วัตถุมงคลสายจตุคามรามเทพ

ในการจัดสร้างวัตถุมงคลตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน มีการจัดสร้างวัตถุมงคลในสายต่างๆ กันอย่างมากมาย แต่ละสายก็มีการแยกย่อยเป็นรุ่นต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก กรณีการจัดสร้างวัตถุมงคลสายจตุคามรามเทพก็เช่นกัน แต่เริ่มเดิมทีก็คงจะเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่าวัตถุมงคลในรุ่นแรกนั้น เป็นวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นในวาระเบิกเนตรศาลหลักเมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ ๓-๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๐ จากจุดเริ่มต้นนี้เอง จึงถือเป็นจุดหลักที่สำคัญและถือว่าวัตถุมงคลสายจตุคามฯ จึงเป็นวัตถุมงคลหลักของชาวนครศรีธรรมราช และเป็นที่น่าภาคภูมิใจของชาวใต้ตั้งแต่นั้นมา ซึ่งในช่วงเริ่มแรกของการจัดสร้าง เราคงจะได้ยินชื่อบุคคลหลัก ๓ ท่านในการจัดสร้างก็คือ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ ราชเดช, พ.ต.อ.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล (ยศในขณะนั้น), อะผ่อง สกุลอมร หรือโกผ่อง

วัตถุมงคลในสายจตุคามรามเทพ การสร้างวัตถุมงคลในเริ่มแรกมีเจตนาก็คือ เพื่อเป็นวัตถุมงคลที่ระลึกในวาระเบิกเนตรศาลหลักเมือง ที่มีการก่อสร้างขึ้นของชาว จ.นครศรีธรรมราช เมื่อรวมถึงประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงความเกี่ยวพัน ต่างๆ ระหว่าง องค์พ่อจตุคามรามเทพ กับพระบรมธาตุฯ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีธรรมราชด้วยแล้ว การสร้างหรือการจัดพิธีกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับองค์พ่อจตุคามรามเทพ ถ้าหากไม่มีความเกี่ยวพันใดๆ กับเมืองนครศรีธรรมราชแล้ว ก็อาจจะมีส่วนด้อยขึ้นมาทันที เพราะแน่นอนผู้คนเมื่อนึกถึงจตุคามฯ ก็คงจะต้องวิ่งเช่าหาบูชากัน จากที่ออกจากนครศรีธรรมราชเป็นที่แรก ซึ่งคงจะเป็นเรื่องจริง เพราะในยุคของการบูมอย่างสุดขีดของยุคจตุคามฯ ทั้งพระจริง พระเก๊ จาก จ.นครศรีธรรมราช ก็เอ่อล้นทะลักไปกลับกลุ่มบุคคลต่างถิ่นที่หวังไปเสาะแสวงหาของดีเมืองนครฯ เรียกว่าของจริงของปลอมวางขายเคียงคู่กันเลย เข้าตำราตาดีได้ตาร้ายเสีย สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้พวกไม่ ประสงค์ดี และชาวบ้านต่างชีช้ำไปตามๆ กันเมื่อทราบทีหลังจน จ.นครศรีธรรมราช จึงต้องมีการประกาศและกวาดล้างพวกแสวงหาผลประโยชน์ จากบุคคลกลุ่มนี้กันยกใหญ่ เพราะถือเป็นการสร้างความเสียหายอย่างหนัก และทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของเมืองนครฯ ในขณะนั้นให้แย่ลง

 ในช่วงนั้นหากสังเกตดูให้ดีก็จะเห็นได้ว่าวัดที่อยู่ในเขต จ.นครศรีธรรมราช เกินกว่าครึ่ง มักจะมีการจัดสร้างจตุคามรามเทพในรุ่นต่างๆ เพื่อเป็นการหาทุนในการบูรณะซ่อมแซมวัดวาอารามของตน รวมถึงกลุ่มเอกชนต่างๆ ในนครศรีธรรมราช มีการตั้งศูนย์ตั้งชมรมเกิดชื่อต่างๆ ขึ้นมามากมาย เพียงเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือในการจัดสร้างองค์จตุคามรามเทพ ดังนั้นวัตถุมงคลในสายจตุคามรามเทพที่ออกมาในนครศรีธรรมราชช่วงนั้น จึงมีจุดขายและดึงดูดจิตใจผู้เช่าหาบูชาเหนือกว่าวัตถุมงคลที่ออกมาจากต่างถิ่น หรือภาคอื่นๆ หลายช่วงตัวนัก

  จุดเด่นที่มักเป็นข้อแตกต่างสำหรับวัตถุมงคลในสายจตุคามรามเทพ รุ่นที่เป็นที่นิยมของคนทั่วไปและนักสะสม ที่ออกที่ จ.นครศรีธรรมราชโดยตรง ที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คงจะเป็นเรื่องของมวลสารเป็นสำคัญ ยิ่งถ้าเป็นวัตถุมงคลที่จัดสร้างโดยทายาทของกลุ่มผู้สร้างเดิมบางราย จะมักเห็นได้ชัดว่า มักมีการอนุรักษ์ลักษณะของเนื้อหามวลสารไว้ไม่ค่อยจะผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดินกากยักษ์ หรือการโรยเศษผงไม้ตะเคียนจากต้นเดิมที่นำมาทำเสาหลักเมือง สร้างความเข้มขลังและถือเป็นจุดขายอย่างดี ที่ผู้เช่าหาบูชามักให้การตอบรับในเบื้องต้นของการจัดสร้างอยู่เสมอ

 ภาพรวมของวัตถุมงคลที่ออกจาก จ.นครศรีธรรมราช ที่เห็นได้อย่างเด่นชัดอีกอย่างที่ดูเข้มขลังและได้เปรียบกว่าวัตถุมงคลที่ออกจากที่อื่นก็คือ พิธีกรรมครับ ซึ่งสมัยก่อนนั้นพิธีกรรมในการอัญเชิญองค์เทพ หรืออธิษฐานจิตปลุกเสกค่อนข้างจะเป็นรูปแบบที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และมีพระเข้าร่วมอธิษฐานจิตเพียงไม่กี่รูป ยิ่งถ้าดูจากรุ่นแรกจะเห็นได้อย่างเด่นชัด แต่ช่วงหลังมีการเพิ่มพิธีกรรมเสริมที่เป็นรูปแบบท้องถิ่นเข้าไปร่วม ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ประจำภาค คือ บทสวดของภาษาท้องถิ่น และการรำโนราห์ถวาย จึงเป็นพิธีกรรมที่ค่อนข้างจะเนียนและดูกลมกลืนกับวัตถุมงคลที่มีการจัดสร้าง

ส่วนสถานที่การจัดพิธีกรรมหลัก นอกจากจัดพิธีกันภายในวัดที่จัดสร้างแล้วคงจะไม่พ้นที่จะต้องไปจัดต่อที่วัดพระธาตุฯ, ที่ศาลหลักเมือง, และที่อนุสาวรีย์พระศรีธรรมโศกราช ฯลฯ รวมถึงสถานที่อื่นๆ ที่มีความเกี่ยวพันเพื่อความสมบูรณ์ หรือไปประกอบพิธีพลีในสถานที่ต่างๆ ตามแต่เจ้าพิธีหรือผู้สร้างจะเป็นผู้กำหนด วัตถุมงคลที่ออกจาก จ.นครศรีธรรมราช จึงดูเข้มขลังตั้งแต่ต้นหากมีการเอ่ยว่าเป็นวัตถุมงคลที่ออกมาจากเมืองนคร และได้ใจผู้เช่าหาบูชาไปกว่าครึ่ง แต่ทั้งนี้จะไปรอดหรือไม่ก็คงต้องขึ้นอยู่กับการสื่อโฆษณา รูปแบบความพิถีพิถันในตัววัตถุมงคล และเจตนาของผู้สร้างเป็นสำคัญ

ส่วนวัตถุมงคลในสายจตุคามรามเทพ ที่ออกมาจากสถานที่อื่นที่นอกเหนือจากเมืองนคร เรามักจะเห็นความแตกต่างของพิธีกรรมกันอย่างหลากหลาย เพื่อสร้างจุดขายหรือความแปลกใหม่ให้วงการจตุคามฯ เช่น เป็นรุ่นแรกที่มีการกดพิมพ์นำฤกษ์ เจิมนำฤกษ์ ณ บุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซียหรือประเภทปลุกเสกบนเครื่องบิน ในเรือดำน้ำ แม้แต่กดพิมพ์นำฤกษ์บนหลังช้างก็ยังเคยมี แต่ในส่วนตัวแล้วที่ผมสังเกตเห็นมาสิ่งที่น่าจะเป็นจุดขายที่ดีและสมบูรณ์ที่สุด แม้แต่วัตถุมงคลที่ออกมาจากเมืองนครหลายรุ่น คงต้องอายคือการระดมมวลสร้างการจัดสร้างที่เรียกว่าเข้มขลังทั้งที่ยังไม่ปลุกเสกมากกว่า เรียกว่ายิ่งผู้สร้างยิ่งมีบารมีมากมวลสารยิ่งมากเป็นทวีคูณ ซึ่งตรงนี้จะเป็นผลประโยชน์โดยตรงสำหรับนักสะสมจริงๆ สิ่งแตกต่างอีกอย่างที่ผมได้เห็นมาในหลายรุ่นที่จัดสร้างนอกจ.นครศรีธรรมราช คือ ผู้สร้างบางรุ่นจัดพิธีเพียงแค่พิธีพุทธาภิเษกที่วัดผู้สร้างธรรมดา เหมือนกับเป็นการปลุกเสกพระเครื่องโดยทั่วไปด้วยซ้ำ และนำฝากร่วมพิธีในทางใต้ต่อเพื่อความสมบูรณ์ ซึ่งรุ่นเหล่านี้ก็มีเยอะในวงการคงจะต้องมีการตรวจสอบกันเองเป็นรายๆ ไป

และสิ่งที่น่าแปลกสำหรับวัตถุมงคลที่ออกนอกเมืองนคร บางรุ่นและบางสำนักกลับได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างล้นหลามก็มี เช่น วัตถุมงคลที่ออกมาจากวัดพุทไธศวรรย์ วัดห้วยมงคล รวมถึงวัดสุทธาราม ย่านสำเหร่ ฯลฯ สิ่งนี้น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าความศักดิ์สิทธิ์ในตัวตนวัตถุมงคลคงจะต้องอาศัยอภิญญาบารมีของผู้สร้างเป็นเกณฑ์ด้วย จึงจะส่งผลดึงพลังศรัทธาของประชาชนเพื่อเข้าสักการบูชาวัตถุมงคลเป็นบางกรณีเช่นกัน ข่าวพระเครื่อง

ธนเดช พันธุ์แท้จุตาคามฯ