พระกรุเลื่องชื่อ เมืองสุพรรณบุรี ไม่มีแผ่นดินของจังหวัดใด ที่จะพบพระเครื่องมากกรุเท่ากับเมืองสุพรรณบุรีนี้ได้เลย เป็นคำกล่าวขานของ จ.สุพรรณบุรี

พระกรุเมืองสุพรรณบุรี สำหรับพระกรุที่เลื่องชื่อ และเป็นที่รู้จักของนักเลงพระทั่วประเทศ มีมากถึง ๑๕ กรุ ได้แก่ ๑.พระกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ๒.พระกรุวัดการ้อง ๓.พระกรุวัดชุมนุมสงฆ์ ๔.พระกรุดอนคา ๕.พระกรุวัดปู่บัว ๖.พระกรุวัดคูบัว ๗.พระกรุบ้านหนองแจง ๘.พระกรุสองพี่น้อง (บางลี่) ๙.พระกรุศาลาขาว (บ้านสวนแตง) ๑๐.พระกรุวัดลาวทอง ๑๑.พระกรุบ้านหัวเกาะ ๑๒.พระกรุท่าเสด็จ ๑๓.พระกรุบ้านดงเชือก ๑๔.พระกรุบ้านละหาน ๑๕.พระกรุบ้านโพธิ์ตะควน ๑๖.พระกรุบ้านวังวน ๑๗.พระกรุบ้านพลูหลวง ๑๘.พระกรุวัดท่าไชย-กรุโรงสี-กรุวัดตะไกร ๑๙.พระกรุวัดป่าเลไลย์ ๒๐.พระกรุวัดราชเดชะ ๒๑.พระถ้ำเสือ กรุวัดเขาถ้ำเสือ กรุวัดเขาพระ กรุวัดเขาดีสลัก ๒๒.พระกรุวัดพระรูป ๒๓.พระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง ๒๔.พระกรุสำปะซิว และ ๒๕.พระกรุวัดชายทุ่ง

 พระเครื่องที่พบใน จ.สุพรรณบุรี ส่วนใหญ่สร้างด้วยเนื้อดิน เนื้อชินและผง ใช้แม่พิมพ์กด หรือหลอมหล่อ อำเภอที่พบมากที่สุด คือ อ.เมือง ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดชายทุ่ง รองลงมาคือ อ.ศรีประจันต์ ที่วัดบ้านกร่าง อ.อู่ทอง พบที่พระถ้ำเสือ และอ.บางปลาม้า พบที่วัดบางยี่หน ฉบับนี้จะขอเขียนถึง พระหน้านกฮูก กรุวัดชายทุ่ง จ.สุพรรณบุรี

 พระหน้านกฮูก เป็นพระพิมพ์ศิลปะเวียงจันทน์ หรือที่เรียกกันว่า “พระลาว” พระพักตร์คล้าย ”หน้านกฮูก” อันเป็นที่มาของชื่อพระ สร้างสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น บรรจุในกรุเจดีย์รวมกับศัสตราวุธต่างๆ

 ประวัติวัดชายทุ่ง สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ โดยชาวไทยเชื้อสายลาวเวียงจันทน์ ซึ่งอพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ในราวปี ๒๓๖๙ -๒๓๗๐  กล่าวกันว่า ชาวเวียงจันทน์ที่อพยพมานั้น มีพระภิกษุร่วมขบวนมาด้วย คือ หลวงพ่ออุมงค์ (องมงค์ หรือโองมุงค์ เรียกเพี้ยนกันไปตามกาลเวลา) ร่วมกันสร้างวัดขึ้นบริเวณ บ้านโคกหม้อ ปัจจุบัน คือ หมู่ ๕ ต.ท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี หลังจากสร้างวัดแล้ว จึงสร้างพระพิมพ์บรรจุในเจดีย์ เป็นพระเครื่อง เนื้อชินตะกั่ว และเนื้อว่าน ๒ พิมพ์ คือ ๑.พิมพ์หน้านกฮูกเศียรแหลม ๒.พิมพ์หน้านกฮูกเศียรโล้น ขณะนำพระบรรจุในองค์เจดีย์นั้น ชาวบ้านโคกหม้อได้นำศัสตราวุธ ต่างๆ อาทิ ปืนดาบศิลา หอก ดาบ หลาว ฯลฯ ซึ่งใช้เป็นอาวุธในศึกสงครามที่ผ่านมาฝังเข้าไปด้วย

 พระหน้านกฮูก พระกรุวัดชายทุ่ง แตกกรุเมื่อปี ๒๔๙๖ โดยมีฝรั่งกับชาวบ้านคนไทยละแวกนั้น ไปดักยิงนกพิราบ ที่เกาะองค์เจดีย์ โดยในขณะที่เหนี่ยวไกปืนนั้น ปรากฏว่ากระสุนขัดลำกล้อง จึงลองยิงอีกหลายครั้ง แต่ผลปรากฏเหมือนเช่นเดิม ชาวบ้านจึงลือกันว่าเจดีย์องค์นี้เฮี้ยน เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไปจนถึง ”นักขุดพระ” จึงแห่กันมาที่เจดีย์วัดชายทุ่ง ลงมือขุดเจาะเจดีย์เพื่อหาสมบัติ และพระบูชา พระพิมพ์ในกรุ เพราะเชื่อว่าฝรั่งที่ยิงปืนไม่ออกนั้น อาจมีของขลัง หรือของวิเศษอยู่ข้างใน หลังจากขุดเจาะถึงข้างในแล้ว ก็พบอาวุธต่างๆ บรรจุรวมกับพระบูชา และพระพิมพ์ เนื้อว่าน และเนื้อชิน (ไม่มีพระพิมพ์เนื้อผง) พระพิมพ์ในกรุนี้ต่อมาวงการพระเรียกว่า พระหน้านกฮูก

 พระเครื่องในกรุนี้มีด้วยกัน ๒ พิมพ์ คือ ๑.พระพิมพ์หน้านกฮูก เป็นพระนั่งขัดสมาธิราบปางสมาธิ พิมพ์นี้เป็นพิมพ์จำลององค์พระสงฆ์ ซึ่งคนจำนวนหนึ่งเชื่อว่าเป็น หลวงพ่อเนียม วัดน้อย มีพระพักตร์กลม พระเนตรกลม เศียรโล้นคล้ายนกฮูก  มีทั้งเนื้อชินและเนื้อว่าน แต่ด้วยถูกเก็บไว้ในกรุเป็นเวลานานนับร้อยปี จึงทำให้เนื้อของพระเกิดการผุกร่อน และมีสนิมคราบไขขึ้นโดยทั่วไป

 ๒.พระพิมพ์เศียรโล้น เป็นพระนั่งปางสมาธิเพชร ลำพระองค์ต้อ มีพระพักตร์กลม พระเนตรยาว แต่พระนาสิกใหญ่ ขณะที่พระกรรณกาง และเศียรโล้น เนื้อตะกั่วสนิมแดง นอกจากนั้นยังมี พระนั่งสมาธิ อีกหลายพิมพ์ ทั้งแบบเต็มองค์ มีปีกสองข้าง พิมพ์เล็บมือ แบบตัดข้างทั้งสี่มุม หรือห้ามุม ทรงสามเหลี่ยม และปลายแหลม เนื้อพระ มีทั้งแบบชินตะกั่วผสมปรอท เนื้อชินตะกั่วจะมีคราบสนิมไขขาวขึ้นอยู่ทั่วไป ส่วนเนื้อว่านจะมีเนื้อแห้งแน่น บางองค์เกิดการหดตัวของว่าน ทำให้ผิวของพระขุรขระ พระเครื่องกรุวัดชายทุ่ง มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมทางด้านคงกระพันชาตรีและเมตตามหานิยม

 พระกรุนี้ได้รับความนิยมสูงมาโดยตลอด โดยเฉพาะพิมพ์หน้านกฮูกเศียรโล้นได้รับความนิยมมาก องค์ที่มีสภาพสวยสมบูรณ์ราคาเป็นเรือนหมื่นขึ้นไป แบ่งออกเป็น ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์เศียรแหลม และ พิมพ์เศียรโล้น เนื้อพระที่พบส่วนใหญ่เป็นเนื้อชินตะกั่ว คล้ายกับพระหลวงพ่อเนียม วัดน้อย และบางองค์ผิวสนิมแดงมีไขขาวเกาะติดทั่วไป แต่สำหรับเนื้อว่านนั้น พบน้อยมาก ปัจจุบันค่าความนิยม พระหน้านกฮูก กรุวัดชายทุ่งอยู่ในระดับหมื่นต้นๆ แต่ถ้าหากเป็นเนื้อว่านค่านิยมจะสูงกว่า ส่วนในด้านพุทธคุณ เลื่องลือในด้านมหาอุด

 ท้ายนี้ขอบอกบุญโครงการจัดสร้าง ชุดไตรภาคี อมตะพระเครื่องแห่งเมืองสุพรรณ ประกอบด้วย พระผงสุพรรณพระขุนแผนทรงพลใหญ่ และ พระถ้ำเสือ ซึ่งประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ อ.เมือง เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๑ บูชาชุดละ ๙๙๙ บาท ปัจจัยที่ได้เพื่อบูรณะวัดในประวัติศาสตร์ ๓ แห่ง คือ ๑.เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญวัดสาลี อ.บางปลาม้า ๒.เพื่อสมทบทุนสร้างวิหารบูรพาจารย์วัดสำปะซิว อ.เมือง และ ๓.เพื่อบูรณะศาลาการเปรียญวัดแค อ.เมือง สอบถามรายละเอียดได้บูชาได้ที่ วัดสาลี วัดสำปะซิว และ วัดแค โทร.๐๘-๓๓๑๔-๓๓๐๔-๕ และ ๐๙-๙๖๙๙-๙๙๒๘ ข่าวพระเครื่อง