยุคจริงๆแล้วมีจริงๆ ไม่ต้องเชื่อ แต่ขอท้าและแนะนำให้ท่านได้ศึกษา ใช้บล๊อควัดระฆังเลย หากพิจารณาใครที่เป็นพระสมเด็จจริง รู้หรือแม่นพิมพ์พระวัดระฆัง และศึกษาสมเด็จโดยผู้รู้จริงๆ(อันนี้ต้องเปิดใจ) จะเห็นว่าฟอร์มกับเนื้อหาน่าสนใจ(อันนี้ต้องเป็นพระแท้นะ) เป็นพิมพ์วัดระฆังไม่ผิดเพี้ยนเพียงแต่มวลสารต่างกัน แต่ที่ว่ามาพระแท้นั้นหายาก(แต่สักวันได้รู้ว่ามีจริง) แต่เท่าที่เก็บมานั้นของแท้หายากมาก ส่วนใหญ่จะเก๊ สืบค้นบนGoogleนั้นส่วนใหญ่เก๊หมด และผิดพิมพ์ไปเลย แต่ก็มีบางท่านเอาขึ้นไปแล้วแท้ก็มีนะ(แต่น้อยมาก เห็นมีในเว็บU แต่เขาก็เอาขึ้นมานานมากแล้ว) เท่าที่สะสมมาพิมพ์ที่ทำมาดีมีเพียงพิมพ์เดียวเท่าที่เห็นคือฐานแซม ทำพิมพ์และขนาดพระมาดี แต่พิจารณาแล้วคนทำเก๊จะพยายามแกล้งทำเก่า เนื้อหาความเก่าไม่มีเลย พยามยามทำหลังที่เขาว่าสังขยา หลังเป็นหลุมเป็นบ่อ แต่ดูด้วยตาเปล่าของคนที่มีพระกรุนี้จริงหรือส่องดูในความเป็นหลุ่มบ่อที่แกล้งทำนั้นมันเรียบไม่ธรรมชาติ เพราะธรรมชาติความย่นเป็นหลุ่มเป็นบ่อนั้นมันต้องมีความเก่าของการลงกรุ แต่ก็ไม่ได้ยังห่างอยู่ ที่ผมพอรู้คือและอยากแนะนำให้ศึกษาคือ(ผมมีญาติที่เคยเข้าไปปฎิสังขรพระนอนวัดสะตือแล้วเขาได้มา ตอนก่อนปี2500 ตกทอดให้ จึงได้เริ่มสนใจศึกษามา และสะสมของจริงมานานแล้ว ต้อนนี้ผมไม่ได้เป็นคนขายพระนะ) แต่หากจะวิเคราะห์ว่าของเก๊ที่มีในตลาดตอนนี้มายังไง ก็คงจะวิเคราะห์ให้ฟังว่า น่าจะเกิดจากคนที่เคยอยู่ในทีมซ่อม ที่เอาพระไปด้วยตั้งใจไปทำขายหรือพอตกทอดมาถึงพวกญาติหรือคนที่เกี่ยวข้อง ของเขาอาจได้ไปแล้ว นึกถึงพานิชย์ขึ้นมาตั้งใจทำเป็นพระเก๊ออกมาขายเพื่อให้เกิดรายได้ โดยถอดพิมพ์มาก็มี แกะมาใหม่ผิดเพี้ยนไปเลยก็มี ส่วนประสพการณ์ของผมเคยได้วัดสะตือแท้จากกองพระวัดสะตือเก๊ แถวๆสนามพระ กทมฯ ซึ่งใส่กรอบวางขายอยู่กับสะตือเก๊เลย แต่ผมก็โชคดีบังเอินไปเจอเข้า เลยฟรุ๊กได้ของแท้ไป ในราคาพระเก๊ จะเชื่อหรือไม่ให้ท่านใช้วิจารณญาณและท้าให้ศึกษาของจริง เผื่อวันนึ่งท่านอาจได้พระของแท้มาไว้บูชาก็เป็นได้ จากคนพื้นที่ ด้วยความเคารพ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น PM-ThaiLandSB วันที่ตอบ 2017-01-10 17:34:32 |
ความคิดเห็นที่ 8 (161287) | |
ครับผมก็ศึกษาพระสมเด็จกรุวัดสะตืออยู่ครับ ผมก็ว่ามีจริง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนชอบพระสมเด็จโต วันที่ตอบ 2017-02-03 12:41:41 |
ความคิดเห็นที่ 9 (174164) | |
บางคนโพสฉลาดมากครับแต่โชว์โง่ อ่านแล้วเกือบเคลิ้ม กับการทำความรู้ อันนีอยนิดของตนให้เสียงดังมีสเนย์ไปอีกแบบ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น yutt (dontslim-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2017-07-17 15:45:22 |
ความคิดเห็นที่ 10 (174261) | |
ในฐานะเป็นผู้ที่ศึกษาพระสมเด็จวัดระฆังคนหนึ่งน้ะครับ ตามความคิดเห็นส่วนตัวว่าคนที่ศึกษาพระสายสมเด็จวัดระฆัง วัดบางขุนพรหม วัดเกศไชโย และหากศึกษาประวัติศาสตร์ของวัดที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จโตฯ แล้วนั้น กระผมว่าวัดสะตือนั้นเป็นวัดที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จโตฯ ท่านชัดเจนเลยวัดหนึ่งครับผม โดยเฉพาะพระสมเด็จที่แตกกรุออกมาจากองค์พระภายในวัดสะตือนั้นบ่งถึงความเกี่ยวข้องที่ใกล้ชิดแทบแยกกันไม่ออกครับ ประกอบกับความเก่าของเนื้อของรัก ชนิดของรัก ชนิดของทองที่ปิดทับบนรักเป็นทองดอกบวบในสมัยโบราณ และพระชุดนี้ตามที่พบเห็นและพอทราบคนที่ครอบครองส่วนใหญ่จะเป็นผู้เปิดกรุหรือบูรณะวัดเป็นอย่างกรุบางขุนพรหมครับ และก็เรียกว่าเล่นเป็น"พระสมเด็จวัดระฆัง"กันนานมาแล้วครับ ต้องเปิดใจศึกษาเปรียบเทียบกับองค์ดาราที่คิดว่าแท้มาตรฐานสากลดูครับ หรือศึกษาเทียบเคียงกับองค์ที่วงการยอมรับก็ได้ครับ แล้วใช้ความเป็นกลางพิจารณาเอาครับ แล้วท่านจะพบว่าฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์ และธรรมชาติวิทยาเป็นพยานหลักฐานว่าพระสมเด็จวัดระฆัง(กรุวัดสะตือ)นี้มองข้ามไม่ได้ครับผม
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ว.วัดวัง วันที่ตอบ 2017-07-30 06:54:23 |
[1] |