รวมข่าวพระเครื่อง พระกรุ-พระเก่าคนดัง ** หันมาเข้าสนามพระกันดีกว่า เศรษฐกิจไม่ดีอย่างนี้ คนมีเงินจะพากันเช่าพระเก็บสะสมเอาไว้ดีกว่าเอาเงินไปทำธุรกิจอย่างอื่น ซึ่งมีแต่ขาดทุน และขาดทุน ไม่มีคนซื้อ มีแต่คนขาย ขนาดโรงรับจำนำบางแห่งขาดเงินสำรอง เพราะมีแต่คนเอาของมาจำนำ ไม่มีคนไถ่ถอน นับเป็นดัชนีวัดความเดือดร้อนของชาวบ้านได้เป็นอย่างดี 

** "คมเลนส์ส่องพระ" วันนี้ขอเสนอ พระปิลันทน์ วัดระฆัง ธนบุรี เป็นพระเนื้อผงสร้างโดย พระพุทธบาทปิลันทน์ (ทัด) ผู้เป็นศิษย์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ต่อมาเมื่อ สมเด็จฯ โต ถึงชีพิตักษัย พระพุทธบาทปิลันทน์ ก็ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นเป็น สมเด็จพระพุฒาจารย์ แทน การจัดสร้างพระเนื้อผง เป็นการสร้างในสมัยที่ดำรงสมณศักดิ์ พระพุทธบาทปิลันทน์ ชาวบ้านจึงเรียกพระที่สร้างขึ้นนี้ว่า พระปิลันทน์ และช่วงที่สร้างพระผงรุ่นนี้ สมเด็จฯ โต ยังมีชีวิตอยู่ จึงเชื่อกันว่า สมเด็จฯ โต ได้มอบผงวิเศษ และปลุกเสกให้ด้วย วงการพระจึงนิยมเล่นหา พระปิลันทน์ กันอย่างกว้างขวาง จนทำให้ พระปิลันทน์ มีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ

** พระปิลันทน์ มีหลายพิมพ์ แต่ที่นิยมสูงสุด คือ พิมพ์ซุ้มประตู เพราะพิมพ์ทรงองค์พระมีความงดงามอลังการมาก ไม่ซ้ำรูปแบบของพระพิมพ์ใดๆ มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นพระกรุหรือพระของเกจิอาจารย์ท่านใดเลย เข้าใจว่า พระพิมพ์ซุ้มประตู เป็นการออกแบบของช่างหลวง ผู้มีฝีมือและมีความชำนาญด้านนี้มาก พระปิลันทน์ พิมพ์ซุ้มประตู องค์ที่เห็นนี้เป็นพระของ ประสิทธิ์ เขมะประสิทธิ์ สวยงามคมชัดสภาพเดิมๆ อย่างนี้ เช่าหากันที่หลักแสนขึ้นไป พระกรุพระเครื่องเก่า

** ศิษย์ สมเด็จฯ โต อีกรูปหนึ่ง ผู้ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคม และวิธีสร้างพระเนื้อผง คือ หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม การสืบทอดวิชานี้ทำให้ หลวงปู่ภู สามารถสร้างพระเนื้อผงออกมาจำนวนหนึ่ง โดยให้มีรูปแบบพิมพ์ทรงองค์พระให้แตกต่างไปจากพระของผู้เป็นอาจารย์ คือ สมเด็จฯ โต อันเป็นแนวปฏิบัติที่ผู้เป็นศิษย์ต้องให้เกียรติผู้เป็นอาจารย์ ที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง พระหลวงปู่ภู ในวงการพระจะไม่เรียกว่า พระสมเด็จ เพราะท่านไม่ได้เป็นสมเด็จพระราชาคณะ เช่นเดียวกับสมัยหนึ่งที่ลูกศิษย์ หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี ได้ขออนุญาตจัดสร้างพระพิมพ์สมเด็จ หลวงพ่อก็ไม่ให้เรียกว่า พระสมเด็จหลวงพ่อแดง ท่านบอกว่าท่านไม่ได้เป็นสมเด็จพระราชาคณะ จะให้เรียกชื่อพระอย่างนั้นได้อย่างไร ท่านให้เรียกว่า พระผงญาณวิลาส อันเป็นชื่อสมณศักดิ์ของท่านในขณะนั้น

** พระหลวงปู่ภู เนื้อผง มีหลายพิมพ์ ที่นิยมสูงสุด คือ พิมพ์แซยิดแขนหักศอก พิมพ์แซยิดแขนกลม ฯลฯ และที่นิยมไม่น้อยกว่ากันอีกพิมพ์หนึ่งคือ พิมพ์สมาธิห้าเหลี่ยม ด้วยรูปทรงที่มีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ทุกวันนี้เช่าหากันหลายหมื่นบาทเช่นกัน องค์ในภาพนี้เป็นพระของ กาย นันต์ธนะ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ช่วงนี้หันมาสนใจพระยอดนิยมอย่างจริงจัง ทำให้ได้พระสวยๆ งามๆ เอาไว้หลายองค์แล้ว

** สันต์ วิวัฒนวาณิชย์ (เสือ ชุมพร) เป็นนักสะสมพระรุ่นเก่า เก็บพระมานานปี ทำให้มีพระในครอบครองมากมาย เท่าที่คบหากันมานานกว่า ๓๐ ปี พบว่า เสือ ชุมพร เข้ามากรุงเทพฯ คราวใดจะต้องไปส่องพระที่สนามท่าพระจันทร์เสมอๆ และจะต้องซื้อพระอยู่เป็นประจำ พระเก่าเก็บของ เสือ จึงมีมากมาย อย่าง พระเปิม กรุเก่า จ.ลำพูน องค์ที่เห็นนี้ เช่ามาสมัยก่อนไม่กี่พันบาทเท่านั้นเอง มาถึงทุกวันนี้คงจะต้องหลายหมื่นบาทอย่างแน่นอน เพราะมีความสวยงามคมชัดมากเป็นพิเศษ เนื้อจัดจ้านอย่างที่สุด ใบโพธิ์คมชัดทุกใบ พระสวยอย่างนี้น่าเก็บสะสมมาก ใครมีอยู่ต้องหวงแหนให้มากๆ เพราะทุกวันนี้พระสวยหายาก และมีราคาแพง โดยเฉพาะ พระเปิม เป็นพระเนื้อดินที่มีอายุความเก่าถึง ๑,๒๐๐ ปี สร้างในสมัย พระนางจามเทวี ผู้ครองเมืองหริภุญไชย หรือเมืองลำพูนในทุกวันนี้ พระสกุลลำพูน ทุกพิมพ์จึงเป็นพระที่น่าสะสมที่สุด ผู้ที่เพิ่งหัดสะสมพระเนื้อดิน จะต้องไม่พลาด การเป็นเจ้าของพระสกุลลำพูน อย่างน้อยต้องหาเอาไว้ศึกษา ๑ องค์

นิตยสาร “พุทธคยา” ของ ป๋อง สุพรรณ อ่านเรื่องจากนักเขียนกิตติมศักดิ์ เบี้ยแก้ วัดนายโรง พระกำแพงซุ้มกอ เหรียญหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ (ชี้จุดสำคัญของเหรียญแท้) พระหลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาวราหูอมจันทร์ หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ฯลฯ ด้วยเนื้อหาสาระที่น่าสนใจยิ่ง ผ่านไปทางร้านของ ป๋อง สุพรรณ ไม่ว่าจะเป็นวันเวลาใด มักจะมีผู้ไปติดต่อซื้อขายพระกันเป็นประจำ จนบางครั้งต้องเข้าแถวกันก็มี วันก่อนเห็นกำลังส่อง พระ ๒๕ พุทธศตวรรษ เนื้อทองคำ ซึ่งเป็นเนื้อที่หายากที่สุด จะลงเอยกันอย่างไรไม่ทราบ ขอภาพมาให้ท่านผู้อ่านได้ทัศนศึกษากันก่อนเป็นใช้ได้ เพราะการที่เราๆ ท่านๆ ที่อยากจะได้พระพิมพ์นี้มาใช้ติดตัว คงไกลเกินเอื้อม เพราะราคาแพงมากๆ ขอเพียงเห็นแต่ภาพก็พอใจแล้ว  

 ** พระหลวงพ่อโต กรุบางกระทิง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระเนื้อดินเผา และเนื้อชิน (มีน้อย) มี ๒ พิมพ์  คือ พิมพ์สมาธิ และ พิมพ์มารวิชัย สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เนื่องจากพระเศียรโต และมีขนาดองค์พระค่อนข้างเขื่อง ล่ำสัน คนสมัยก่อนจึงเรียกชื่อ พระหลวงพ่อโต โดยเชื่อกันว่ามีอานุภาพทางด้านอยู่ยงคงกระพัน คนโบราณถึงกับให้สมญานามอีกชื่อหนึ่งว่า พระคงกระบอง ถึงกับเลื่องลือกันว่า ใครแขวนพระพิมพ์นี้มักจะมีจิตใจฮึกเฮิม ไม่เกรงกลัวผู้ใครบางคนบอกว่า แขวนพระพิมพ์นี้ทีไรมักจะชอบหาเรื่องคนอื่นเสมอๆ และถ้าหากมีเรื่องตีรันฟันแทงกันก็ไม่ต้องกลัว เพราะศัตรูทำอะไรไม่ได้ ขณะเดียวกันบางคนก็เชื่อว่า พระหลวงพ่อโต มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยมเหมือนกัน พระหลวงพ่อโต ขุดพบครั้งแรกปี ๒๔๘๑ ที่วัดบางกระทิง ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมามีการขุดพบจากกรุวัดอื่นๆ อีกหลายแห่ง เช่น กรุวัดใหญ่ชัยมงคล กรุวัดมเหยงค์ กรุวัดมหาธาตุ กรุวัดราชบูรณะ กรุบึงพระราม ใน จ.พระนครศรีอยุธยา และยังขุดพบในจังหวัดอื่นๆ เช่น กรุงเทพฯ ขุดพบที่กรุวัดหนัง วัดระฆัง วัดสระเกศ ที่ จ.นนทบุรี ปทุมธานี รวมทั้งที่วัดเหนือ จ.กาญจนบุรี ก็มีการขุดพบ พระหลวงพ่อโต สันนิษฐานว่า เป็นการนำพระมาฝากกรุก็ได้ 

** พระหลวงพ่อโต ส่วนใหญ่เนื้อค่อนข้างแกร่ง แต่ไม่กระด้าง มีน้ำมีนวล มีเม็ดทรายเม็ดกรวดเล็กๆ และเกล็ดทรายเงินทรายทองปะปนอยู่ในเนื้อ ผิวพระไม่เรียบ มีรอยพรุนเป็นแอ่งคลื่นอยู่โดยทั่วไป  พระหลวงพ่อโต องค์ที่เห็นนี้เป็น พิมพ์สมาธิ ของ ชาติ คลองรังสิต นักสะสมพระยอดนิยมและพระทั่วไป ผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ซึ่งจะพบตัวได้เสมอที่ร้าน อู๊ด สุพรรณ ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ** ** พบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้ รวมข่าวพระเครื่อง...นะมัสเต *** แล่ม จันท์พิศาโล