รังพระแตก ข่าวฮอตเขย่าวงการพระเครื่อง สัจธรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยง
"พระแตกรัง" ถือว่าเป็นข่าวฮอตเขย่าวงการพระเครื่อง โดยเฉพาะการขายพระยกรังของ กำนันชูชาติ มากสัมพันธ์ เจ้าของ "พิพิธภัณฑ์พระกำนันชูชาติ" ให้แก่นายสุเทพ จิรวัฒน์สุนทร หรือเจ้าของฉายาที่รู้จักกันดีในวงการพระเครื่องว่า “เทพ กำแพง” โดยก่อนหน้านี้ มีรังพระขนาดใหญ่แตกรัง ๒ รัง คือ รังพระของ เชาว์ ริเวอร์ แตกรังเมื่อ ๓ ปีที่ผ่านมา และรังพระของ พล.ต.อ.สนอง วัฒนวรางกูร ซึ่งแตกรังก่อนหน้ารังพระของกำนันชูชาติเพียงปีเศษเท่านั้น ในขณะที่มีข่าวออกมาว่า ก่อนหน้านี้มีพระแตกรังในลักษณะแตกรังย่อยทยอยขายออกมาเป็นลอตๆ เช่น รังพระของ อาจารย์นิยม อสุนี ณ อยุธยา รังพระชลอ รับทอง รังพระเสถียร เสถียรสุต รวมทั้งรังพระอุดม กวัสราภรณ์

ส่วนจอมทลายรังพระที่ขึ้นชื่ออีกคนหนึ่ง คือ มงคล เมฆมานะ หรือที่รู้จักกันในนาม "โกเนียว สำโรง" รูปแบบการบุกรังพระ จะตรงกันข้ามกับเทพ กำแพง ตรงที่ว่าเทพ กำแพง ซื้อยกรัง ส่วนโกเนียว สำโรง ทยอยซื้อทีละชุด หรือซื้อเป็นลอตนั่นเอง "ในฐานะที่เป็นเจ้าของรังพระ ผมจะยื้อไว้จนสุดความสามารถ ยื้อไว้ให้นานที่สุด เท่าจะมีกำลังทำได้ อยู่ที่บุญบารมีว่า จะรักษาได้มากแค่ไหน ผมเชื่อว่า เจ้าของรังพระป้องกันไว้ทุกคนอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดากับของที่เก็บมานาน ๕ ปี ๑๐ ปี แล้วต้องขายออกไป ทั้งนี้ก็ต้องทำใจยอมรับกับสัจธรรมที่ว่า สมบัติผลัดกันชม"นี่คือความเห็น พิศาล เตชะวิภาค อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย หรือที่รู้จักกันในนาม "ต้อย เมืองนนท์" ผู้หนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของรังพระชั้นนำของวงการพระเครื่อง ต้อย เมืองนนท์ บอกด้วยว่า การแตกรังของพระ มีหลากหลายเหตุผล แต่เหตุผลหนึ่ง คือ ไม่มีลูกหลานที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ เจ้าของรังพระจึงเลือกจะเปลี่ยนจากพระเป็นเงินมากกว่า ด้วยเหตุที่ว่า ให้เช่าเมื่อยังมีชีวิตอยู่ได้ราคาดีกว่าปล่อยให้ลูกหลานเอาไปขาย ทั้งนี้ กว่าเจ้าของรังพระรังหนึ่งรังใดจะตัดสินใจขายพระออกจากรังนั้น ต้องคิดทบทวนแล้วทบทวนอีก การขายพระออกจากรังเป็นชุดๆ ๕ องค์บ้าง ๑๐ องค์บ้าง กว่าจะหมดรังก็ต้องทำใจแล้วทำใจอีก เจ้าของรังพระส่วนใหญ่จึงตัดสินใจขายพระยกรังมากกว่า นอกจะได้เป็นเงินก้อนใหญ่แล้ว ก็ทำใจเพียงหนเดียเท่านั้น ส่วนผลต่อวงการพระนั้น ทำให้ตลาดพระมีการเคลื่อนไหว มีพระองค์ใหม่ๆ โดยเฉพาะพระที่เป็นตำนาน พระในรูป ซึ่งบางองค์เคยหายหน้าไปจากวงการนานกว่า ๓๐ ปี ก็กลับมาสู่ตลาดพระอีกครั้งหนึ่ง

ในขณะที่ ศุภชัย เรืองสรรงามศิริ ประธานชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย บอกว่า รังพระที่แตกออกมาหลายสิบรัง สะเทือนใจ เสียดายของ เพราะเก็บมาหลายสิบปี บางรังเคยแตกออกไปก็กลับมาซื้อใหม่ แตกพระบูชาออกไปกลับมาซื้อพระเครื่อง แตกเพราะเบื่อ เปลี่ยนแนวการเล่น สถานภาพทางการเงิน เศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดเช่าซื้อพระเก่าคักคึกมากขึ้น พระที่แตกรังส่วนใหญ่เป็นพระที่มีคุณ รังที่แตกที่มีสวยๆ ประจำรังอยู่แล้ว ในอดีตค่อยๆ แตกรัง แต่ปัจจุบันเจ้าของรังต้องการเงินก่อน ๒๐๐-๓๐๐ ล้าน จึงเป็นหน้าที่ของคนเจาะรัง ไม่ค่อยมีเช่าทีละเล็กละน้อย บางรังทยอยออกมา ขณะที่บางรังทยอยขายออกมากว่า ๒๐ ปี ยังไม่หมด เพราะเจ้าของรังไม่มีความเดือดร้อน เคยเช่าบางส่วนของรังมาหลายครั้งประมาณ ๑๐ รัง เช่าเฉพาะที่ถนัด และมีความชำนาญ ๒๕-๓๐ ล้าน เช่ายกรังเจ้าของรังได้ประโยชน์มากกว่า ถ้าตัดจะเหลือพระที่ขาย ตรงนี้เป็นหน้าที่ ต้องทำใจว่าโดนพระปลอม จากรังใหญ่ถูกแพงเก๊แท้น้อยมาก ขาดทุนเลยเหมามา ๑๕๐ องค์

ทางด้าน สมศักดิ์ ศกุนตนาฏ บรรณาธิการอำนวยการสำนักพิมพ์คเณศ์พร และประธานชมรมผู้สื่อข่าวและช่างภาพพระเครื่อง บอกว่า พระแตกรังส่วนหนึ่งเกิดจากจุดอิ่มตัวของนักสะสม ที่ไม่อยากจะเก็บพระไว้ ต้องการระบายออก กว่าเจ้าของรังพระคนใดคนหนึ่งจะตัดสินใจขายพระต้องคิดมาก เสียใจมาก เพราะเป็นของรักของหวง ที่สำคัญยิ่งกว่า คือ เป็นศักดิ์ศรีของตัว เพราะขึ้นชื่อครั้งหนึ่งเคยเป็นนักสะสมพระมือหนึ่งของประเทศ แต่ด้วยเหตุที่ทายาทเป็นลูกไม้หล่นไกลต้น บางคนพ่อถ่ายทอดให้ ยิ่งถ้าเป็นลูกผู้หญิง การที่จะรักษารังพระของพ่อไว้เป็นเรื่องยาก การแตกรังของพระถือว่าเป็นเรื่องดี สังคมวงการพระเงียบเหงา โดยเฉพาะได้เผยโฉมองค์สวยๆ ที่เคยหายหน้าไปจากวงการ

 อ.ราม วัชรประดิษฐ์ นักโบราณคดี และอาจารย์ประจำสาขาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก บอกว่า "รังพระ" เป็นคำศัพท์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ หมายถึง ผู้ที่นิยมชื่นชมสะสมวัตถุมงคล ทั้งพระเครื่อง พระบูชา เหรียญคณาจารย์ รวมทั้งวัตถุมงคลอื่นๆ

ความหมายของ "รังพระ" นั้นจะต้องเป็นผู้ที่สะสมจำนวนมากพอสมควร  ไม่จำกัดเฉพาะพระเก่าเท่านั้น ผู้ที่สะสมพระใหม่ก็เรียกว่าเป็นเจ้าของรังพระได้เช่นกัน ส่วนคำว่า "กรุพระ" หมายถึง การนำวัตถุมงคลเก็บฝังตามสถานที่ต่างๆ เช่น เจดีย์ โบสถ์ นอกจากนี้บางครั้งเราจะพบว่า มีการนำคำว่า "กรุพระ" ไปเรียกสถานที่เก็บพระจำนวนมากๆ ด้วยก็มี

สำหรับ ตำนานแห่งรังพระในอดีต ที่มีชื่อเสียงมีอยู่ ๔ รังใหญ่ๆ คือ ๑.รังพระของครูเอื้อ สุนทรสนาน เจ้าของตำนานพระสมเด็จองค์ครูเอื้อ (พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่) ๒.รังพระของเจ้แจ๋ว เจ้าของสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ องค์เจ้แจ๋ว ๓.รังพระของท่านลพ ซึ่งเป็นพระภิกษุ ถือว่าเป็นรังที่มีพระพุทธรูปบูชาที่เก่าแก่จำนวนมาก และ ๔.รังพระของคุณฉ่าหลี ยงสุนทร อดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ถือว่าเป็นเจ้าของรังพระ ของเก่าของสะสมที่รู้จักกันดีในวงการพระโบราณ มีพระชุดเบญจภาคีชั้นนำอยู่นับสิบองค์ เช่น เจ้าของพระสมเด็จ วัดระฆัง องค์ลุงพุฒิ (ปัจจุบันอยู่กับโป๊ยเสี่ย) พระสมเด็จ วัดระฆัง องค์ขุนศรี (พิมพ์ใหญ่) การแตกรังของคุณฉ่าหลี ทำให้ประวัติศาสตร์การสะสมพระเครื่องของประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬาร เพราะมีผู้ที่เข้าไปขอเช่าบูชามากมายหลายคน พระแตกรังไปอยู่รังใหม่ๆ ของบุคคลชั้นนำระดับประเทศ ส่วน "รังพระ" ที่ขึ้นชื่อของวงการพระเครื่องในปัจจุบัน ซึ่งมูลค่าของพระบางรังอาจจะสูงถึงหลักพันล้าน เช่น รังพระของไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ หรือ "โป๊ยเสี่ย" รังพระของปรีดา อภิปุญญา หรือ "เฮียหนึ่ง" รังพระของ ส.ส.ชาญชัย ปทุมารักษ์ รังพระของ ส.ส.นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รังพระของต้อย เมืองนนท์ รังพระของเทพ กำแพง รังพระของ อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ และรังพระของนายสุชาติ สหัสโชติ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นอกจากนี้ยังมีรังพระที่ยังไม่เปิดเผยสู่วงการอีกจำนวนมาก

เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู คมชัดลึก