พระพิฆเนศวร์

เมื่อช่วงเข้าไตรมาสสุดท้ายของปี ๒๕๕๐ เป็นต้นมา หลังจากกระแสความนิยมในวัตถุมงคล จตุคามรามเทพ เริ่มลดน้อยถอยลง กลับมีกระแสของมหาเทพองค์หนึ่งเข้ามาแทนที่ ซึ่งเรียกว่าเป็นการคาดหวังน้ำบ่อหน้าของนักนิยมสะสมวัตถุมงคลเลยก็ว่าได้ อาจจะเป็นการประจวบด้วยในปี ๒๕๕๑ เป็นปีชวด เป็นปีซึ่งถูกโฉลกกับมหาเทพดังกล่าว พระพิฆเนศ จึงเป็นเทพแห่งความคาดหวังว่าจะนำพาวงการวัตถุมงคลให้เฟื่องฟูต่อจากยุคขาลงของจตุคามฯ ได้ ความผูกพันและความศรัทธาในองค์พระพิฆเนศนั้น คนไทยโดยทั่วไปมักชินจนกลายเป็นประเพณีนิยมไปเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการบวงสรวงในพิธีกรรมต่างๆ ตลอดจนในวงการบันเทิง หรือศิลปะทั้งปวง จึงมักจะต้องมีการบวงสรวงองค์พระพิฆเนศเป็นปฐมฤกษ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเสมอ ด้วยทรงเป็นมหาเทพแห่งความสำเร็จ ตามความเชื่อในทางศาสนาพราหมณ์ ดังคำที่ได้กล่าวมาแล้ว

หลักเกณฑ์ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้วัตถุมงคลใดๆ สามารถแหวกกระแสขึ้นมาเป็นวัตถุมงคลชั้นแนวหน้าจนประชาชนวิ่งเช่าหาบูชากันนั้น แน่นอนครับ เรื่องของความศรัทธาจะต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก และตามมาด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เป็นลำดับถัดมา แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่ผมมักกล่าวเสมอก็คือ ในเรื่องของเศรษฐกิจในภาพรวม เพราะเรื่องของวงการวัตถุมงคลนั้น เป็นเรื่องที่มักถูกมองว่าเป็นเรื่องของความฟุ่มเฟือย และถูกจัดวางไว้หลังเรื่องปากท้องเสมอ ถ้าหากจะให้ผมวิเคราะห์ถึงจุดด้อยและจุดแข็ง ถึงกระแสของความนิยมว่าทำไมในยุคหนึ่คนไทยจึงคลั่งไคล้บูชาองค์พ่อจตุคามรามเทพ จนเป็นปรากฏการณ์ประวัติศาสตร์ และเหตุใดในยุคที่กระแสจตุคามฯ ลง เหตุใดวงการวัตถุมงคลจึงถึงปลุกกระแสความนิยมในการเช่าบูชาพระพิฆเนศ แต่กระแสกลับแผ่วปลายอย่างรวดเร็ว ปัจจัยสำคัญน่าจะมาจากประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งพุทธศาสนา การที่องค์จตุคามรามเทพ เป็นเทพที่ถือกำเนิดมาจากอาณาจักรศรีวิชัย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยในปัจจุบัน และทรงเป็นเทพที่มีประวัติและความผูกพันกับพุทธศาสนาตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ความเคารพและความศรัทธาจึงสามารถซึมซับเข้าสู่จิตใจของคนไทยได้ง่าย ประกอบกับการตื่นกระแสของเทพที่มีแต่ให้ ซึ่งเป็นเทพที่เปรียบเป็นบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นผืนแผ่นดินเดียวกับที่ประชาชนไทยทุกคนได้อาศัยอยู่นี้ รวมถึงเรื่องราวปาฏิหาริย์ที่บอกเล่ากันปากต่อปากจนแม้แต่ในทุกวันนี้

แม้กระแสการเช่าหาบูชาองค์จตุคามฯ ลดลง แต่ก็ยังปรากฏผู้ที่ศรัทธาแขวนองค์จตุคามฯ กันอย่างเหนียวแน่นไม่ได้ถอดออกจากคอขึ้นหิ้งแต่ประการใด ซ้ำตามบ้านเรือนต่างๆ เราก็ยังคงจะสังเกตได้ว่าโต๊ะหมู่บูชา หรือห้องพระตามบ้าน สำนักงานร้านค้าทั่วไปก็ยังวางตั้งสักการบูชา หรือไม่ก็แขวนติดผ้ายันต์เพื่อความเป็นสิริมงคลกันอย่างไม่เปลี่ยนแปลง โดยคงไม่มีใครกล้าที่จะปฏิเสธว่าไม่รู้จักองค์พ่อจตุคามรามเทพในทุกวันนี้ ซึ่งจุดนี้น่าจะเป็นจุดแข็งที่สำคัญประการหนึ่งที่ถูกหักล้างได้ยาก แต่ถ้าหากหันกลับมาวิเคราะห์กระแสการเช่าหาบูชาพระพิฆเนศในปัจจุบัน กลับเงียบกริบ ต่างกับยุคของความรุ่งเรืองของกระแสจตุคามฯ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปัจจุบันได้มีการเก็บข้อมูลในการจัดสร้างพระพิฆเนศตั้งแต่ต้นปี ๒๕๕๑ มาจนถึงปัจจุบัน ถ้านับรุ่นได้ก็จะตกอยู่ที่ราว ๕๐-๖๐ รุ่นเท่านั้น และกระแสของผู้จัดสร้างรายถัดไปก็เริ่มเลือนรางลงอย่างถนัด ซึ่งในช่วงยุคเริ่มแรกของต้นปี การสร้างพระพิฆเนศยังมีกลุ่มผู้สร้างจตุคามฯ บางรายเข้ามาสร้างพระพิฆเนศ เพื่อหวังเป็นการสร้างตามกระแสเช่นกัน แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่ปรากฏทางสื่อในช่วงยุคปัจจุบันก็ค่อนข้างเงียบ จึงเป็นวัตถุมงคลที่ถูกสร้างแต่ขาดการกระตุ้นจากสื่อ จึงยากที่จะแหวกกระแสให้ขึ้นมายืนโดดเด่นแทนที่กระแสจตุคามฯ ได้

ถ้าหากลองสังเกตจุดอ่อนอีกจุดหนึ่งที่ไม่สามารถทำให้กระแสพระพิฆเนศฝ่ากระแสขึ้นมายืนอยู่แนวหน้าวัตถุมงคลชิ้นอื่นๆ ได้ ก็คงจะเป็นการปลูกฝัง หรือเรื่องราวที่เราต่างรับทราบสืบทอดกันมา ว่าพระพิฆเนศทรงเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ หรือผู้ทรงในวิทยาการทั้งปวง จนหลายคนหลงมองกันไปว่า ผู้ที่จะบูชาพระพิฆเนศน่าจะเป็นบุคคลประเภทดารา นักแสดง หรือนักศิลปะ นักประพันธ์ทั้งปวง แต่กลับขาดจุดแข็งที่สามารถกระตุ้น หรือโดนใจนักนิยมสะสมวัตถุมงคล ในสังคมไทยก็คือ ในเรื่องของความแคล้วคาดปาฏิหาริย์ คงกระพันชาตรี ฯลฯ ซึ่งในบุคคลที่วิ่งเช่าหาบูชาจตุคามรามเทพนั้นคงจะทราบกันดี จนมั่นใจได้ว่าในเรื่องโชคลาภสักการะทั้งในเรื่องที่ได้กล่าวมา ล้วนมีอยู่ครบ ในการบูชาองค์พ่อจตุคามรามเทพเพียงองค์เดียว ดังข่าวคราวทางหน้าหนังสือพิมพ์รายวัน ที่เคยดังกระหึ่มจากการรอดตายราวปาฏิหาริย์จากคมอาวุธสงคราม รวมถึงการมีโชคลาภ และความสำเร็จที่เห็นอยู่เนืองๆ จากการห้อยแขวน รวมถึงการบูชาองค์พ่อจตุคามรามเทพ และเป็นวัตถุมงคลสิ่งเดียวที่ใช้ระยะเวลาอันสั้นเพียง ๒๐ ปี นับจากเรื่องราวขององค์ท่านถูกนำออกเผยแผ่ และกลายเป็นวัตถุมงคลประวัติศาสตร์ที่ประชาชนคนไทยคงจะไม่มีวันลืมในช่วงยุคของความรุ่งโรจน์การเช่าหาบูชาจตุคามรามเทพ เหมือนกับยุคตื่นทองไปได้

ตรงนี้คือจุดแข็งที่สำคัญที่หลายคนเชื่อว่า ถ้าท่านไม่มีความศักดิ์สิทธิ์จริง ไฉนเลยวัตถุมงคลพิมพ์น้ำตาลแว่น หรือที่เรียกกันเป็นทางการว่า พระผงสุริยันจันทรา ในรุ่นปี ๓๐ ในเนื้อที่หายาก จะมีราคาทะลุเกินหลักล้าน ส่งผลให้ทุกรุ่นต่อมาที่มีการสร้างอย่างมาตรฐาน ค่าเช่าบูชาในหลายรุ่น ก็สามารถทะลุหลักแสนได้เช่นกัน สิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้ ก็ยังไม่เคยปรากฏในวงการเช่าหาบูชาวัตถุมงคลในสายพระพิฆเนศแต่อย่างใด ยิ่งในสภาวะปัจจุบัน จึงถือเป็นโอกาสทองของผู้กว้านเก็บวัตถุมงคลทางสายจตุคามฯ เพราะปัจจุบันยังมีผู้คนที่ศรัทธา ยังตามเก็บสะสมวัตถุมงคลสายนี้ ในราคาถูกกระเป๋าอย่างต่อเนื่อง

 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีวันแปรเป็นอย่างอื่นไปได้ ไม่ต่างจากเพชรที่รอเวลาประกายแสง เพียงรอแค่แสงมาตกกระทบอีกเท่านั้นครับ

ข่าวพระเครื่อง