หลวงพ่อครน วัดอุตตมาราม (วัดบางแซะ)

พระปิดตาสองหน้า หลังรูปเหมือนหลวงพ่อครน วัดอุตตมาราม บางแซะ รัฐกลันตัน,ประเทศมาเลเซีย ว่าเป็นรูปลักษณ์แบบไหน ประวัติเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้ก็จะนำเสนอ ประวัติพระปิดตาสองหน้า หลังรูปเหมือนหลวงพ่อครน กันแบบชัดเจน หลวงพ่อครน วัดอุตตมาราม บางแซะ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย พระเกจิอาจารย์ท่านนี้คงไว้ซึ่งอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างน่าทึ่ง ขนาดว่าวัดของท่านอยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งพลเมืองส่วนใหญ่ของประเทศนับถือศาสนาอิสลาม วัดของท่านจึงตั้งอยู่ในดงของชาวมุสลิม แต่ปรากฏว่าคนมาเลเซียยังยอมรับนับถือว่าท่านเก่งและ พระปิดตาของท่านก็ศักดิ์สิทธิ์เป็นของดีจริง ลงว่าเป็นที่ยอมรับนับถือและศรัทธาของคนต่างศาสนาได้ก็แสดงว่า พระเกจิอาจารย์ท่านนั้นย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน

ประวัติหลวงพ่อครน วัดบางแซะ ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ดวงตาแฝงไว้ด้วยแววแห่งอำนาจ ลิ้นของท่านเป็นปานสีดำ ชาวบ้านจึงเรียกท่านกันอีกชื่อหนึ่งว่า หลวงพ่อลิ้นดำ มีวาจาสิทธิ์ เป็นที่เคารพและเกรงขามทั้งชาวพุทธศาสนิกชน และมุสลิม แต่ก่อนรัฐกลันตันเคยเป็นของไทยมาก่อน แต่ต้องยกให้เป็นของมาเลเซียเมื่อครั้งที่อังกฤษปกครองมาเลเซีย เพื่อรักษาอาณาเขตส่วนใหญ่ของประเทศเอาไว้เมื่อครั้งสมัยรัชกาลที่ 5 หลวงพ่อครนท่านจึงต้องกลายเป็นคนมาเลเซียไปด้วย พร้อมกับชาวพุทธศาสนิกชนละแวกนั้น เมื่อท่านบวชแล้วก็ได้ออกเดินธุดงค์ไปทั่วทั้งภาคใต้ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์สำนักเขาอ้อโดยเรียนวิชากับ พระอาจารย์ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ จากนั้นก็เดินธุดงค์กลับไปอยู่ที่วัดอุตตมาราม ประเทศมาเลเซียอีก

พระปิดตาสองหน้า หลวงพ่อครน วัดบางแซะ หลังรูปเหมือน

หลวงพ่อครนท่านได้สร้างพระปิดตา และพระปิดตาหลังรูปเหมือนครั้งแรกประมาณเมื่อ ปีพุทธศักราช 2480 และก็สร้างติดต่อกันมาเรื่อยๆ พระปิดตาของหลวงพ่อครน เป็นพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ภายในองค์พระท่านได้บรรจุกระดาษสาลงยันต์เอาไว้ทุกองค์ ลักษณะพิมพ์จะชะลูดตามแบบฉบับของพระปิดตาสายเขาอ้อ เมื่อกดพิมพ์แล้วท่านก็จะเอาพระปิดตามาแต่งด้วยมือทีหลังอีก และลงเหล็กจารเอาไว้ทุกองค์

ประสบการณ์ พระปิดตาหลวงพ่อครน โดดเด่นมากด้านมหาอุตม์-อยู่ยงกระพัน-เมตตามหานิยม-โชคลาภ เป็นพระปิดตาสายใต้ที่มีค่านิยมในการเล่นหากันแพงที่สุด องค์สวยๆ อยู่ในหลักแสนหมด แต่ก็ยังหาคนปล่อยยาก ของเก๊ก็ทำได้ดีขนาดว่าบางองค์เล่นเป็นแท้กันแล้ว ตามงานประกวดพระเครื่องทั่วไปของเก๊พาเหรดเข้าติดรางวัลกันเป็นแถวๆ หาของแท้ชมยากจริงๆ ก่อนที่จะเช่าพระปิดตาของท่านจึงต้องพิจารณากันหลายตลบหน่อย และควรดูกันหลายๆ คน ข่าวว่าคนทำเก๊ก็เป็นคนท้องถิ่น และก็มีชื่อเสียงในวงการ แต่ผลกรรมก็ได้ตอบแทนอย่างสาสมเหมือนกัน

พระปิดตาหลวงพ่อครนดีอย่างไร? ใครมีสักองค์ มีคนมาขอชมและถามเช่าทันที การที่จะหาพระบูชาปิดตาที่มีประสบการณ์สูงอย่าง พระปิดตาหลวงพ่อครน นั้นใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆนัก คิดดูเอาก็แล้วกันว่าขนาดเป็นพระปิดตาที่สร้างต่างประเทศ แต่คนไทยกลับนิยมเล่นหากันสูง สำหรับพระปิดตาของหลวงพ่อครน นี้ในวงการจะรู้จักและเรียกในนามว่า พระปิดตาสองหน้า หลังรูปเหมือนหลวงพ่อครน เป็นพระที่ค่อนข้างจะหน้าชมได้ยาก เพราะจำนวนการสร้างน้อยมาก ตามชื่อท้องถิ่นและจะเป็นพระปิดตาที่วงการพระเครื่องต้องบันทึกถึงประสบการณ์ และความศักดิ์สิทธิ์เอาไว้อีกนานแสนนานทีเดียว

พระปิดตาสองหน้าหลวงพ่อครน เป็นพระปิดตาที่หาชมได้ยาก ท่านจัดสร้างไว้ไม่กี่องค์ ใครมี ใครก็หวง ขอดูยังยากเลย เรื่องราคาพระปิดตาหลวงพ่อครนก็ต้องว่ากันด้วยหลักหลายๆ แสน และพระปิดตาหลวงพ่อครนองค์ที่ลงให้ชมเป็นพระสวย คม ดูง่าย ปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของเซียนพระชื่อดังของภาคใต้ โจ้ สงขลา อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมตอบถามได้เลยที่โทร.08-1896-3772 เซียนโจ้ยินดีตอบทุกคำถาม

พระปิดตาหลวงพ่อครน วัดบางแซะ พระปิดตาเนื้อผงคลุกรักหลวงพ่อครน

พระปิดตาหลวงพ่อครน วัดบางแซะ
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก หลวงพ่อครน ที่โด่งดังของจังหวัดทางภาคใต้ และเป็นพระปิดตาที่หายากมากๆ ในปัจจุบันคือ พระปิดตาหลวงพ่อครน วัดบางแซะ ซึ่งปัจจุบันนี้กลายเป็นอาณาเขตของประเทศมาเลเซียไปแล้ว เนื่องจากเราสูญเสียดินแดนให้แก่อังกฤษ ในปีพ.ศ.2452 แต่คนเชื้อชาติไทยก็ยังมีอาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้มาจนถึงปัจจุบันนี้ วันนี้เราจะมาคุยกันถึงหลวงพ่อครนและต้นกำเนิดพระปิดตาอันลือลั่นของท่านกันครับ

ประวัติหลวงพ่อครน วัดบางแซะ (พระวิจารณญาณมุนี วัดอุตตมาราม)
พระวิจารณญาณมุนี วัดอุตตมาราม (วัดบางแซะ) หลวงพ่อครนท่านเป็นชาวบ้านบางแซะโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีพ.ศ.2419 โยมบิดาชื่อโยมชุม โยมมารดาชื่อโยมแก้ว นามสกุล ราษฎร์เจริญ หลวงพ่อครนท่านอุปสมบทที่วัดบางแซะ ต่อมาท่านก็ได้กราบลาพระอุปัชฌาย์มาศึกษาเล่าเรียนทั้งปริยัติและปฏิบัติที่ จังหวัดสงขลา โดยหลวงพ่อครนท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดหัวใจ ในช่วงนี้เองที่หลวงพ่อได้ศึกษาพระเวทวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์สำคัญๆ ในภาคใต้ เช่น หลวงพ่อปาน วัดโคกสมานคุณ หาดใหญ่ หรือแม้แต่หลวงพ่ออินทร์ อำเภอตากใบ และสันนิษฐานว่าท่านได้ไปศึกษาที่เขาค้อด้วย

ประวัติของหลวงพ่อครนนั้นยังไม่ค่อยปะติดปะต่อกันมากนัก เนื่องจาก บางแซะได้กลายไปเป็นพื้นที่ของมาเลเซียในเวลาต่อมา แต่เท่าที่ทราบก็คือหลังจากท่านได้เป็นเจ้าอาวาสวัดบางแซะแล้ว ท่านก็เริ่มพัฒนาวัดบางแซะโดยความร่วมมือของชาวบ้านในแถบนั้น และท่านก็ได้เปิดการสอบบาลีนักธรรมและกรรมฐานแก่พระภิกษุ สามเณร โดยท่านเป็นผู้สอนเอง การสอนกรรมฐานในครั้งนั้นนับเป็นครั้งแรกในรัฐกลันตัน เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีพระอาจารย์รูปใดเคยสอนมาก่อน ต่อมาในปีพ.ศ.2476 หลวงพ่อก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์เพื่ออุปสมบทและบรรพชาให้แก่ ชาวบ้านบางแซะ และตำบลใกล้เคียง ปีพ.ศ.2488 หลวงพ่อก็ได้เลื่อนจากพระครูชั้นพิเศษฝ่ายวิปัสสนาขึ้นเป็นพระราชาคณะสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ โดยได้รับพระราชทานทินนามที่ "พระวิจารณญาณมุนี" และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่ในรัฐกลันตัน นับเป็นพระราชคณะรูปแรกของรัฐกลันตัน หลวงพ่อครนท่านเป็นคนพูดน้อย มีศีลจารวัตรงดงาม เป็นที่เลื่อมใสของผู้คนที่ได้พบเห็นหลวงพ่อให้ความเมตตาต่อทุกผู้ทุกนามโดย ไม่เลือกชั้นวรรณะหรือแม้แต่ศาสนา ในยามเมื่อเขาเดือดร้อนตกอยู่ในกองทุกข์ หลวงพ่อก็จะช่วยเหลือปัดเป่าให้พ้นทุกข์ได้เสมอ อีกทั้งท่านยังมีความรู้เรื่องเครื่องยาสมุนไพรอย่างแตกฉาน ช่วยเหลือผู้เจ็บไข้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งวิทยาคมของท่านก็เข้มขลังเป็นที่ประจักษ์ต่อชาวบ้านในแถบนั้นเป็น อย่างดี จึงเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านเป็นอย่างมาก ต่อมาจนถึงปีพ.ศ.2505 หลวงพ่อครนก็มรณภาพลง สิริอายุได้ 88 ปี พรรษาที่ 67

หลวงพ่อครน วัดบางแซะท่านได้สร้างพระปิดตาไว้ครั้งแรกประมาณปีพ.ศ.2460 เป็นพระเนื้อผงคลุกรัก ซึ่งเป็นพระเครื่องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือเป็นพระปั้นลอยองค์ มีทั้งที่มีจารและไม่มีจาร และมีพิมพ์สองหน้าอีกด้วย และยังมีพระที่แกะด้วยเขาวัว เขากวาง และไม้แกะก็มี ในวันนี้ผมได้นำรูปพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก พิมพ์ใหญ่ลอยองค์ ซึ่งในปัจจุบันหาชมพระปิดตาหลวงพ่อครนได้ยากยิ่งมาให้ชมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ
ด้วยความจริงใจ  แทน ท่าพระจันทร์   ที่มา...