อู๊ด สุพรรณ พระเครื่องแท้มองมุมไหนด้านไหนก็แท้เสมอ(ต่อจากฉบับวันเสาร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๑) ทุกวันนี้ใครมีโอกาสผ่านไปร้าน "อู๊ด-เอ๋ สุพรรณ" ๒ ศรีพี่น้องผู้เล่นแต่พระแท้ บนชั้น ๓ ชมรมพระเครื่องมรดกไทย ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน จึงไม่ต้องแปลกใจที่มีผู้สนใจสะสมพระเครื่องยืนส่องพระอยู่เป็นประจำทุกวัน ในบางวันจะพบเห็น...นายแพทย์ นักการเมือง ส.ส.(น้ำดี) ดารานักแสดง ศิลปินเพลง รวมทั้งหนุ่มนักเรียนนอกหน้าตาหล่อเหลา เค้าผู้ดีมีสกุลหลายคน ฯลฯ กำลังนั่งส่องพระกันอย่างเอาจริงเอาจัง พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส สรวลเสเฮฮา ไร้ความเคร่งเครียดบนใบหน้าของทุกคน จบท้ายรายการด้วย...ทุกคนต้องซื้อพระจากอู๊ดคนละองค์สองคน กลับไปด้วยความสุขในหัวใจโดยทั่วกัน

อู๊ดสุพรรณ พูดย้อนไปถึงวันเวลาที่ผ่านมาของตัวเองว่า "พระองค์แรกที่ผมเช่ามาด้วยสายตาตนเอง คือ พระหลวงพ่อเนียม วัดน้อย อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี พิมพ์เศียรโล้น นับเป็นพระในดวงใจของคนสุพรรณโดยแท้จริง คนสุพรรณจะต้องหาพระหลวงพ่อเนียมเอาไว้ก่อนเป็นปฐมฤกษ์ เพราะคนเฒ่าคนแก่สมัยก่อนโน้น มีความเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน เป็นที่เลื่องลือกันมาก พระหลวงพ่อเนียมแม้จะมีพิมพ์ทรงองค์พระไม่ค่อยจะสวยงามคมชัดมากนัก แต่พุทธคุณเหลือล้นจริงๆ นอกจากนี้ พระที่คนสุพรรณจะขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด คือ พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงสร้างขึ้นเมื่อสมัยทำสงครามกับพม่า เป็นพระที่ผู้ชนะศึกตลอดมาสร้างขึ้น ใครอยากเป็นผู้ชนะจึงต้องแขวนพระขุนแผนติดตัว นอกจากนี้ พระขุนแผนกรุนี้ยังมีจำนวนพระให้เลือกเช่าหาได้มากมาย พิมพ์ทรงองค์พระก็มีความสวยงามเป็นเลิศ และพระที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองสุพรรณเท่านั้น เมืองอื่นไม่มีสร้าง คือ พระขุนแผนไข่ผ่าซีก กรุวัดพระรูป เป็นพระยอดนิยมเนื้อดิน ที่จะต้องศึกษาหาความรู้จากองค์พระให้ได้มากที่สุด พระกรุนี้คนสุพรรณจะต้องมีไว้ประจำตัวเสมอ" ถามว่า เคยเช่าพระปลอมไหม ? อู๊ดตอบอย่างหน้าเฉยว่า "เคยโดนมาแล้วบ่อยๆ เป็นของธรรมดาของคนที่เข้ามาสู่วงการนี้ จะบอกว่าไม่เคยโดนไม่ได้ คนที่ไม่เคยโดนพระปลอมมาก่อนเลย แสดงว่าไม่กล้าซื้อพระด้วยสายตาตนเอง ต้องโดนกันมาแล้วทุกคนแหละ เมื่อโดนแล้วก็ต้องจดจำ อย่าให้โดนหลอกอีก เพราะจะถูกซ้ำเติมจากคนในวงการเดียวกัน ความเจ็บใจและอับอายจากซื้อพระปลอม ยังไม่เจ็บปวดเท่ากับคำเยาะเย้ยถากถางของคนเล่นพระด้วยกัน เมื่อเจ็บแล้วจึงต้องจำ ต้องพยายามศึกษาหาความรู้จากองค์พระแท้ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ เพื่อไม่ให้โดนพระปลอมได้อีก แต่ส่วนใหญ่ใครที่เคยโดนพระปลอมพิมพ์ใดพิมพ์หนึ่งมาแล้ว พระพิมพ์นั้นจะจดจำได้แม่นและจะไม่มีโอกาสพลาดท่าเสียทีได้อีก"

อู๊ดสุพรรณ บอกด้วยว่า คนที่เล่นพระตอนแรกๆ มักจะ เล่นพระด้วยหู คือ เชื่อคนอื่นเขาเล่าให้ฟัง ไม่ได้ใช้วิจารณญาณของตัวเอง เพราะยังขาดหลักการ ขาดทักษะ ขาดความรู้ ขาดการศึกษา ต่อเมื่อ "โดน" มาแล้ว ถึงจะรู้ว่าคนที่ขายพระให้เรา และเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เราฟัง เพื่อชวนเชื่อนั้น ใช้ไม่ได้ เชื่อถือไม่ได้ ตรงจุดนี้เราจึงต้อง ศึกษาคนขายพระ ไว้ก่อนว่า เขาเล่นพระดีไหม ? เชื่อถือได้ไหม ? ซึ่งจะสามารถสืบหาข้อมูลได้ไม่ยาก เข้าวงการพระบ่อยๆ ก็จะรู้ไปเองว่า คนไหนเล่นพระดี เชื่อถือได้คนไหนเล่นพระไม่ดี เชื่อถือไม่ได้ เรื่องอย่างนี้ปกปิดกันไม่ได้นาน เมื่อศึกษาคน ได้แล้ว ได้พระแท้ มาแล้ว ต่อไปก็ต้อง ศึกษาพระ คือศึกษาจากองค์พระแท้ที่ได้มา ตอนใหม่ๆ ก็ต้องศึกษาจากพิมพ์ทรงองค์พระกันก่อน อันดับแรก คือ ต้องรู้จักว่าเป็นพระอะไร พิมพ์อะไร กรุไหน สร้างเมื่อไร สร้างโดยใคร อายุความเก่ามีแค่มากน้อยไหน ฯลฯ

ต้องรู้เรื่องพื้นฐานเหล่านี้ให้หมดก่อน ถึงจะเรียกชื่อพระพิมพ์พระได้ถูกต้อง หากไม่มีพื้นฐานความรู้เหล่านี้เลยก็จบกัน เรียกชื่อพระไม่ได้ แล้วจะไปรู้ได้อย่างไรว่า เป็นพระแท้ หรือพระปลอม กันแน่...นี่คือหลักการเบื้องต้นที่อู๊ดแนะนำให้ผู้ริเริ่มสนใจเรื่องพระเครื่องได้ทราบโดยทั่วกัน หลังจากรู้จัก ชื่อพระ พิมพ์พระ ได้แล้ว ต่อไปก็ต้องศึกษาเรื่องของพิมพ์ทรง องค์พระ ซึ่งมีจุดสังเกตให้ศึกษามากมาย มีรอบๆ องค์พระ ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง ต้องจดจำให้แม่นยำที่สุด พระบางองค์มีจุดสังเกตที่สำคัญๆ ขาดหายไปบ้าง เพราะชำรุดหักบิ่น หรือผ่านการใช้มาก่อนจนสึกกร่อนไปหมด ก็ต้องหาจุดสังเกตอื่นๆ ให้จนได้

พระแท้ มีจุดศึกษามากมาย แม้บางจุดอาจจะสึกหายไปบ้าง ก็ยังมีจุดอื่นๆ เป็นสิ่งบ่งบอกถึงความเป็นพระแท้อยู่เสมอ หลายคนจึงมักจะพูดว่า พระแท้มองมุมไหนด้านไหนก็เป็นพระแท้เสมอ บางคนหยิบพระขึ้นมาองค์หนึ่ง ไม่ทันได้เปิดแว่นขยายขึ้นมาส่ององค์พระเลย ก็สามารถบอกได้ว่า เป็นพระแท้ หรือพระปลอมกันแน่ เมื่อจดจำ จุดสำคัญ ของพิมพ์ทรงองค์พระได้แล้ว ถึงจะเป็นการศึกษาเรื่องของ มวลสาร ขององค์พระ ต้องจดจำว่าพระแท้นั้นมีมวลสารอย่างไร  พระแต่ละกรุแต่ละเมือง จะมีมวลสารไม่เหมือนกันหมด แตกต่างกันไปบ้าง แต่จะมีเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ อายุความเก่า ไม่ว่าจะเป็นพระกรุไหน เมืองไหน หากเป็นพระแท้ และเป็นพระเก่าแก่หลายร้อยปี ย่อมมี ความเก่า ปรากฏอยู่ในเนื้อหามวลสารให้เห็นอยู่เสมอ ซึ่งพระปลอมที่ทำขึ้นมาใหม่ ไม่มีทางที่จะทำให้ได้เหมือนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ นอกเหนือจาก พระสายสุพรรณบุรี แล้วอู๊ดยังเช่าหาซื้อขายพระกรุเก่าพระเก่าของเมืองอื่นๆ อีกด้วย โดยกล่าวว่า  "ทุกวันนี้วงการพระแบ่งการเล่นออกเป็นพระเนื้อดิน ชิน ผง พระกริ่ง เครื่องรางของขลัง พระเกจิอาจารย์ เมื่อเราเล่นพระสายที่เราถนัดมาจนถึงจุดหนึ่งแล้ว ก็ไม่อยากจะอยู่นิ่งเฉย อยากมีความรู้ถึงพระกรุเมืองอื่นๆ บ้าง ก็ต้องหาซื้อมาศึกษาหารายละเอียด จนจดจำได้และพร้อมที่จะซื้อขายกันต่อไป เมืองไทยมีพระกรุเยอะมาก มีให้เช่าหาซื้อกันไม่รู้จักหมดสิ้น เราจึงต้องศึกษาหาของมาบริการให้ลูกค้าได้เสมอ"

เมื่อถามถึงวงการพระเมืองสุพรรณ ที่ทุกวันนี้มีเซียนพระสายเลือดสุพรรณแท้ๆ สร้างชื่อเสียงให้วงการพระอย่างกว้างขวาง เพราะส่วนใหญ่เล่นพระดีมีพระแท้ ทำให้มองว่า เซียนพระเมืองสุพรรณ มีความรักใคร่สามัคคีปรองดองกันดีมาก เป็นเพราะอะไร ? อู๊ดตอบว่า "เพราะเซียนพระสายเลือดสุพรรณแท้ๆ เรียกว่าเป็นคนสุพรรณโดยกำเนิด มีความเคารพนับถือให้เกียรติผู้ใหญ่ที่เล่นพระมาก่อน คือมีซีเนียริตี้สูง (ระบบอาวุโส) สิ่งใดที่ผู้ใหญ่ท่านทำดีมาก่อน เราก็จะจดจำเอาไว้เป็นเยี่ยงอย่าง และทำตามท่าน อย่างเช่นการเล่นพระ ส่วนใหญ่เซียนพระผู้ใหญ่ของเมืองสุพรรณจะเล่นแต่พระแท้  เราก็ต้องเล่นแต่พระแท้เหมือนท่าน  ถ้าหากเราไปเล่นพระปลอม เราจะไปเข้าหน้าหาท่านได้อย่างไร จะไปขอความรู้จากท่านได้อย่างไร ก็ต้องทำตัวให้ดีๆ เหมือนท่านด้วย อย่างเช่น อ.อ้า สุพรรณ ถือเป็นปูชนียบุคคลของวงการพระได้เลย เพราะท่านเล่นแต่พระดีมีแต่พระแท้ ขอความรู้อะไรท่านก็จะบอกให้หมด ไม่ปิดบังอันใดเลย เรื่องไหนที่ท่านไม่รู้ก็จะออกตัวเลยว่า ไม่ถนัด ไม่เป็น ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เซียนพระรุ่นน้องรุ่นลูกรุ่นหลานอย่างเราๆ ก็ต้องยึดถือเป็นตัวอย่างที่ดีงามมาโดยตลอด" อีกอย่างทีเซียนพระเมืองสุพรรณ จะไม่นิยมทำกันคือ "สวดพระคนอื่น" โดยเฉพาะเรื่องของราคา อู๊ดบอกว่า "ถ้าหากเพื่อนเขาขายพระองค์หนึ่งไปในราคา ๒ หมื่นบาท เราก็จะไม่สวดว่าแพงไป  หรือบอกว่า หากซื้อจากเราไม่ถึงหมื่นห้าด้วยซ้ำไป เราจะไม่ทำอย่างนี้ เพราะเป็นการหมางใจกันเปล่าๆ แต่สิ่งที่เราทำคือ เราจะต้องขายพระแบบเดียวกันนั้น ให้ได้ราคาที่แพงกว่าเพื่อนคนนั้น นี่คือ การแข่งขันกันในวงการพระ

อู๊ดสุพรรณ กล่าวในตอนท้ายว่า "ที่ผมมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะมีผู้ใหญ่ให้ความเมตตาสนับสนุนตลอดมา โดยเฉพาะอย่าง อ.ยู่กิม (อมร วณิชย์สัมพันธ์) ร้านถ่ายรูปบางลี่อาร์ต ตลาดสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นเซียนพระรุ่นเก่า ผู้มีความรอบรู้ในเรื่องพระเมืองสุพรรณอย่างแตกฉาน ท่านได้ให้ความรู้แก่ผมมากมาย สอนผมดูพระอย่างชนิดไม่มีการปิดบังเลย และที่สำคัญให้ผมเอาพระมาขายก่อน แล้วค่อยจ่ายเงินทีหลังได้ด้วย บางครั้งผมเงินไม่พอก็จะให้ยืมใช้ตลอดเวลา เพราะช่วงเริ่มต้นในอาชีพนี้ บอกตามตรงว่า ทางบ้านไม่สนับสนุน อยากให้ผมกลับไปทำร้านขายทองมากกว่า เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมทำตาม ก็ต้องปล่อยให้ผมหาหนทางเอาเอง โดยเฉพาะในเรื่องของเงินทุน ก็ได้เฮียยู่กิมนี่แหละช่วยเหลือมาตลอด อีกคนที่ลืมไม่ได้คือ อ.ป๋อง สุพรรณ พี่ชายที่แสนดี ที่ชักชวนให้ผมมาเปิดร้านที่กรุงเทพฯ โดยบอกว่า ตลาดพระที่กรุงเทพฯ กว้างกว่าที่สุพรรณมาก จะได้มีอนาคตที่สดใส ก้าวหน้าไปไกลๆ  มาถึงทุกวันนี้ ผมพอจะพูดได้อย่างเต็มปากว่า ก้าวมาถึงจุดหมายที่เคยตั้งไว้แล้วอย่างสมบูรณ์ ผมมีครบถ้วนในทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยตั้งความหวังเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสุขในอาชีพที่รักที่อยากทำที่สุดในชีวิตนี้" ข่าวพระเครื่อง

คมชัดลึก 0 แล่ม จันท์พิศาโล 0