พระเครื่อง อมูเลทตั้มศรีวิชัย ตลาดพระเครื่องรางของขลัง สวนไผ่สกลนคร หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล วันตรุษจีน2567
>...ตั้มศรีวิชัย TumAmulet ...< Thailand Amulet Charms |
คำแนะนำจากตำรวจเมื่อถูกโกง |
เงื่อนไขการรับประกัน การันตีพระเครื่อง |
สารบัญพระเครื่องเมืองนคร |
ทำเนียบพระกรุเมืองนคร |
ทำเนียบพระเครื่องเมืองนคร |
ชมรมพระเครื่อง |
บูชาพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง Amulets Charms Talismans |
ตลาดพระ amulet for you |
เช่า-บูชา เครื่องรางของขลัง |
พระหลวงปู่ทวด วัดต่างๆ |
จตุคาม-รามเทพ หลักเมืองนคร Jatukamramtep (Jatukarm) |
หลักเมืองนครศรีธรรมราช |
จตุคาม ของดีนำมาโชว์ |
บทความ น่ารู้องค์พ่อจตุคาม |
Jatukam Amulets |
บทความจตุคามรามเทพ |
ลิงค์น่าสนใจ |
หนังสือพิมพ์ |
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน |
เทศกาล วันสำคัญ |
ดวง ดูดวง หน้าหลัก |
บทความดีๆ |
นิทานสอนใจ |
วัฒนธรรมไทย ประเพณีไทย |
บทสวดมนต์ สำหรับชาวพุทธ |
พระเครื่อง นานาสาระ |
พระพุทธรูปสำคัญของไทย |
คาถา-อาคม พระคาถาอาคม |
พระพุทธรูปปางต่างๆ |
พุทธศาสนสุภาษิต |
ข่าวพระเครื่อง |
บทความพระเครื่อง |
Thai Buddha Amulets |
ข่าวพระพุทธศาสนา |
ข่าวเครื่องรางของขลัง |
สาระพระเครื่องไทย |
ประวัติพระวิปัสสนาจารย์ |
สวนไผ่ พันธุ์หญ้า ธนภัทรสกลนคร สินค้าเกษตรออนไลน์ ไผ่สายพันธุ์ต่างๆ ไผ่ข้าวหลามกาบแดง ไผ่ซางหม่น หน่อไม้น้ำ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้านรกจักรพรรดิ์ หญ้าเนเปียร์ปากช่อง1 หญ้าเนเปียร์แคระ หญ้าเนเปียร์ท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลีฟ สะสมพระเครื่อง แต่ใจรักเกษตรผสมผสาน
|
เส้นทางนักพระเครื่อง
เมื่อกว่า ๑๐ ปีก่อน คนต่างจังหวัดน้อยนักที่จะกล้าเช่าพระหลักที่วงการพระในส่วนกลางนิยมกัน เพราะ ใจไม่ถึง พระราคาองค์ละหลายพันหลายหมื่นบาทในสมัยนั้น ถือว่าแพงมาก สู้เช่าพระท้องถิ่นราคาไม่กี่สิบกี่ร้อยบาทไม่ได้ ถูกสตางค์ดี ปัญหาอีกอย่างหนึ่ง คือ ขยาดกับการเช่า พระปลอม เช่าไปทีไรกลายเป็นพระปลอมทุกที เพราะขาดที่ปรึกษาที่ดี และมีความจริงใจต่อกัน วงการพระตามจังหวัด จึงเลือกเล่นกันแต่พระในท้องถิ่นของตนเอง ชนิดที่กล้าเช่าพระแพงๆ หรือพระหลักยอดนิยม ตามแบบมาตรฐานสากลของวงการพระ จึงมีจังหวัดละไม่กี่คนเท่านั้น หนึ่งในนั้นก็มี สันต์ วิวัฒนวาณิชย์ หรือที่คนในวงการพระทั่วไปรู้จักกันในนาม "เสือ ชุมพร" เจ้าของร้านนาฬิกา เหรียญทอง ถนนศาลาแดง อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นมือวางอันดับ ๑ ของเซียนพระเมืองชุมพร แม้แต่เซียนพระรุ่นเก่าตามสนามพระใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ ต่างรู้จัก "เสือ ชุมพร" เป็นอย่างดี "เสือชุมพร" เป็นนักสะสมพระเครื่องทุกประเภท ที่ชอบมากเป็นพิเศษ คือ พระเนื้อชิน รองลงไปคือ พระเนื้อดิน พระเนื้อผง รูปหล่อ และเหรียญพระเกจิอาจารย์ยุคเก่า รวมทั้งพระท้องถิ่นภาคใต้ มีมากที่สุด คือ พระปิดตาเมืองคอน ของเก่าสมัยอยุธยา พระกรุเมืองคอน พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าของภาคใต้ โดยเฉพาะของเมืองชุมพร มีครบแทบทุกหลวงพ่อหลวงปู่ และที่ขาดไม่ได้ คือ พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี รุ่นที่สร้างในสมัย พระอาจารย์ทิม ยังมีชีวิตอยู่ เรียกได้ว่า "รังพระ" ใหญ่ที่สุดของเมืองชุมพร ก็คือ "เสือ" ร้านนาฬิกาเหรียญทอง...นี่เอง แต่...กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ "เสือ" บอกว่าก็ถูกเขาหลอกขายพระเก๊พระปลอมมาแล้วเหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของวงการนี้ ใครที่บอกว่า ไม่เคยซื้อพระเก๊ แสดงว่าพูดไม่จริง จุดเริ่มต้นของการซื้อพระครั้งแรก "เสือ" เล่าว่า "เมื่อประมาณปี ๒๕๑๐ ผมไปตัดกางเกงที่ร้านพรรคพวกในตัวเมืองชุมพร พอดีเขากำลังซื้อพระจากคนเดินสายขายพระ ซึ่งไปจากกรุงเทพฯ เพื่อนจึงแนะนำให้ผมซื้อพระไว้ ๒ องค์ ๓๐๐ บาท เขาบอกว่าเป็นพระนางกำแพง เพื่อนคนนี้เขาเล่นพระมานานแล้ว และคุยว่าเขาดูพระเป็น จึงคิดว่า พระที่เขาแนะนำให้ซื้อนั้น คงเป็นพระดีไม่มีปลอมแน่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยสนใจที่ซื้อพระมาก่อนเลย ที่มีอยู่บ้างก็เป็นพระท้องถิ่น เวลาไปทำบุญที่วัดได้รับแจกมา ก็เก็บเอาไว้เท่านั้นเอง" หลังจากนั้น "เสือ" ได้เอาพระนางกำแพงเลี่ยมแขวนขึ้นคอองค์หนึ่ง แขวนอยู่เป็นปี วันหนึ่ง ขึ้นไปธุระที่กรุงเทพฯ จึงเดินเข้าไปใน สนามพระวัดมหาธาตุ เอาพระนางกำแพงที่แขวนอยู่ในคอให้ร้านขายพระดู พอยืนพระไปแล้ว เขาไม่พูดอะไร ไม่ได้ถามว่าจะขายไหม คืนให้ด้วยความเฉยเมย จึงรู้สึกเอ๊ะใจ พอดีเดินผ่านแผงพระของเซียนใหญ่ท่านหนึ่ง (มาทราบภายหลังว่าชื่อ สำราญ บางแค) เห็นพระในตู้ของเขามีพระนางกำแพงวางขายอยู่ด้วย แต่พิมพ์พระและเนื้อพระไม่เหมือนกับพระองค์ที่เสือแขวนไป จากนั้นไปดูที่แผงพระของ โกเฮง พิษณุโลก จำลอง สุริโย โกหย่วน เมืองพิชัย ปรีชา ดวงวิชัย ฯลฯ ส่วนใหญ่มีพระนางกำแพงวางขายอยู่ด้วย องค์ละ ๓๕๐ บาท พอเอาพระที่มีอยู่ไปเปรียบเทียบ ปรากฏว่ามีความแตกต่างกันมาก เจ้าของร้านพระจึงบอกความจริงว่า พระที่เสือมีอยู่นั้น เป็นพระปลอม เมื่อเดินทางกลับบ้านที่ชุมพร จึงไปบอกกับเพื่อนร้านตัดเสื้อกางเกงว่า พระที่ซื้อจากเซียนพระคนนั้นเป็นพระปลอม แต่เพื่อนไม่ยอมเชื่อ ยังคงซื้อพระจากเซียนคนนั้นอีก ต่อมา...เสือเกิดความอยากรู้ว่า พระแท้เป็นอย่างไร ? มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ? จึงได้ซื้อหนังสือพระของ ประชุม กาญจนวัฒน์ เล่มที่ได้ชื่อในเวลาต่อมาว่า "หนังสือพระเล่มครู" ได้ศึกษาจากหนังสือเล่มนี้เป็นเวลาปีกว่า จึงได้ซึมซับเอาความรู้ต่างๆ ไว้มากพอสมควร ทำให้รู้ว่าพระแท้เป็นอย่างไร เรียกว่าเรียนรู้ได้ระดับหนึ่ง รวมทั้งรู้ว่า วิธีที่จะได้พระแท้นั้น ควรจะติดต่อซื้อพระจากใครบ้าง ? พอดีช่วงนั้น เชียร ธีรศานต์ เซียนพระรุ่นอาวุโส ผู้ชำนาญพระเนื้อดิน โดยเฉพาะพระเมืองกำแพงเพชรพระเมืองลำพูน ท่านไปทำงานป่าไม้อยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้แวะมาหาเพื่อนคนหนึ่งที่ จ.ชุมพร จึงได้รู้จักกับ เชียร ธีรศานต์ อย่างไม่คาดฝันมาก่อนเลยว่า จะได้พบกับเซียนพระรุ่นใหญ่ตัวจริงเข้าแล้ว "อาเชียร" จึงได้แนะนำให้อ่านหนังสือที่ท่านเขียนขึ้น เป็นเรื่องของพระเมืองเหนือทั้งหมด จึงซื้อจากท่านมาเล่มหนึ่ง ตะลุยอ่านและศึกษาเรื่องพระเมืองเหนืออย่างเอาจริงเอาจัง ทำให้รู้เรื่องของพระแท้กรุต่างๆ ทางภาคเหนือมากพอสมควร ขณะเดียวกันก็เกิดความอยากได้พระกรุเมืองเหนือขึ้นมาด้วย ปี ๒๕๑๓ "เสือ" ขึ้นไปธุระที่กรุงเทพฯ ได้แวะสนามพระวัดมหาธาตุ มีคนเหนือเอา พระคง ลำพูน เนื้อเขียว มาเสนอขายให้เซียนพระในสนาม ราคา ๖๐๐ บาท เซียนหลายคนต่อราคาเขาเหลือเพียง ๓๐๐-๔๐๐ บาท เขาไม่ขาย จึงเดินออกจากสนามพระไป จังหวะนั้นเอง "เสือ" จึงได้เดินติดตามไป และขอซื้อพระคงเขียวองค์นั้นในราคา ๖๐๐ บาท เพราะมั่นใจต้องเป็นพระแท้ เนื่องจากได้ผ่านตาเซียนพระมาแล้ว เพียงแต่ไม่ตกลงเรื่องราคาเท่านั้น พอกลับไปชุมพร เอาพระคงเขียวองค์นี้ไปให้ใครต่อใครดู เขาตีเก๊หมด เพราะพระคงองค์นี้มีหน้าตาคมชัด และสวยเกินไปนั่นเอง ต่อมา สนาน กฤษณะเศรณี เซียนพระรุ่นเก่าอีกท่านหนึ่ง แวะมาขายพระที่ชุมพร "เสือ" ไปยืนดูอยู่ด้วย เกิดความสนใจ พระหูยาน ลพบุรี ซึ่งเปิดราคาไว้ที่ ๑,๘๐๐ บาท จึงขอให้ลดราคาลงหน่อย "พี่หนาน" บอกว่าไม่ได้ ถ้าหากมีพระเอามาแลกเปลี่ยนกันก็ได้ "เสือ" จึงถอดเอาพระคงเขียวให้ดู "พี่หนาน" ส่องดูพระประเดี๋ยวเดียวก็บอกว่า เออ...องค์นี้แลกกันได้...เพื่อนจึงกระซิบว่า อย่าแลก...พระคงองค์นี้ต้องแท้แน่นอน เพราะสนานเป็นเซียนใหญ่ชาวราชบุรี ดูพระทุกประเภทได้เด็ดขาด ถ้าบอกว่าพระองค์ไหนแท้ ก็ต้องเชื่อท่าน จากวันนั้น...ทำให้ใครต่อใครในเมืองชุมพร เล่าลือกันว่า "เสือ" เล่นพระได้ ซื้อพระได้เก่ง ได้พระแท้มาจากกรุงเทพฯ ชื่อเสียงตอนนั้นจึงโด่งดังขึ้นมาทันที จึงมีกำลังใจ ในการเช่าพระอยู่เสมอ เมื่อขึ้นไปกรุงเทพฯ จะต้องไปเช่าพระที่สนามพระวัดมหาธาตุ ทำให้มีพระหลักยอดนิยม เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นที่รู้จักของเซียนพระในกรุงเทพฯ เป็นอย่างดี ในฐานะ "มือซื้อ" ที่ใจถึงจริงๆ ขอให้เป็นพระแท้ ราคาไม่เกี่ยง...ว่างั้นเถอะ ความที่เสือเป็นนักสะสมพระที่เซียนพระในกรุงเทพฯ รู้จักกันดี และมีพระยอดนิยมที่สวยๆ มากมาย ทำให้นักธุรกิจใหญ่น้อย ตลอดจนผู้ใหญ่ในวงราชการ ไปพบปะพูดคุยกับ "เสือ" ที่ร้านนาฬิกา "เหรียญทอง" ของเขาอยู่เสมอๆ ครั้งหนึ่ง นายตำรวจใหญ่ (มาก) ท่านหนึ่งไปหาที่ร้าน พร้อมกับขอดูพระสมเด็จ กรุบางขุนพรหม องค์หนึ่งซึ่งสวยสุดยอด เสือรู้ทันว่านายตำรวจใหญ่ท่านนี้ต้องการจะมาขอซื้อพระองค์นี้ จึงบอกไปตามตรงว่า พระองค์ไม่ได้เปิดราคา (ไม่ขาย) หากท่านต้องการจะดูก็ได้ แต่ต้องสาบานต่อหน้าพระก่อนว่า จะไม่ขอซื้ออย่างเด็ดขาด นายตำรวจใหญ่ท่านนั้นก็ทำตามที่บอกไว้ เสือจึงนำพระสมเด็จองค์สวยและพระอื่นๆ อีกหลายองค์ ให้ดู ท่านดูไปก็ชมไปว่าสวยจริงๆ พร้อมกับพูดว่าน่าจะแบ่งให้สักองค์ สรุปวันนั้น ท่านนั่งดูพระอยู่หลายชั่วโมง ถึงได้กลับที่พัก วันรุ่งขึ้น...นายตำรวจท่านนั้น มาหาที่ร้านอีกบอกว่า ยังติดใจพระสมเด็จองค์เมื่อวานนี้ เสือรู้ทันอีกว่า วันนี้ขืนเอาพระให้ดูอีกคงต้องเสียของแน่ เพราะท่านจะอ้างว่า ที่สาบานไว้นั้นเป็นการสาบานเมื่อวานนี้ วันนี้มาใหม่ จึงไม่เกี่ยวเนื่องกัน เสือจึงบอกไปว่า หากจะดูใหม่ ก็ต้องสาบานใหม่ ท่านก็ทำตามแล้วก็กลับไปมือเปล่า โดยไม่มีการซื้อขายพระกันแต่ประการใด ทราบแต่ว่าท่านไปบ่นให้คนอื่นฟังว่า "เสือ ชุมพรนี่ใจแข็งจริงๆ" เรื่องของ พระสมเด็จ ไม่ว่าจะเป็นของวัดระฆัง หรือบางขุนพรหม เสือได้เช่าเอาไว้หลายองค์ ขณะเดียวกัน เสือมีทัศนคติเกี่ยวกับ พระสมเด็จ ที่เจ้าประคุณสมเด็จโต ได้ปลุกเสกเอาไว้ เป็นพระสุดยอดของวงการ ผู้ที่จะมีไว้ครอบครอง นอกจากจะต้องมีเงินแล้ว จะต้องมี บารมี อีกด้วย ถึงจะมีบุญวาสนาได้ไว้สักการบูชา ฉะนั้น คนที่มีพระสมเด็จแท้ๆ จึงย่อมไม่ตกอับ ไม่อับจน แต่ถ้าหากวันใดจำเป็นต้องใช้เงิน จะเอาท่านไปขาย ก็ไม่เป็นไร หากคนนั้นมีพระสมเด็จอยู่หลายองค์ จะช่วยให้ปัญหาความเดือดร้อนหมดไปได้ เสือย้ำว่า...ถ้าหากใครมีพระสมเด็จอยู่เพียงองค์เดียว ขออย่าได้ปล่อยออกไปอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าหากปล่อยพระสมเด็จออกไป ชีวิตของคนนั้นจะตกอับสุดระกำลำบากอย่างที่สุด ถึงขั้นบ้านแตกสาแหรกขาดทันที ที่พูดมานี้ เสือบอกว่าได้เห็นตัวอย่างมาแล้วมากมาย จึงเชื่อว่า เรื่องพระสมเด็จ เป็นเรื่องบุญบารมี ท่านจะอยู่กับคนดีมีบารมีเท่านั้น หากเจ้าของยังขายท่านออกไปได้ ก็เท่ากับบารมีเจ้าของพระได้หมดหายไปด้วย เกี่ยวกับประสบการณ์ในการใช้พระ เสือบอกว่า "เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ที่จำได้แม่นคือ เมื่อครั้งคุณพ่อมานอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ วันหนึ่งได้ขี่จักรยานยนต์ไปเยี่ยมคุณพ่อ ขณะที่ผ่านมุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ผิวถนนมีน้ำมันราด ถนนลื่นมาก บังคับรถไม่อยู่ ทำให้เสียหลัก รถครูดไปกับผิวถนน แล้วไปปะทะกับขอบฟุตบาทอย่างแรง รถพังยับเยิน เสื้อผ้าขาดหมด แต่ปรากฏว่า ตามตัวไม่มีบาดแผลใดๆ ไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ไม่มีบาดแผล หรือร่องรอยความชอกช้ำทั้งภายนอกและภายในแต่ประการใด นับเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก วันนั้นจำได้ว่า แขวนพระมเหศวร กรุวัดพระศรีฯ จ.สุพรรณบุรี" อีกครั้งหนึ่ง เสือบอกว่า ขึ้นมาธุระที่กรุงเทพฯ ขณะที่นั่งรถตุ๊กตุ๊ก จะไปขึ้นรถเร็วสายใต้ ที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย ฝนตกหนัก ทำให้รถตุ๊กตุ๊กเครื่องดับ คนขับแก้ไขอยู่พักหนึ่งก็ไปได้ แต่เมื่อถึงสถานีรถไฟ ปรากฏว่า ขบวนรถเร็วได้เคลื่อนออกไปแล้วสัก ๕-๖ เมตร จึงวิ่งไล่ตาม แต่ไม่ทันท้ายขบวน ทั้งๆ ที่รถไฟก็เคลื่อนด้วยความเร็วไม่มากนัก เมื่อขึ้นรถไม่ทัน ต้องกลับมานอนพักที่โรงแรมอีกคืนหนึ่ง วันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า ขบวนรถไฟดังกล่าว ไปจอดรอหลีกอยู่ที่สถานีแห่งหนึ่งในเขต จ.เพชรบุรี ปรากฏว่า ตู้สุดท้ายถูกหัวรถจักรดีเซลอีกขบวนหนึ่ง พุ่งชนท้าย พังยับเยิน ผู้โดยสารในตู้ดังกล่าวได้รับบาดเจ็บหลายคน และถึงแก่ความตายก็มี แต่เสือรอดตายมาอย่างหวุดหวิด เพราะหากวันนั้น ขึ้นรถเร็วขบวนนั้นได้ทัน ก็นั่งอยู่ในตู้นี้เหมือนกัน ครั้งที่ ๓ เดินทางไปประกวดพระที่ จ.จันทบุรี ก่อนงานเลิก เสือได้ไปดักรอขึ้นรถเมล์กลับเข้ากรุงเทพฯ ขณะที่รถเมล์กำลังจะจอด คุณสนาน กฤษณะเศรณี ขับรถมาถึงพอดี จึงกดแตรเรียก ให้ไปขึ้นรถของเขา กระเป๋ารถถึงกับแสดงอาการไม่พอใจ พอรถคุณสนานขับแซงรถเมล์ไปได้ไม่นาน ก๋ได้แวะกินข้าวที่ปั๊มแห่งหนึ่ง เสร็จแล้วจึงขับรถมุ่งสู่กรุงเทพฯ ต่อไปได้ไม่ไกลนัก ปรากฏว่า มีรถเมล์คันดังกล่าวไปเกิดพลิกคว่ำอยู่ข้างทาง มีคนบาดเจ็บหลายคน และมีผู้ถึงแก่ความตายด้วย พี่สนานถึงกับบอกว่า ถ้าเสือขึ้นรถเมล์คันนี้ทัน อาจจะบาดเจ็บ หรือตายก็ได้ ช่วงปี ๒๕๒๔ เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในตัวเมืองชุมพรมีวงแชร์ล้มหลายวง เป็นลูกโซ่ติดต่อกันทั้งลูกแชร์และเถ้าแชร์พากันหนีหนี้ไปตามๆ กัน เสือเองก็โดนกับเขาด้วย เป็นเงินถึง ๓ ล้านบาท พอธนาคารรู้ข่าวว่า มีการล้มแชร์ จึงทวงหนี้ลูกค้าธนาคารทันที ทำให้เสือต้องเอาพระที่สะสมไว้หลายองค์ไปขายเพื่อหาเงินใช้คืนธนาคาร พระที่เอาไปขายนั้นล้วนเป็นพระหลักหมื่นหลักแสนทั้งนั้น โดยใช้เวลา ๓ วัน ขายพระออกไปหลายสิบองค์ ในราคาที่ถูกมาก เพราะต้องการขายอย่างเร่วด่วน ทำให้ได้เงิน ๓ ล้านบาท ไปใช้หนี้ธนาคารได้ทันตามกำหนด ถามว่าเสียดายไหม ? เสือบอกว่าก็เสียดายเหมือนกัน แต่ถือว่าเป็นของนอกกาย ไม่ตายหาใหม่ได้ แต่ชื่อเสียงเกียรติยศสำคัญกว่า จึงต้องรักษาเครดิตตัวเองเอาไว้ก่อน ซึ่งก็เป็นความจริง เพราะในเวลาต่อมา เมื่อเหตุการณ์ดีขึ้น เสือก็สามารถหาเช่าพระต่างๆ ได้มาอีก จนทุกวันนี้ก็มีพระหลักยอดนิยมหลากหลายประเภท เป็นจำนวนมาก จนจำไม่ได้ว่ามีทั้งหมดกี่องค์ เพราะไม่เคยนับ สิ่งที่น่าภูมิใจ คือ ในชีวิตนี้เสือได้มีโอกาสไปชมพระของเซียนใหญ่ๆ หลายท่าน ไม่ว่าจะเป็นของ ชลอ รับทอง, อุดม กวัสราภรณ์, ประชุม กาญจนวัฒน์, เชียร ธีรศานต์ ฯลฯ ทำให้มีโอกาสได้ศึกษาพระหลักยอดนิยมมากมาย จนติดตาประทับใจถึงทุกวันนี้ และด้วยเหตุนี้ เสือจึงมีความเชื่อมั่นในสายตาตัวเองมาโดยตลอด การซื้อพระแต่ละองค์ จึงกล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ต้องเอาพระไปแห่ถามคนอื่นๆ แต่อย่างไร หากจะถามว่า นักพระเครื่องท่านใดในเมืองชุมพร มีพระหลักยอดนิยมมากที่สุด "เสือ ชุมพร" น่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องอย่างแน่นอน ใต้ภาพ 1 สันต์ วิวัฒนวาณิชย์ (เสือ ชุมพร) หนังสือพิมพ์คมชัดลึก |